ภาคธุรกิจมั่นใจพื้นฐานเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง

ภาคธุรกิจมั่นใจพื้นฐานเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง

ภาคธุรกิจมั่นใจพื้นฐานเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง เชื่อรัฐบาลดูแลได้ ยังคงเดินหน้าลงทุนตามแผน “ประสาร” มั่นใจศก.ไทยภูมิคุ้มกันดี ไม่เกิดวิกฤติ

“กรุงเทพธุรกิจ”สำรวจความคิดเห็นของภาคธุรกิจหลายวงการ ส่วนใหญ่เชื่อมั่นพื้นฐานเศรษฐกิจของไทย แม้จะเผชิญกับสถานการณ์ภายในประเทศ โดยยังคงเดินหน้าขยายลงทุน ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวและยังเป็นปัจจัยเสี่ยงในระยะต่อไป

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยในขณะนี้เชื่อว่าจะไม่กระทบกับความเชื่อมั่นที่ต่างชาติจะมีต่อประเทศไทย เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลได้เตรียมแผนงานต่างๆเป็นอย่างดี และดำเนินการได้อย่างราบรื่น ทำให้มีเสถียรภาพเกิดขึ้น

“ไม่มีอะไรที่น่าเป็นกังวล เชื่อว่ารัฐบาลน่าจะดูแลได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว”

นายชาติศิริ กล่าวว่าธนาคารกรุงเทพยังไม่จำเป็นต้องปรับแผนธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ ส่วนแผนธุรกิจในปีหน้ายังอยู่ระหว่างการรวบรวมจากหน่วยงานต่างๆภายในธนาคาร

“เซ็นทรัล”ระบุฐานศก.ไทยแกร่ง

นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัลยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อเนื่องปีนี้และปีหน้า โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ประกอบด้วย เวียดนาม เมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย และอินโดนีเซีย

“ภายใต้ร่มพระบารมียาวนาน70 ปี ที่กลุ่มเซ็นทรัลได้ดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลา 69 ปี เราเชื่อมั่นว่าพระองค์ได้วางรากฐานทางเศรษฐกิจให้กับประเทศด้วยหลักปรัชญาการดำเนินงานที่สอดคล้องกับคนทุกยุคทุกสมัย”

กลุ่มเซ็นทรัล มุ่งเน้นการดำเนินงานอย่างรอบคอบและโปร่งใส ประกอบด้วย ธุรกิจทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โดยสัดส่วนธุรกิจต่างประเทศเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ธุรกิจในประเทศไทยก็ยังเป็นธุรกิจหลักและเติบโตต่อเนื่อง รองรับลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เชื่อว่าจะยังคงหลั่งไหลมายังประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยได้เป็นอย่างดี

ปี 2559 กลุ่มเซ็นทรัลเชื่อมั่นประมาณการเติบโตของยอดขายจากปีที่แล้วมากกว่า 20% หรือคิดเป็นมูลค่ายอดขายรวมประมาณ 3.2 แสนล้านบาท

“เราเชื่อว่าทุกภาคส่วนจะร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่งและก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงด้วยการร่วมแรงร่วมใจกัน เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีต่อพระพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งพระองค์จะสถิตอยู่ในดวงใจของชาวไทยทุกคนตลอดไป”

“ประสาร” มั่นใจศก.ไทยภูมิคุ้มกันดี

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยปีหน้า ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นปัจจัยต่างประเทศ แต่อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจไทยถือว่ามีภูมิคุ้มกันที่ดีพอสมควร จึงเชื่อว่าในปีหน้าการเติบโตน่าจะขยายตัวได้ในระดับกลางๆ

“เราเห็นว่าการเติบโตเศรษฐกิจปีหน้า คงจะกลางๆไม่สูง แต่ถามว่าจะประสบวิกฤติหรือไม่ คิดว่าไม่ เพราะเราได้สร้างภูมิคุ้มกันต่างๆไว้หลายๆ ด้าน ทั้งเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่สูง ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล ระบบธนาคารพาณิชย์มีเงินสำรองฯ ที่แข็งแกร่ง มีระบบป้องกันความเสี่ยงพอสมควร เพียงแต่เศรษฐกิจโลกอาจจะฟื้นตัวช้าหน่อย”

