Daily Market Outlook (28 ต.ค.59)

Daily Market Outlook (28 ต.ค.59)

ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งแต่ตลาดไม่ค่อยชอบ

คาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบวันนี้แต่น่าจะปิดเป็นบวกได้ แม้ตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดลบเมื่อคืน โดยที่ดอลลาร์ที่แข็งค่าน่าจะเป็นบวกต่อหุ้นส่งออก ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นน่าจะดีต่อหุ้นพลังงาน และอัตราผลตอบทนพันธบัตรที่สูงขึ้นน่าจะหนุนกำไรธนาคาร ตลาดรอตัวเลข GDP สหรัฐคืนนี้หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนที่ออกมาดีหลายตัวทำให้ความน่าจะเป็นที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยปลายปีนี้สูงขึ้นไปอีกอยู่แล้ว ภายในประเทศวันนี้ BPP บริษัทลูกของ BANPU ในธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้าจะเข้าซื้อขายเป็นวันแรก น่าจะทำให้ตลาดคึกคักขึ้นมาได้บ้าง ปัจจัยอื่นไม่ค่อยมีอิทธิพลเท่าใดนัก

หุ้นเด่นวันนี้ : ANAN (Bt5.00; BUY; 17TP AWS Bt7.50)

บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เป็นหุ้นที่เราเลือกให้ลงทุนในวันนี้ จากแนวโน้มผลประกอบการสดใสมากในปี 2559-2560 จากผลของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการผลักดันการขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล โดยเฉพาะระบบขนส่งมวลชน คาดผลประกอบการไตรมาส 3/59 ที่จะประกาศมาจะทรงตัวจากไตรมาส 2/59 แต่เรามองผลประกอบการไตรมาส 4/59 จะเป็นไตรมาสที่แข็งแกร่งอย่างมาก จากยอดโอนของหลายโครงการที่จะเข้ามา หลังจากที่โครงการขนาดใหญ่เปิดตัวไปในปี 2556-2557 การโอนโครงการใหญ่เริ่มต้นตั้งแต่ปลายไตรมาส3/59 คาดว่าจะช่วยให้ผลประกอบ ANAN ดีโดดเด่นในช่วงปี 2559-2561 เราคาดการณ์การเติบโตของกำไรสุทธิ15% ในปี 2559 และคาดว่าจะเติบโตแข็งแกร่งเป็น81% ในปี 2560 โดย ANAN มีเป้าหมายยอดโอนมากถึง1.56 หมื่นล้านบาทในปี 2559 เป็นอัตราเพิ่มขึ้น 62% YoYและ 3.02 หมื่นล้านบาท ปี 2560 เพิ่มขึ้น 94% YoYนอกจากนี้ยังมีธุรกิจร่วมทุน 51:49 กับ Mitsui Fudosan ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในประเทศญี่ปุ่น โครงการแรกที่ร่วมทุนกันคือ Ideo Qจุฬา-สามย่าน มูลค่าโครงการ6.8 พันล้านบาทเริ่มมียอดโอนสิ้นไตรมาส 3/59 เร็วขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะเริ่มโอนไตรมาส 4/59 ปัจจุบัน ANAN ซื้อขายที่ PER ที่คาดหวังเพียง 11.8 เท่าในปีนี้และคาดว่าลดลงเป็น6.7 เท่าในปี 2560 ANAN ยังundervalued และเราเชื่อว่าตลาดประเมินการเติบโตของกำไร ANAN ต่ำเกินไป มุมมองทางเทคนิค Price Pattern ของ ANAN มีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal มีแนวโน้มที่จะได้เห็นการทำ New High ได้อย่างต่อเนื่องโดยมีเป้าหมายแรกของการทำ New High อยู่ที่ 5.90 บาท ซึ่ง ANAN มีจุด Stop Loss ระยะสั้นรอบนี้อยู่ที่ 4.46 บาท (Resistance: 5.10, 5.20, 5.30; Support: 4.92, 4.82, 4.70)

