BAY - ซื้อ

BAY - ซื้อ

กำไรไตรมาส 3/59 เกินคาดเล็กน้อยจากสินเชื่อโต กว่าคาด

กำไรเกินคาด 6%

BAY ประกาศกำไรไตรมาส 3/59 ที่ 5.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% YoY และ 11% QoQ ผลประกอบการมากกว่าที่เราคาดการณ์ถึง 6% และมากกว่าตลาดคาดถึง 9% ซึ่งมาจากการเติบโตของการปล่อยสินเชือที่ดีกว่าที่เราคาดการณ์ ทั้งนี้ธนาคารประกาศการเติบของสินเชื่ออยู่ที่ 3.4% QoQ เทียบกับตัวเลขของเราที่ 1.5% QoQ โดยกำไรจากการดำเนินงานที่ไม่รวมสำรองหนี้เสียเพิ่มขึ้น 13% YoYและ 8% QoQ อยู่ที่ 1.26 หมื่นล้านบาท กำไร 9 เดือนแรก 2559 โต 20% YoY อยู่ที่ 1.62 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 75.6% จากประมาณการกำไรปี 2559 ของเราที่ 2.15 หมื่นล้านบาท

ประเด็นหลักผลประกอบการ

สินเชื่อเติบโตที่ 3.4% QoQ และ 7.7% YTD ซึ่งออกมาดีเกินกว่าที่เราคาดการณ์ มากจากการปล่อยสินเชื่อบรรษัทขนาดใหญ่และธุรกิจรายย่อยเติบโตถึง 1.7% QoQ และ 5.4% QoQ ตามลำดับ โดยที่การปล่อยสินเชื่อธุรกิจ SME ปรับตัวสูงขึ้นเพียง 2.1% QoQ และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของไตรมาส 3/59 ที่เพิ่มขึ้น 5bps YoY อยู่ที่ 3.73% และรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิที่เพิ่มขึ้น 11% YoY และ 2% QoQ อยู่ที่ 1.56 หมื่นล้านบาท เพิ่มตามการเติบโตสินเชื่อที่เติบโตขึ้น YoY ดังกล่าวข้างต้น

รายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่ม 3% YoY และ 7% QoQ อยู่ที่ที่ 5.6 พันล้านบาท สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ที่ 1.09 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% YoY และ 5% QoQอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ BAY ในไตรมาส3/59 อยู่ที่ 46.4% ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจาก 47.0% ในไตรมาส 2/59 และ 46.8%ในช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้ว

ค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯเพิ่มขึ้น 9% YoY แต่ทรงตัว QoQ ที่ 5.3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามที่เราคาดการณ์ ทั้งนี้สัดส่วนหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเขื่อลดลงต่อเนื่องเหลือเพียง 2.1% (น้อยที่สุดในกลุ่มธนาคารขณะนี้) ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2559 จาก 2.2%จากสามเดือนที่ผ่านมา ขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสะสมต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 152% (สูงเป็นลำดับสองรองจาก BBL ที่ 160%) ในไตรมาส 3/59 จาก 147% ในไตรมาสที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ 3.24 หมื่นล้านบาท ณ สิ่นเดือนก.ย 2559 ลดลง 2.6% QoQ

แนวโน้ม

เราคาดว่ากำไรไตรมาส 4/59 จะเติบโตที่ 20% YoY จากการปล่อยสินเชื่อที่ดีหลังจากควบรวมกิจการกับ HKL ในไตรมาส 3/59 เป้าการเติบโตของสินเชื่อบริษัทปรับเพิ่มอยู่ที่ 8-9% จาก เดิม 5-6% สำหรับตัวเลขของเรายังคงอยู่ที่ 7% ไม่เปลี่ยนแปลง

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

เรายังคงคาดการณ์กำไรปี 2559 ของเราที่ 2.15 หมื่นล้านบาท


คำแนะนำ

เราเชื่อว่า BAY อยู่ในสภาพที่สามารถเพิ่มการเติบโตของกำรที่แข็งแกร่งระหว่างปี 2559 และปี 2560 เนื่องจากการบิรหารจัดการสินทรัพย์คุณภาพที่ดีและการควบรวมกิจการกับ BTMU ที่ดำเนินงานในประเทศไทย ทั้งนี้เราได้เห็นแนวโน้มอัพไซด์สำหรับ BAYจากการเติบโตของสินเชื่อที่คาดว่าดีกว่าที่คาดการณ์ในปี 2559 และ 2560 นอกจากนี้เรายังมองการการดำเนินงานของบริษัทกลับสู่ภาวะตั้งแต่ไตรมาส 1/59 เนื่องจากความน่ากังวลที่ผ่อนคลายลงจากปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (ณ ปัจจุบันธนาคารมีสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้รายได้ที่ต่ำสุดในระบบเพียง 2.1% และอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสะสมต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่สูงเป็นลำดับสองที่ 152%) ดังนั้นเรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ BAY