วธ.พิมพ์โปสการ์ดแจก9แสน28ตค.

วธ.พิมพ์โปสการ์ดแจก9แสน28ตค.

วธ.พิมพ์โปสการ์ดแจก 9 แสน 28 ตค.นี้ คัด 89 ภาพ จัดนิทรรศการยิ่งใหญ่ "ทรงสถิตในดวงใจไทยนิรันดร์"

วธ.จะนำภาพที่มีประชาชนส่งมา 18,000 ภาพมาจัดทำ หนังสือ “จดหมายเหตุฉบับประชาชน” และสารคดี ”ธ ทรงสถิตในดวงใจไทยทุกคน” เพื่อบันทึกเหตุการณ์สำคัญยิ่งของประเทศและเผยแพร่เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของชาติ และจัดนิทรรศการยิ่งใหญ่ "ทรงสถิตในดวงใจไทยนิรันดร์” แสดงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชนชาวไทย ฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช คัดเลือกภาพของช่างภาพที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย 9 ภาพพิมพ์เป็นโปสการ์ด ภาพละ 100,000 ภาพ เพื่อแจกจ่ายประชาชนที่เข้าร่วมชมนิทรรศการ เปิดเข้าชม 28 ต.ค.นี้ ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร พร้อมเปิดให้ชมพิพิธภัณฑ์ฯ-โรงราชรถ ให้ชมฟรี ส่วนภูมิภาคประสานผู้ว่าฯ วัฒนธรรมจังหวัด จัดนิทรรศการตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค.นี้เป็นต้นไป  

นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวว่า จากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับสำนักนายกรัฐมนตรี และศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์(ศตส.) รวบรวมภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวจากประชาชน สื่อมวลชน หน่วยงานต่างๆ เพื่อบันทึกเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์แห่งความทรงจำ "พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” ที่ได้บันทึกไว้ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2559 เป็นต้นมา ให้ วธ.นำมาจัดทำหนังสือ "จดหมายเหตุฉบับประชาชน”และสารคดี "ธ ทรงสถิตในดวงใจไทยทุกคน” เพื่อบันทึกเหตุการณ์สำคัญยิ่งของประเทศและเผยแพร่เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของชาติ ซึ่งเบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีผู้ส่งภาพนิ่งมาแล้วจากทั่วประเทศกว่า 18,000 ภาพ และภาพวีดิโอ 53 คลิป (ข้อมูล ณ วันที่ 24 ตุลาคม 2559 ) แล้วนั้น    

นายวีระ กล่าวต่อไปว่า วธ. จะนำภาพที่มีประชาชนส่งมาจัดแสดงนิทรรศการอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและร่วมแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ภายใต้ชื่อ “ทรงสถิตในดวงใจไทยนิรันดร์” โดยส่วนกลาง วธ.ร่วมมือกับสมาคมถ่ายภาพต่างๆ ในประเทศไทย อาทิ สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมถ่ายภาพกรุงเทพ กลุ่มสห+ภาพ และช่างภาพจิตอาสา นำภาพถ่ายมาจัดนิทรรศการนำเสนอภาพทรงจำอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เพื่อให้ประชาชนชาวไทยและชาวต่างประเทศได้ชม โดยจะจัดขึ้น 2 ครั้ง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ดังนี้ 

ครั้งที่ 1 ครบรอบพิธีบำเพ็ญกุศล 15 วัน ปัณรสมวาร (ปัน-นะ-ระ-สะ-มะ-วาน) ระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม ถึง 30 พฤศจิกายน 2559 ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-20.00 น. นิทรรศการประกอบด้วย 3 ส่วน ดังนี้ 1.นิทรรศการที่แสดงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชนชาวไทย โดยมีการจัดฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 2.นิทรรศการที่เกี่ยวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3.นิทรรศการภาพถ่ายที่ประชาชนส่งเข้ามาขณะนี้กว่า 18,000 ภาพ คัดเลือกให้เหลือ 89 ภาพมาจัดแสดง ส่วนภาพอื่นๆจะจัดแสดงผ่านจอโทรทัศน์เพื่อให้เห็นภาพทั้งหมดที่ประชาชนส่งเข้ามาด้วยเปิดให้ชมโรงราชรถ

