เซ็นทรัล ยึดหลัก ‘รอบคอบ-โปร่งใส’

กลุ่มทุนไทยรายใหญ่ “เซ็นทรัล” ดำเนินธุรกิจครอบคลุมกิจการค้าปลีก ศูนย์การค้า โรงแรม อสังหาริมทรัพย์ อุปโภคบริโภค ไลฟ์สไตล์ และบริการต่างๆ ประกาศความมั่นใจต่อพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่แข็งแกร่งเป็นปัจจัยบวกต่อการเดินหน้าลงทุนอย่างต่อเนื่อง แต่ละปีคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 3-4 หมื่นล้านบาท

นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า ในวันนี้กลุ่มเซ็นทรัลยังคงเดินหน้านโยบายการบริหารและการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องทั้งในปีนี้และปีหน้า โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ประกอบด้วย เวียดนาม พม่า ลาวกัมพูชา มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย

“ภายใต้ร่มพระบารมียาวนาน 70 ปี ที่กลุ่มเซ็นทรัลได้ดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลา 69 ปี เราเชื่อมั่นว่าพระองค์ได้วางรากฐานทางเศรษฐกิจให้กับประเทศด้วยหลักปรัชญาการดำเนินงานที่สอดคล้องกับคนทุกยุคทุกสมัย”

ยึดหลัก รอบคอบ-โปร่งใส

กลุ่มเซ็นทรัล มุ่งเน้นการดำเนินงานอย่างรอบคอบและโปร่งใส ประกอบด้วยธุรกิจทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โดยสัดส่วนธุรกิจต่างประเทศมีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ธุรกิจในประเทศไทยก็ยังเป็นธุรกิจหลักและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รองรับลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เชื่อว่าจะยังคงหลั่งไหลมายังประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยได้เป็นอย่างดี

ปี 2559 กลุ่มเซ็นทรัลเชื่อมั่นประมาณการเติบโตของยอดขายจากปีที่แล้วมากกว่า 20% หรือคิดเป็นมูลค่ายอดขายรวมประมาณ 3.2 แสนล้านบาท

 

หนุนเอสเอ็มอี-ชุมชน

นอกจากนี้กลุ่มเซ็นทรัล ยังมีแผนที่จะขยายความร่วมมือทางด้านธุรกิจทั้งกับภาครัฐ เอกชน เพื่อส่งเสริมระบบเศรษฐกิจ ให้ทุกส่วนก้าวหน้าไปด้วยกัน รวมทั้งส่งเสริมและผลักดันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยที่มีศักยภาพให้เติบโตและขยายตลาดทั้งภายในและนอกประเทศ เป็นการช่วยเหลือชุมชนให้มีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนสามารถแบ่งปันความรู้ไปสู่ชุมชนรอบข้างให้เติบโตไปพร้อมกันได้

เป็นไปตามแนวทางการบริหารงานกับผู้มีส่วนร่วมเชิงธุรกิจ ได้แก่ ผู้ผลิตสินค้าและวัตถุดิบ สิ่งแวดล้อม สังคม พนักงาน หน่วยงานภาครัฐ และคนรุ่นหลัง ทั้งการร่วมมือกันในระยะยาว โดยการวางแผนเชิงกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพจะนำไปสู่การเติบโตของธุรกิจร่วมกันด้วยความเท่าเทียม

“เราเชื่อว่าทุกภาคส่วนจะร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่งและก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงด้วยการร่วมแรงร่วมใจกัน เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีต่อพระพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งพระองค์จะสถิตอยู่ในดวงใจของชาวไทยทุกคนตลอดไป”