'โบรก'คาดกลุ่มรพ.กำไร'นิวไฮ'

'โบรก'คาดกลุ่มรพ.กำไร'นิวไฮ'

โบรกเกอร์คาด"กลุ่มโรงพยาบาล"ไตรมาส3กำไรสูงสุด เข้าสู่"ไฮซีซัน" ด้านศครินทร์ตั้งเป้ารายได้และกำไรโตหลังซื้อกิจการรพ.ศิครินทร์หาดใหญ่

นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หุ้นกลุ่มที่ผลประกอบการน่าจะเติบโตโดดเด่นในไตรมาส 3 ปีนี้ ได้แก่ กลุ่มอาหาร กลุ่มโรงพยาบาล และกลุ่มปิโตรเคมี

โดย กลุ่มโรงพยาบาลนั้น  คาดการผลประกบอการไตรมาส 3 ปี 2559 จะสูงสุดจากผลของฤดูกาล อาทิโรคต่างๆ ที่มากับฤดูฝน และคนไข้ต่างประเทศเพิ่มขึ้น จากตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดฤดูร้อน และปีนี้วันถือศีลอด(รอมฎอน) ตกงวดไตรมาส3/59 เพียง 7 วัน เทียบกับปีก่อนที่ 21 วัน

หุ้นเด่นคือ กรุงเทพดุสิตเวชการ  (BDMS) เพราะเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีการกระจายตัวของคนไข้ที่ดี มีการเติบโตต่อเนื่องและยังได้รับประโยชน์ทางภาษี หลัง BOI มีนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมยาและเครื่องมือแพทย์เป็นครั้งแรกในประเทศ และหุ้นโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) แม้กำหนดเป้ารายได้ทรงตัวแต่แผนการลดต้นทุนเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายรวมทั้งการเร่งเปิดคลินิคทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเป็นศูนย์ส่งต่อผู้ป่วย น่าจะช่วยหนุนกำไรปีนี้จะยังเติบโต 7%และเพิ่มขึ้นอีก 10.7% ในปีหน้า

ส่วนหุ้นขนาดกลาง  บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) จะพลิกกลับมาเติบโตก้าวกระโดดทั้งจากช่วงฤดูกาลและการเพิ่มศักยภาพ รพ.เก่า และการเตรียมขยายสาขาใหม่ โดยคาดกำไรสุทธิปีนี้จะเติบโตถึง 34% YoY จากรายได้ผู้ป่วยประกันสังคมที่เพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้จาก WMC ดีขึ้นเป็นลำดับจากรายได้ผู้ป่วยต่างชาติที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าจะเริ่มเห็นกำไรในปีหน้า

ส่วนโรงพยาบาลราชธานี (RJH) คาดปีนี้จะเติบโตแบบก้าวกระโดดกว่าเท่าตัวจากทำเลที่ดี และการบกระดับการให้บริการศูนย์โรคหัวใจและไตเทียม บวกกับราคาหุ้นยังมี upside สูง 17.6%

นายสุริยันต์ โคจรโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฏิบัติการ บริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) (SKR) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะขยายศักยภาพการดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง 

ล่าสุด ที่ประชุมวิสามัญมีมติอนุมัติให้บริษัทออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 25.009 ล้านหุ้น พาร์ 6.50 บาท เพื่อเสนอขายแบบเฉพาะเจาะจงต่อบุคคลจำกัด (Private Placement) ให้บริษัท ศิครินทร์ หาดใหญ่ โฮลดิ้ง จำกัด (SHH) ในราคาหุ้นละ 59 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 1,475.55 ล้านบาท เพื่อเป็นการตอบแทนการที่ SHH โอนกิจการทั้งหมดให้แก่บริษัท ซึ่งประกอบด้วยหุ้นสามัญของ บริษัท โรงพยาบาล ศิครินทร์ หาดใหญ่ จำกัด (SKHY) คิดเป็น 82.34% ของหุ้นทั้งหมดของ SKHY 

พร้อมรับโอน สินทรัพย์ หนี้สิน สิทธิ หน้าที่และภาระผูกพันธ์ทั้งหมดของ SHH และภายหลังการรับโอนกิจการแล้วเสร็จ SKR จะถือหุ้นโดยตรงใน SKHY ในสัดส่วน 94.11% จากปัจจุบันSKR ถืออยู่ใน SKHY จำนวน 5,886,792 หุ้น ในสัดส่วน 11.77%

นายสุริยันต์ กล่าวว่า การเข้าลงทุนเพิ่มเติมใน SKHY ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการตัดสินใจเข้าลงทุนในทรัพย์สินที่มีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก โดยอาคารผู้ป่วยของ SKHY ณ ปัจจุบันเป็นอาคาร 12 ชั้น มีขนาดพื้นที่ใช้งานได้ 35,800 ตารางเมตร พร้อมลานจอดเฮลิคอปเตอร์ได้ก่อสร้างไว้รองรับการให้บริการผู้ป่วยได้สูงสุดถึง 400 เตียง ซึ่งปัจจุบันได้เปิดให้บริการเฉพาะผู้ป่วยในจำนวน 120 เตียง ที่สำคัญSKHY ยังมีศูนย์คลีนิกที่สามารถให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางได้หลายด้าน เช่น ศูนย์โรคกระดูกและข้อ ศูนย์ผู้มีบุตรยาก และศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูและกายภาพบำบัด เป็นต้น

นอกจากนี้ การที่ SKHY เพิ่งได้รับการรับรองมาตรฐานโรงพยาบาลระดับสากล (JCI) โดยเป็นมาตรฐานที่อยู่ในการกำกับดูแลของ The Joint Commission ซึ่งเป็นสถาบันอิสระของประเทศสหรัฐอเมริกาที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล การได้มาตรฐาน JCI จะสร้างความน่าเชื่อถือและสร้างเชื่อมั่นแก่ผู้ป่วยที่มาเข้ารับการรักษาภายในโรงพยาบาล โดยจะช่วยดึงดูดผู้ป่วยต่างชาติให้เข้ารับการรักษาใน SKHY และยังเป็นส่วนช่วยให้ SKHY สามารถเพิ่มอัตราค่ารักษาพยาบาลในระดับที่เหมาะสมกับมาตรฐานที่ได้รับอีกด้วย