นอกจากนี้จะมีการคัดเลือกภาพของช่างภาพที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย 9 ภาพ โดยจะนำทั้ง 9 ภาพ มาจัดพิมพ์เป็นโปสการ์ด ภาพละ 100,000 ภาพ เพื่อแจกจ่ายประชาชนที่เข้าร่วมชมนิทรรศการ โดยจะมีพิธีเปิดนิทรรศการอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 ตุลาคม เวลา 15.30 น. ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และในโอกาสนี้มีการเปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และโรงราชรถ ให้ประชาชนได้เข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ส่วนการจัดนิทรรศการภาพถ่าย ครั้งที่ 2 ครบรอบพิธีบำเพ็ญกุศล 50 วัน ปัญญาสมวาร (ปัน-ยา-สะ-มะ-วาน) เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2559 -21 มกราคม 2560 โดยจะเป็นการแสดงภาพถ่ายของศิลปินแห่งชาติ และช่างภาพมืออาชีพจำนวน 89 ภาพจาก 89 คน  

นางจีระนันท์ พิตรปรีชา   ตัวแทนจากกลุ่มสห+ภาพ กล่าวว่าเพียง 2 วันที่ได้ทำหน้าที่คัดเลือกภาพที่ส่งผ่านทางการสื่อสารไม่ต่ำกว่า 2,000-3,000 ภาพ แต่ละภาพล้วนแต่สื่อถึงความจงรักภักดีแด่พระองค์ และรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ มีอยู่ภาพหนึ่งช่างภาพถ่ายที่รพ.ศิริราช สื่อความหมายได้ดีแทบไม่ต้องบรรยายทันที่ทีี่ทราบข่าวผู้หญิืิงคนหนึ่งนั่งกอดพระบรมฉายาลักษณ์น้องไห้ น่้ำตาหยดลงภาพบนภาพที่มีห่อด้วยพลาสติค ในฐานะนักเขียนไม่ต้องมีคำอธิบายใดๆ ก็เข้่าใจได้ในฐานะช่างภาพภาพได้่ทำหน้าที่นั้นแทนดีที่สุดแล้ว

"ตั้งใจว่าจะทำงานนี้ให้ดีที่สุด แม้ว่าจะมีเวลาเตรียม และทำงานเพียง 3 วัน ช่างภาพและคณะทำงานทุกคน ต่างทำหน้าที่ที่ได้รับหมายอย่างเต็มความสามารถเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและร่วมแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ร่วมกับประชาชนทุกคน" นางจีระนันท์ กล่าว

นายอนุชัย ศรีจรูญพู่ทอง ศิลปินช่างภาพกล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมาเคยได้มีโอกาสถวายงานรับใช้พระบาทสมเด็จพระปรมินทร์มหาภูมิพลอดุลยเดชในพระราชพิธีที่สำคัญของชาติหลายครั้ง นับตั้งแต่งานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคม พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งทุกงานคิดเสมอว่า ในฐานะช่างภาพต้องทำให้ดีให้สมพระเกียรติที่สุด แต่การทำงานในครั้งนี้คิดอย่างเดียวว่า จะต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจที่มีทั้งหมดอย่างเต็มที่ เพราะว่าเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่จะได้มีโอกาสปฏิบัติหน้าที่เพื่อพระองค์ท่าน

นายอนุชัย กล่าวว่า สำหรับการบันทึกประวัติศาสตร์ชาติครั้งนี้ ตั้งใจจะจะรวบรวมภาพที่สื่อถึงความรู้สึกของประชาชนชาวไทยที่รักและเทิดทูนพระองค์ท่านอย่างหาที่สุดมิได้ เหมือนกับที่พระองค์เคยตรัสไว้ ว่า ที่พระองค์ทรงกล้อง ก็เพราะว่า พระองค์อยากถ่ายภาพของประชาชนที่มาเฝ้ารอรับเสด็จว่ารู้สึกอย่างไร โดยที่มีประชาชนเป็นโฟกัสของภาพถ่าย 