ชี้ลงทุนภาครัฐตามแผนหนุนปีหน้าโต

นายประสาร กล่าวด้วยว่า การลงทุนภาครัฐช่วงที่ผ่านมา มีโครงการออกมามาก แต่การลงมือจริงๆ ยังเป็นแบบทยอยทำ ซึ่งถ้าทำได้จริงตามที่ภาครัฐวางแผนไว้ ก็คงมีส่วนช่วยการเติบโตเศรษฐกิจไทยในปีหน้าได้พอสมควร

สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม ส่วนใหญ่เป็นปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐยังต้องติดตามดูว่าเป็นไปอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจใหญ่ๆ ของโลกอยู่ในภาวะที่ไม่ปกติ การปรับตัวสู่ภาวะปกติก็อยากเห็นการปรับตัวที่ราบรื่น

“สหรัฐเขาก็อยากดึงดอกเบี้ยกลับมาเป็นปกติ แม้แต่ยุโรปหรือญี่ปุ่น เมื่อเขาอัดเงินไปเยอะๆ ถึงจุดหนึ่งเขาก็ทำต่อไม่ได้ การไม่ทำต่อ ก็ต้องดูว่าช่วงที่เขาถอยออกมาจะเป็นอย่างไร เหมือนกับว่าเขาที่ผ่านมาเขาพยายามประคองโดยการปล่อยอาวุธออกมาเยอะๆ ตอนที่เขาจะถอนอาวุธกลับไป เราก็หวังว่าเขาจะทำได้เก่ง ตลาดไม่โอเวอร์รีแอ็ค ซึ่งเราเป็นประเทศกลางๆ ก็ต้องระวังตัวหน่อย"

“ดุสิตฯ”แจงการเมืองนิ่งดันท่องเที่ยวโต

นายชนินทธ์ โทณวณิก รองประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) คาดการณ์ว่า ความเชื่อมั่นธุรกิจท่องเที่ยวในปี 2560 น่าจะดีขึ้นกว่าในปีนี้ หากรัฐบาลรักษาความมีเสถียรภาพได้ต่อเนื่อง เพราะภาคการท่องเที่ยวมีปัจจัยนี้เป็นพื้นฐานสำคัญที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาการรักษาบรรยากาศที่เอื้อต่อการท่องเที่ยวยังเป็นไปด้วยดี และเชื่อมั่นว่าหากรัฐบาลสามารถคุมความสงบเรียบร้อย

ภาคธุรกิจยังต้องเฝ้าระวังต่อปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะเศรษฐกิจต่างประเทศใน 2 พื้นที่สำคัญ ได้แก่ ยุโรป ที่แม้จะมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นแต่ต้องเฝ้ามองความเคลื่อนไหวหลังจากที่สหราชอาณาจักรดำเนินการเพื่อออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) และยังคาดการณ์ด้วยว่าในการเลือกตั้งของประเทศต่างๆ ในยุโรป เช่น เยอรมนี, ฝรั่งเศส อาจเปลี่ยนขั้วอำนาจมาสู่พรรคการเมืองฝั่งขวาจัด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อนโยบายด้านเศรษฐกิจในภาพรวมของยุโรป ซึ่งผลต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ต้องจับตามอง จีน ซึ่งกังวลว่าเศรษฐกิจอาจชะลอตัว โดยแนวโน้มดังกล่าวเริ่มเห็นชัดมาตั้งแต่ 3-5 ปีที่ผ่านมา ภาคอสังหาริมทรัพย์มีอุปทานล้นตลาด และทำราคาไม่ได้มากนัก ดังนั้นธุรกิจจึงต้องเตรียมปรับตัวด้วยการกระจายความเสี่ยงไปยังประเทศอื่นๆในเอเชียที่ยังถือว่าเป็นดาวรุ่งมากในระดับโลก ประเทศที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูงสุดต่างมาอยู่ในภูมิภาคนี้

ภาคอสังหาฯเชื่อศก.ไทยยังแกร่ง

นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ประเมินว่า ขณะนี้ความเชื่อมั่นไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวล เนื่องจากรัฐบาลเตรียมตัวมาดี ขณะที่เศรษฐกิจไทยโดยรวมยังมีพื้นฐานที่ดี สถาบันการเงินแข็งแกร่ง ภาคเอกชนก็ยังขยายธุรกิจไปได้ด้วยตัวเอง

