The InsideLine : เบ็ดเสร็จเด็ดขาด

The InsideLine : เบ็ดเสร็จเด็ดขาด

สัปดาห์ที่แล้ว เราพูดถึงความตกต่ำของคัมปัญโญโล่

 ทำให้น่าคิดว่า แล้วคู่แข่งคนสำคัญในตลาดจักรยานนั้นเป็นใคร? ทำไมมีพลังที่จะชี้นำและผูกขาดตลาดได้อย่างเบ็ดเสร็จ? สัปดาห์นี้ เราจะมาดูภาคธุรกิจของ Shimano ผู้ผลิตอะไหล่จักรยานเบอร์หนึ่งของโลก และอิทธิพลที่มีต่อวงการจักรยานกันครับ

อะไหล่จักรยานเสือหมอบ โดยเฉพาะชุดขับเคลื่อน แทบ 90% ในตลาด จะเป็นชุดขับของ Shimano —  บริษัทจากญี่ปุ่นที่มีส่วนแบ่งตลาดในอุตสาหกรรมอะไหล่จักรยานโลกกว่า 70%

เหตุผลแรกที่ทำให้ Shimano กลายเป็นมหาอำนาจย้อนไปได้หลายสิบปี Shimano ก่อตั้งในปี 1921 ในเมืองซะไก จังหวัดโอซาก้า และเป็นผู้เชี่ยวชาญในการแปรรูปเหล็กให้เป็นอะไหล่จักรยาน เป็นหนึ่งในผู้ผลิตสินค้าจักรยานคุณภาพเก่าแก่ที่สุดในโลก 

จุดเปลี่ยนผ่าน คือทศวรรษที่ 80 ที่จักรยานแทบทุกแบรนด์ เปลี่ยนฐานการผลิตจักรยานไปไต้หวัน ทำให้ Shimano ลดต้นทุนการขนส่งอะไหล่ ไปประกอบเป็นคันได้เป็นจำนวนมาก จากเดิมที่ต้องกระจายสินค้าไปโรงงาน OEM ทั่วโลก ก็เปลี่ยนเป็นการส่งไปไต้หวันที่เดียว ต้นทุนการจัดส่งสินค้าที่ลดลง ทำให้คู่แข่งอย่าง คัมปัญโญโล่ ที่ผลิตแต่สินค้าไฮเอนด์และมีไลน์สินค้าน้อย ไม่สามารถสู้เรื่องราคาและการกระจายตลาดได้เลย จังหวะนั้น Shimano ขยายประเภทสินค้าที่ตัวเองผลิต ทั้งอะไหล่ ชุดขับ ล้อ จักรยานเสือหมอบ เสือภูเขา จักรยานแม่บ้านทั่วไป จนสามารถยึดหัวหาดเป็นผู้นำ ทั้งด้านประสิทธิภาพและราคาได้ในที่สุด

หากจะเปรียบเทียบ Shimano ก็คงเหมือนกับนาฬิกา Seiko ผู้ผลิตกลไก Quartz ที่ทั้งแม่นยำและราคาถูกกว่านาฬิกากลไกราคาแพงจากสวิตเซอร์แลนด์ เราอาจเปรียบ Omega และ Rolex ได้กับ คัมปัญโญโล่ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว ภาพลักษณ์ และราคา แต่ก็ไม่สามารถต่อกรกับเทคโนโลยีการผลิตระดับมหภาคของ Shimano และ Seiko ที่ได้สินค้าประสิทธิภาพใกล้เคียงกันในราคาถูกกว่าหลายเท่า ถึงจะขาดภาพลักษณ์ไฮเอนด์ แต่ทำให้ทุกคนเข้าถึงเทคโนโลยีระดับสูงง่ายขึ้น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม Shimano ถึงมีรายได้ปีละสามพันล้านดอลลาร์ ขณะที่คัมปัญโญโล่ยังเป็นแค่ธุรกิจครอบครัวกับพนักงานไม่ถึงสองร้อยชีวิต