ปัจจัยสำคัญ

ประเด็นในประเทศ:

• รมว.คลังยังมั่นใจเศรษฐกิจไตรมาส 4 น่าจะสดใสแม้จะชะลอตัวระยะสั้น ซึ่งก็ได้ฟื้นกลับมาแล้ว รมต.ยังมั่นใจว่า GDP ปีนี้ทั้งปีน่าจะสูงกว่า 3% YoY (InfoQuest)

• ใช้ E-tax ในปี 60 ประมาณกลางปี โดยจะเริ่มจากบริษัทใหญ่ก่อนและอาจจะใช้เวลาประมาณสามปีเพื่อให้ธุรกิจทุกขนาดเข้าระบบ e-tax มาตรการนี้เพื่อยกระดับการเก็บภาษีและส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลแห่งชาติ (Bangkok Post)

• BPP(ราคา IPO 21.00 บ.) ซึ่งเป็นบริษัท Flagship ในธุรกิจไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนของกลุ่ม BANPU จะเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันนี้เป็นวันแรก โดย BPP ระดมทุนผ่านการออกหุ้น IPO มูลค่า 1.36 หมื่นลบ. ซึ่งมีแผนที่จะนำเงินไปใช้ขยายการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าขึ้นสู่ระดับกำลังการผลิต 2,400 เมกะวัตต์ภายในปี 2561 และตั้งเป้าระยะยาวไว้ที่ 4,300 เมกะวัตต์ภายในปี 2568 ซึ่งจะมาจากโครงการทั้งในและต่างประเทศ จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 1,913 เมกะวัตต์ที่ผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้ว รวมถึงโครงการที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) แล้ว 643 เมกะวัตต์ที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาโครงการ (SET/Company data) ความเห็น: เราประเมินราคา IPO ได้รวมมูลค่าจากโครงการที่มีความชัดเจนในแง่ของสัญญาซื้อขายไฟฟ้าทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นโครงการลงทุนใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตถือเป็น Upside ต่อราคาหุ้น ด้วย PER ปีนี้ที่ราว 14-15 เท่า อาจมองว่าราคาหุ้นน่าสนใจสำหรับการเติบโตจากโครงการใหม่ๆ

• PTTEP(83.00 บ. ขาย ราคาเป้าหมาย AWS 73.00 บ.) รายงานกำไรสุทธิงวด 3Q59 อยู่ที่ 5.4 พันลบ. เป็นไปตามที่เราคาดไว้แต่ดีกว่าที่ตลาดคาด (Bloomberg consensus) ว่าจะอยู่ที่ 4.5 พันลบ. โดยผลประกอบการพลิกจากขาดทุนมหาศาลในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ 4.62 หมื่นลบ. จากการหายไปของรายการขาดทุนด้อยค่าสินทรัพย์ ขณะที่กำไรสุทธิปรับตัวสูงขึ้น 105% QoQหลักๆ มาจากแรงหนุนของรายการที่ไม่เกิดขึ้นประจำ หากพิจารณากำไรปกติพบว่ายังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง 20% QoQมาอยู่ที่ 4.4 พันลบ. (SET)ความเห็น: โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็มวันนี้

ต่างประเทศ

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนเมื่อวันพฤหัสตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษและเยอรมนีรวมทั้งตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐที่ลดลงซึ่งบอกเป็นนัยว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐในสัปดาห์หน้าน่าจะสดใสเช่นกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมันอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน ส่วนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 เดือน เป็นแรงหนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นเช่นกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.813% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในเดือนนี้และใกล้กับระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนที่ 1.814% (Reuters)