ดังนั้นจึงเน้นไปที่การเข้ามาแสดงความจงรักภักดีแด่พระองค์ และรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ในมุมมองที่มีความหลากหลายให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ส่วนตัวได้น้อมนำคำสอนของพระองค์ที่ว่า “อย่าถ่ายภาพเพียงแค่สวยอย่างเดียว แต่จงนำภาพถ่ายนั้นมาใช้ประโยชน์กับประเทศชาติและสังคมส่วนใหญ่” ซึ่งตนเองได้ยึดมาเป็นหลักการทำงานเสมอโดยเฉพาะในเรื่องของความเพียร ซึ่งจะทำให้ทุกงานที่เราทำประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของประชาชน สื่อมวลชนและหน่วยงานต่างๆยังสามารถส่งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวได้อย่างต่อเนื่องผ่านช่องทางเฟสบุ๊ค pic.culture2559 หรือhttp://www.facebook.com/Pic.Culture2559/และช่องทางแอพพลิเคชั่นไลน์ pic.culture หรือhttp://line.me/ti/g/TndwjfZf6dโดยผู้ที่บันทึกภาพเหตุการณ์ต้องระบุวัน เวลา สถานที่ถ่ายภาพ และระบุชื่อผู้ถ่าย พร้อมเบอร์ติดต่อ สอบถามโทร. 02-422-8729 หรือสายด่วนวัฒนธรรม 1765  

รมว.วธ. กล่าวอีกว่า สำหรับกิจกรรมในส่วนของภูมิภาค ได้ขอความร่วมมือไปยังจังหวัดและวัฒนธรรมจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ จัดนิทรรศการ “ทรงสถิตในดวงใจไทยนิรันดร์” ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป ประกอบด้วย 1.นิทรรศการที่เกี่ยวกับพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์และพระราชกรณียกิจและโครงการตามพระราชดำริ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเกี่ยวข้องกับด้านศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม 2.นิทรรศการภาพเหตุการณ์น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณและร่วมถวายความอาลัยของพสกนิกรนับตั้งแต่วันเสด็จสวรรคตจนถึงปัจจุบัน

โดยภาพของแต่ละจังหวัดนั้น สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดคัดเลือกภาพเหตุการณ์ของจังหวัดที่มีความสวยงามและยิ่งใหญ่ และเชิญผู้ที่เคยถวายงานมาร่วมกิจกรรม และเชิญวิทยากรที่มีความรู้ เรื่อง สถาบันพระมหากษัตริย์มาให้ความรู้ในการจัดนิทรรศการ โดยนิทรรศการดังกล่าวจะเคลื่อนที่ไปจัดในพื้นที่อื่นๆ เช่น ในอำเภอต่างๆของจังหวัดด้วย       ในบริเวณที่จัดนิทรรศการสามารถจัดกิจกรรมอื่นๆ ร่วมด้วย 

อาทิ ฉายภาพยนตร์ สารคดีเฉลิมพระเกียรติฯ สารคดีเมื่อครั้งเสด็จเยี่ยมราษฎรครั้งแรกใน 4 ภูมิภาค (ที่หอภาพยนตร์ส่งลิงค์ให้ดาวน์โหลดแล้ว) สารคดีหรือเพลงพระราชนิพนธ์ หรือสื่ออื่นๆ ที่เหมาะสม เชิญผู้ที่เคยร่วมถวายงานมาร่วมกิจกรรมในบริเวณที่จัดนิทรรศการ และนำเสนอโครงการตามพระราชดำริหรือการนำเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในพื้นที่ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของประชาชน สื่อมวลชนและหน่วยงานต่างๆยังสามารถส่งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวได้อย่างต่อเนื่องผ่านช่องทางเฟสบุ๊ค pic.culture2559 หรือhttp://www.facebook.com/Pic.Culture2559/และช่องทางแอพพลิเคชั่นไลน์ pic.culture หรือhttp://line.me/ti/g/TndwjfZf6dโดยผู้ที่บันทึกภาพเหตุการณ์ต้องระบุวัน เวลา สถานที่ถ่ายภาพ และระบุชื่อผู้ถ่าย พร้อมเบอร์ติดต่อ สอบถามโทร. 02-422-8729 หรือสายด่วนวัฒนธรรม 1765