อิทธิพลในตลาดของ Shimano มากขนาดไหน สินค้าใหม่ระดับไฮเอนด์ของ Shimano ที่วางจำหน่ายทุกรอบ 3–4 ปี สามารถบังคับรอบการผลิตจักรยานของทุกแบรนด์ในโลก นักออกแบบต้องออกแบบรถให้รองรับการทำงานกับชุดขับของ Shimano และในทุกๆ ปีก็ต้องคอยสั่งซื้อและออกสเป็คจักรยานใหม่ ให้มีอะไหล่ของ Shimano รุ่นล่าสุดก่อนแบรนด์อื่นๆ เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคยอมอัพเกรดหรือซื้อจักรยานที่มากับเทคโนโลยีล่าสุด เหตุผลนี้ทำให้ร้านจักรยานทั่วโลกพร้อมทิ้งแบรนด์ที่ตัวเองถืออยู่ หากแบรนด์ใหม่ส่งจักรยานที่มากับอะไหล่รุ่นใหม่ของ Shimano ได้เร็วกว่า

ราคาของจักรยานแต่ละคัน แทนที่จะถูกกำหนดด้วยภาพลักษณ์ของแบรนด์ กลายเป็นว่าทุกแบรนด์ต้องตั้งราคาแต่ละรุ่นตามระดับอะไหล่ของ Shimano — ถ้าแบรนด์ A มาพร้อมชุดขับเคลื่อนเสือหมอบ รุ่นท็อป Shimano Dura-Ace ต้องตั้งราคาให้เทียบเท่ากับเสือหมอบของแบรนด์อื่น ที่ใช้ชุดขับเคลื่อนเดียวกัน แม้ว่าแบรนด์ A จะเหนือกว่าคู่แข่งในด้านอื่นๆ ผู้บริโภคส่วนมากในตลาดพร้อมปฏิเสธแบรนด์ที่ตัวเองชอบ หากคู่แข่งให้อะไหล่ Shimano มากับรถในราคาที่ถูกกว่า

ปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้ Shimano ผูกขาดตลาดได้ อยู่ที่คุณภาพ Shimano ใช้กลยุทธ์การผลิตสินค้าระดับเรือธงเพื่อดึงดูดนักปั่นที่สามารถจ่ายแพงได้ ในราคาที่ไม่ถูกไปกว่าแบรนด์คู่แข่ง แต่ไม่ปล่อยค่า R&D ให้เสียเปล่า เขานำเทคโนโลยีที่ดีที่สุดมาใช้กับสินค้าระดับรอง จนประสิทธิภาพแทบไม่ต่าง นอกจากหน้าตา ภาพลักษณ์ และการใช้งานระยะยาว กลยุทธ์นี้ทำให้ Shimano ครองตลาดได้ตั้งแต่ผู้เริ่มต้นไปจนถึงมืออาชีพ เพราะทุกคนที่ซื้อ Shimano มั่นใจว่าจะได้ประสิทธิภาพจักรยานที่ดี 

การผูกขาดของ Shimano ในตลาดอะไหล่จักรยานดูจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการพัฒนาสายการผลิต การกระจายสินค้า และเทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้การเข้ามาของผู้เล่นใหม่แทบเป็นไปไม่ได้ สินค้าใหม่ๆ จาก FSA, SRAM, Rotor และ คัมปัญโญโล่ ในรอบ 3–4 ปีที่ผ่านมาก็ดูจะขายได้แต่เพียงกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์จำนวนน้อย 

แต่ความสำเร็จนี้ไม่ได้มาจากความฟลุ๊คหรือสินค้าเด็ดๆ ไม่กี่ตัว แต่เป็นความพยายามอย่างต่อเนื่องและความหลักแหลม ทั้งด้านยุทธศาสตร์ธุรกิจและเทคโนโลยีจากค่ายญี่ปุ่นที่ทำให้ Shimano เป็นราชันแห่งวงการจักรยานได้อย่างที่เราเห็นทุกวันนี้