• ดอลลาร์สหรัฐปิดแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 3 เดือนเทียบกับเงินเยนเมื่อวันพฤหัสหนุนโดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและความคาดหวังมากขึ้นว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนในสัปดาห์นี้ และปิดเพิ่มขึ้น 0.1% ที่ระดับ 98.716 เมื่อวันพฤหัส เทียบกับเงินเยน ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.2% ที่ระดับ 104.65 เยน ห่างจากระดับสูงสุดที่ 104.875 เยนเมื่อวันอังคาร (Reuters)

สหรัฐ:

• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบเล็กน้อยเมื่อวันพฤหัส หลังจากการประกาศผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ครั้งล่าสุด ซึ่งหุ้นในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและกลุ่มบันเทิง กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภคปรับตัวลงสวนกับหุ้นในกลุ่มธุรกิจดูแลสุขภาพที่ปรับตัวขึ้น การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐในช่วงนี้มีส่งผลลบต่อกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มสาธารณูปโภคซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย (Reuters)

• ที่ผ่านมากำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนใน S&P500 ในไตรมาส 3/59 ส่วนใหญ่สูงกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์เป็นครั้งแรกที่กำไรเติบโตนับแต่ไตรมาส 2/58 ข้อมูลของ Thomson Reuters I/B/E/S แสดงว่ากำไรสุทธิไตรมาส 3/59 ของบริษัทจดทะเบียนในขณะนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.6% เทียบกับเมื่อวันพุธที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.2% และคาดว่าจะลดลง 0.5% เมื่อต้นเดือนต.ค. (Reuters)

• จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงในสัปดาห์ก่อน บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานและการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมั่นคง จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 3,000 ราย อยู่ที่ 258,000 รายในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 22 ต.ค. ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ 86 ติดต่อกันแล้วที่จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการอยู่ในระดับต่ำกว่า 300,000 ราย บ่งชี้ถึงตลาดแรงงานสหรัฐมีความแข็งแกร่ง และติดต่อกันยาวนานที่สุดนับแต่ปีค.ศ. 1970 นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะลดลงอยู่ที่ 255,000 รายในสัปดาห์ก่อน (Reuters)

• ยอดคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ผลิตแล้วลดลงผิดคาดเดือน ก.ย. ท่ามกลางอุปสงค์ที่อ่อนแอสำหรับคอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ คำสั่งซื้อสินค้าทุนไม่รวมการทหารและอากาศยานที่เป็นตัวสะท้อนการใช้จ่ายภาคธุรกิจลดลง 1.2% หลังจากเพิ่มขึ้นมาสามเดือนติด ซึ่งตัวเลขในเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 1.3% นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าสินค้าทุนพื้นฐานนี้จะเพิ่มขึ้น 0.3% เดือนที่แล้ว (Reuters)

ยุโรป:

• ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพฤหัสบดีปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยจากแรงหนุนของหุ้นกลุ่มเภสัชกรรม รวมไปถึงการประกาศผลประกอบการของ Deutsche Bank ที่เป็นกำไรสุทธิที่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด หนุนจากจากการปรับตัวสูงขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ซึ่งได้หนุนหุ้นธนาคารในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในเวลาเดียวกัน (Reuters)

• ECB จะตัดสินใจในวิธีการยืดระยะเวลามาตรการ QE ในเดือนธ.ค. นี้ อ้างอิงจากคำกล่าวของนาย EwaldNowotny ผู้กำหนดนโยบายของ ECB ขณะที่ก่อนหน้านี้นาย Mario Draghiประธาน ECB กล่าวถึงความเป็นไปได้สูงที่จะปรับเปลี่ยนมาตรการทางการเงิน ขึ้นกับแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ (Reuters)

เอเชีย:

