3นักชกเหรียญโอลิมปิก เตรียมวิ่งแสดงความอาลัยพ่อหลวง

3นักชกเหรียญโอลิมปิก เตรียมวิ่งแสดงความอาลัยพ่อหลวง

3นักชกมวยสากลสมัครเล่น เหรียญรางวัลโอลิมปิก สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เตรียมวิ่งจากลพบุรี มาสนามหลวงเพื่อแสดงความอาลัย

นายมนัส บุญจำนงค์นักชกประวัติศาตร์ของไทยที่คว้าเหรียญโอลิมปิก2สมัย โดยคว้าเหรียญทองโอลิมปิก ปี2004ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซและ เหรียญเงิน โอลิมปิก ปี2008ที่ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนพร้อมด้วยนายวรพจน์เพชรคุ้ม นักกีฬาชกมวยสากลสมัครเล่น จากการแข่งขันโอลิมปิก เหรียญเงิน โอลิมปิก ประเทศกรีชปี2004นายสุริยาปราสาทหินพิมายนักกีฬาชกมวยสากลสมัครเล่น จากการแข่งขันโอลิมปิก เหรียญทองแดง โอลิมปิก ประเทศกรีชปี2004ด.ช.อัครชัย ชมภูพวง ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนวัดสิริจันทรนิมิตร นักกีฬาชกมวย เหรียญทองการแข่งขันมวยไทยเยาวชน ชิงแชมป์โลก ๒๕๕๙ (2016IFMA Youth World Championships)คุณชูชิต หรือหวอง(นักวิ่งอาชีพ)นายวาที วานเวียง (กู้ภัยสว่าง)

นายธนาวุฒิ. มีเหว่าพันธ์ (กู้ภัยสว่าง)นายธีรเดช ประกอบทอง (นักศึกษา)นายณัชพล จันทร์กำจร (นักศึกษา)เข้าพบพระครูประภัทรธรรมทิน เจ้าอาวาสวัดพุน้อย เจ้าคณะอำเภอหนองม่วง เพื่อกราบนมัสการเชิญร่วมกิจกรรมถวายความอาลัย หลังจากที่รวมตัวกันเตรียมจัดกิจกรรมวิ่งจากลพบุรี มายังท้องสนามหลวงเพื่อแสดงความอาลัย พร้อมเข้ากราบพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

โดยมนัส เปิดเผยต่อว่า สำหรับกิจกรรมวิ่งถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในครั้งนี้ได้มีการพูดคุยกับอดีตนักมวยสากลสมัครเล่นโอลิมปิกในรุ่นเดียวกันทั้งที่ได้เหรียญและไม่ได้เหรียญให้มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ก็ได้มีเพื่อนๆมาร่วมวิ่งกันอีก2คนคือวรพจน์ เพชรคุ้ม และ นายสุริยาปราสาทหินพิมาย นักชกเหรียญเงิน และเหรียญทองแดงมาร่วมวิ่งด้วย พร้อมมีนักศึกษาและชาวบ้านร่วมอีกด้วย โดยการวิ่งเพื่อแสดงความอาลัย ถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องจากสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ซึ่งกิจกรรมจะมีขึ้นในวันจันทร์ที่24ตุลาคม 2559 เวลา08.00น.เริ่มจากที่ว่าการอำเภอบ้านหมี่ วิ่งวนในตลาดเทศบาลบ้านหมี่ ก่อนขึ้นถนนหลวง สายบ้านหมี่-สิงห์บุรี ขึ้นถนนสายเอเชียมุ่งหน้าสู่พระบรมมหาราชวังและจะใช้เวลาวิ่งประมาณ4วัน คือวันที่24-27 ตุลาคม2559

มนัส กล่าวว่า สำหรับตนถือว่าเป็นนักมวยเหรียญทองโอลิมปิกคนสุดท้ายที่ได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระราชวังไกลกังวล หัวหิน หลังจากคว้าเหรียญทองมาได้ถือได้ว่าเป็นบุญของตนเองกับครอบครัวเป็นอย่างมาก พระองค์ทรงตรัสกับพวกเราอย่างเป็นกันเองซึ่งยังจดจำอยู่ในหัวใจเสมอ

นอกจากนี้ มนัส ยังได้เปิดเผยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ภายหลังจากได้ทราบข่าวแถลงการณ์จำสำนักพระราชวัง เมื่อวันที่13ต.ค .เสียใจน้ำตาไหลออกมาเองไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น และตนได้ปรึกษากับ พิชยาภา ภูนิสสัย แฟนสาวที่อยู่ด้วยกันที่ อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ว่าจะวิ่งถวายความอาลัยแด่พระองค์ จาก เทศบาล อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี มายังพระบรมมหาราชวัง ที่กรุงเทพ