“ตอนนี้การซื้อที่อยู่อาศัยยังเป็นปกติ ไม่ถึงกับชะงัก แต่ความรู้สึกของผู้บริโภคช่วงนี้ยังอ่อนไหว เป็นสถานการณ์ที่ทุกคนรอเวลามากกว่า หลายบริษัทปรับแผนการขายและการตลาดใหม่ โดยเปลี่ยนรูปแบบงานอีเวนท์เปิดตัวโครงการ เป็นการขายเฉพาะที่สำนักงานขาย และการจัดโปรโมชั่นไม่ทำตลาดหวือหวา”

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจพรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ภาคธุรกิจอสังหาฯรายใหญ่ ยังคงต้องเดินหน้าเปิดโครงการต่อไป โดยมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยแข็งแรง สามารถเรียกความเชื่อมั่นผู้บริโภคกลับมาได้ไม่ยาก

“บีเจซี”เดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง

นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือบีเจซี กล่าวว่า บริษัทยังคงเดินหน้าลงทุนต่อเนื่องทั้งโรงงานผลิตกระป๋อง และโรงงานผลิตขวดแก้ว มูลค่า 2,000 ล้านบาท และเตรียมปรับเปลี่ยนโรงงานผลิตขนมให้สามารถผลิตอาหารประเภทต่างๆได้ เช่น อาหารแช่แข็ง เพื่อตอบสนองช่องทางจำหน่ายห้างค้าปลีกบิ๊กซีมากขึ้น และยังอยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการธุรกิจออนไลน์ เพื่อขยายธุรกิจในไทยและเวียดนาม

ส่วนธุรกิจในต่างประเทศ เตรียมเปลี่ยนชื่อห้างเมโทรเวียดนาม 19 แห่ง เป็นเอ็มเอ็ม เมก้า มาร์เก็ต ภายใต้งบต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ในการเปลี่ยนป้าย เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ถุงที่ใช้ภายในห้าง เป็นต้น

“ปกติไตรมาส 1 และไตรมาส 4 ถือเป็นไฮซีซั่น แต่ไตรมาส 4 นี้เป็นที่ทราบกันดีว่าทุกคนอยู่ในช่วงไว้อาลัย จึงต้องดูสถานการณ์ต่างๆ ภายในประเทศ และทำตามนโยบายรัฐให้อยู่ในกรอบและเหมาะสมกับสถานการณ์"

ส่วนภาพรวมรายได้ปีนี้ ประเมินว่าจะมีรายได้ มากกว่า 1 แสนล้านบาท เติบโต 3 เท่าตัว จากปีก่อนที่มีรายได้ว่า 4 หมื่นล้านบาท เพราะมีรายได้จากบิ๊กซีเข้ามา ทำให้สัดส่วนจากต่างประเทศลดเหลือ10%จากเดิมอยู่ที่ 25% ขณะที่ไตรมาส 3 แนวโน้มรายได้เติบโตดี และจะมีกำไรพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยน

ค่ายมือถือลุยลงทุนขยายโครงข่าย

นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คดซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวว่า ในไตรมาสที่ 4 ดีแทคยังคงลงทุนขยายโครงข่าย และช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างดีที่สุด โดยปรับแผนงานรองรับช่วงเวลาของงานไว้อาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งมีบางงานที่วางแผนจะเปิดตัวภายในไตรมาสนี้ แต่ต้องชะลอออกไป

“การดำเนินธุรกิจก็ยังคงเป็นไปตามปกติ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการที่ดี”

ด้านนายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาด บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวว่า ในยุคดาต้าเรื่องของคุณภาพเครือข่ายจะเป็นหัวใจหลักที่ลูกค้าให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆในการตัดสินใจเลือกใช้บริการ

นับตั้งแต่เอไอเอสได้ใบอนุญาตคลื่นความถี่ และนำมาพัฒนาเครือข่าย 4จี ด้วยงบประมาณราว 40,000 ล้านบาท ได้เร่งขยายเครือข่ายทั้ง โมบายและ ฟิกซ์ บรอดแบนด์อย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อมั่นว่า การแข่งขันในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ คุณภาพเครือข่ายจะเป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่างและเป็นปัจจัยหลักในการแข่งขัน