• ราคาผู้บริโภคพื้นฐานของญี่ปุ่นลดลง 0.5% YoYในเดือนกันยายนเป็นเดือนที่เจ็ดติดต่อกัน ตอกย้ำมุมมองของธนาคารกลางในการต้องใช้เวลาเพื่อพาอัตราเงินเฟ้อให้เร่งตัวขึ้นไปยังเป้าหมาย 2%การลดลงในดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานนี้รวมถึงผลิตภัณฑ์น้ำมันที่มีความผันผวน แต่ไม่รวมราคาอาหารสด ขณะที่ตลาดคาดการณ์เฉลี่ยลดลง 0.5%(Reuters)

• การใช้จ่ายในครัวเรือนที่แท้จริงซึ่งปรับราคาแล้วของญี่ปุ่นลดลง 2.1% YoYในเดือนกันยายน จากข้อมูลของรัฐบาลที่แสดงให้เห็นในวันศุกร์ ดีกว่าเมื่อเทียบกับค่าคาดการณ์เฉลี่ยของนักเศรษฐศาสตร์สำนักข่าวรอยเตอร์ที่มองลดลง 3.0% (Reuters)

• อัตราการว่างงานของญี่ปุ่นลดลง 3.0% ในเดือนกันยายนจาก 3.1% ในเดือนสิงหาคมเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2538 ขณะที่การคาดการณ์เฉลี่ยในการสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์สำนักข่าวรอยเตอร์อยู่ที่ 3.1% (Reuters)

• นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นายนาจิบ ราซัค มุ่งหน้ายังประเทศจีนในสัปดาห์หน้าเพื่อสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดและแสวงหาการลงทุน ซึ่งต่อไปอาจจะมามีอิทธิพลแทนสหรัฐฯ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากที่ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตเต้ ของฟิลิปปินส์ กระชับความสัมพันธ์กับจีน นาจิบจะเดินทางไปยังประเทศจีนกับผู้นำรัฐบาลและนักธุรกิจหลายสิบคน โดยในแถลงการณ์เมื่อวันพุธ เขากล่าวว่ามาเลเซียมีความมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความเข้มแข็งมิตรภาพกับประเทศจีนและผลักดันความสัมพันธ์ไปสู่ "จุดสูงสุดใหม่" (Reuters)

• กำไรภาคอุตสาหกรรมของจีนชะลอตัวลง: ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนถูกสั่งคลอนโดยข้อมูลที่แสดงผลกำไรในบริษัทอุตสาหกรรมของจีนขยายตัว 7.7% ในเดือนกันยายนซึ่งชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วจาก 19.5% ในเดือนก่อนหน้านี้ ขณะที่หลายภาคส่วนได้รับผลกระทบจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ (Reuters)

สินค้าโภคภัณฑ์:

• น้ำมันบวกวันพฤหัส เพราะคำมั่นจากกลุ่ม OPEC ที่จะลดกำลังการผลิตบรรเทาข้อกังขาว่าผู้ผลิตน้ำมันอื่นจะให้ความร่วมมือหรือไม่ ราคายังถูกหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลง 6.5 แสนบาร์เรล ณ Cushing รัฐ Oklahoma จากข้อมูลของ Genscapeซาอุฯ และพันธมิตรเขตอ่าวกล่าวว่าสัปดาห์นี้รัสเซียมีความต้องการที่จะลดการผลิตสูงสุดลง 4% OPEC จะประชุมกันวันที่ 30 พ.ย. และคาดว่าจะรู้ว่าจะต้องลดกำลังผลิตเท่าไร น้ำมัน Brent ส่งมอบ ธ.ค. เพิ่มขึ้น 49 เซนต์ (+1.0%) ปิดที่ 50.47 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐ ลบ 49 เซนต์ (+1.1%) ปิดที่ 49.72 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)

• ทองคำน่าจะคงที่ต่อทั้งสัปดาห์ เพราะตลาดจับตาสัญญาณเพิ่มเติมว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐเมื่อไหร่ ราคาทองคำตลาดจรบวก 0.2% ปิด 1,269.21 ดอลลาร์ ทองคำล่วงหน้า ธ.ค. บวกเท่าๆ กันปิดที่ 1,269.70 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)