SCB - ซื้อ

SCB - ซื้อ

ปรับประมาณการกำไรปี 59 ลดลง 5% ประมาณกำไรปี 60 คงเดิม เติบโต 7%

ประเด็นสำคัญในการลงทุน :

- กำไรสุทธิ 3Q59 เพิ่มขึ้น 28%YoY แต่ลดลง 10%QoQ 9M59 กำไรลดลง 1% :  กำไรสุทธิในช่วง 3Q59 เท่ากับ 11,533 ล้านบาทต่ำกว่าคาด 9% โดยเพิ่มขึ้น 28%YoY แต่ลดลง 10%QoQ เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิเพิ่มขึ้น ขณะที่กำไรจากเงินลงทุนลดลง 87% และการตั้งสำรองหนี้สูญลดลง 56% จาก 3Q58 ที่ตั้งสำรองหนี้สูญลูกหนี้กลุ่ม SSI และขายเงินลงทุนมาชดเชยผลการดำเนินงาน ในช่วง 9M59 มีกำไรสุทธิ 3.5 หมื่นล้านบาท ลดลง 1%

- ปรับประมาณกำไรปี 59 ลดลง 5% ประมาณการกำไรปี 60 คงเดิม เติบโต 7% :   กำไร 3Q59 คิดเป็น 72% ของประมาณการทั้งปีที่ 48,200 ล้านบาท ฝ่ายวิจัยปรับลดสมมติฐานรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยทำให้ประมาณการกำไรสุทธิใหม่สำหรับปี 59 ลดลง 5% เหลือ 4.6 หมื่นล้านบาทซึ่งลดลง 3% จากปี 58 สำหรับประมาณการกำไรปี 60 ด้วยสมมติฐานค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ 2.9 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปี 59 และใกล้เคียงกับปี 58 ที่มีการตั้งสำรองหนี้สูญลูกหนี้กลุ่ม SSI ทั้งนี้ประมาณการกำไรปี 60 ยังใกล้เคียงกับตามเดิมที่ราว 4.94 หมื่นล้านบาทซึ่งพลิกเติบโต 7% จากปี 59

- สินเชื่อเติบโต 4.3%YTD คุณภาพสินทรัพย์อ่อนตัวเล็กน้อย :  ปลายก.ย. 59 มียอดสินเชื่อรวม 1.9 ล้านล้านบาท เติบโต 4.3% จากปลายปี 58 จากการเติบโตของสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ สินเชื่อเคหะ และสินเชื่อ SME ซึ่งมีโอกาสบรรลุเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อที่ 4-6% ด้านคุณภาพสินทรัพย์อ่อนตัวเล็กน้อยแต่ไม่น่ากังวล โดยมีสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) เติบโตจากไตรมาสที่แล้วแต่ยังต่ำกว่าปลายปี 58 ทั้งนี้อัตราส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 2.85% เพิ่มขึ้นจาก 2.77% ใน 2Q59 แต่ต่ำกว่าระดับ 3.02% ณ ปลายปี 58 ปลายก.ย. 59 อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อ NPL (Coverage Ratio) เท่ากับ 128.9% ใกล้เคียงกับระดับ 130% ณ ปลายมิ.ย. 59 แต่สูงกว่าปลายปี 58 โดยยังเป็นไปตามนโยบายของผู้บริหารในการรักษาระดับ Coverage Ratio เท่ากับ 130% ที่เห็นว่าเหมาะสมกับพื้นฐานและรองรับความไม่แน่นอนในอนาคต

- คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 172 บาทสำหรับปี 60 :   ปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวของ SCB ยังดีจากการเป็นแบงก์ขนาดใหญ่ที่จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในอนาคต ฐานะการเงินยังแข็งแกร่งโดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งหมดต่อสินทรัพย์เสี่ยงตามเกณฑ์ BIS ratio เท่ากับ 17.9% และมีเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Tier I) เท่ากับ 15% ฝ่ายวิจัยปรับมาใช้ราคาเหมาะสมสำหรับปี 60 ซึ่งอิง Prospect P/BV ที่ระดับ 1.6 เท่า Ke 10.17% ได้เท่ากับ 172 บาทยังสูงกว่าราคาปิดล่าสุด 17% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”