นายกสมาคมบลจ.ยัน 'คสช.' ไม่ได้เรียกปรับทัศนคติ

นายกสมาคมบลจ.ยัน 'คสช.' ไม่ได้เรียกปรับทัศนคติ

"นายกสมาคม บลจ." ยืนยัน "คสช." ไม่ได้เรียกปรับทัศนคติ เชื่อคนปล่อยข่าวหวังร้ายต่อรัฐบาล-บ้านเมือง รับพบ "สมคิด" จริงแค่แลกเปลี่ยนมุมมอง

นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ได้ชี้แจงผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวว่า กรณีข่าวที่กระจายในไลน์และที่ผู้สื่อข่าวโทรมาสอบถามว่า คณะ คสช เรียกพวกเรา บลจ. / ผู้จัดการกองทุน เข้าพบ เพื่อสอบถามถึงการขายหุ้นในช่วงก่อนหน้านี้ และอาจมีการปรับทัศนคติการลงทุนต่อจากนี้ให้อยู่ในวิสัยที่ถูกต้องนั้น เป็นข่าวเท็จทั้งสิ้นและจากคำว่า “ปรับทัศนคติ” นั้น คาดว่าน่าจะเป็นการส่งไลน์ในกลุ่มเล่นหุ้นที่ประสงค์ร้ายต่อรัฐบาลและความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง

เช้านี้ 8.30 น. -9.15 น. (14 ต.ค.) พวกเรา บลจ. ทั้งหลาย ได้รับคำเชิญจากรองนายกฯ สมคิด ให้เข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงเช้า ใครไปได้ก็ไป ใครติดอะไรก็ไม่ต้องไป ซึ่งมี 8 บลจ. ที่ไปได้แก่ ค่ายกองทุนบัวหลวง กองทุนไทยพาณิชย์ กองทุนกรุงไทย กองทุน MFC กองทุนวรรณ กองทุน CIMBT กองทุนทหารไทย และกองทุนทิสโก้ (ชื่อไม่ได้เรียงตามความใหญ่หรือความสำคัญ เรียงตามที่นึกออกมาได้) สำหรับค่ายอื่นๆ ไม่สามารถมาได้ เราก็จะเล่าให้พวกเขารับทราบ

รองฯ สมคิด ไม่ได้จับเราไปเขย่า ไปทุบ หรือเค้นคอสอบถามอะไรเลยเกี่ยวกับการขายหุ้นของสถาบัน แต่ได้เล่าถึงความเชื่อมั่นจากภาคธุรกิจต่างประเทศที่มีต่อไทยเพิ่มขึ้น และเล่าถึงการเปลี่ยนผ่านภายในประเทศที่จะราบรื่น ส่วนพวกเราเล่าถึงมุมมองของเราที่มีต่ออนาคต เล่าถึงคำถามจากผู้จัดการกองทุนต่างประเทศ ซึ่งไม่มีอะไรในเชิงลบ

ได้เรียนรองนายกฯ ไปว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น บาง บลจ. ซื้อสุทธิทุกวัน บางแห่งก็ขายสุทธิ แต่พวกเราเห็นกระแสเงินสดไหลเข้ามาซื้อกองทุนรวมหุ้นมากกว่าปกติ โดยเฉพาะใน LTF และ RMF ในทุกวันที่ตลาดกระชากลงแรงๆ

บลจ. แห่งหนึ่งที่มาประชุมด้วยนี้ได้บอกว่าของเขาต้องขายสุทธิ เพราะต้องจ่ายเงินให้ผู้เกษียณสำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพอดี

ส่วนอีก บลจ. บอกว่าเขาจำเป็นต้องปรับการซื้อขายตามสภาพตลาดเพราะของเขาเป็น Index Fund ได้ชี้แจงเพิ่มเติมไปว่าในเชิงจิตวิทยาการลงทุนนั้น ที่ผ่านมามันมี Uncertainty จึงทำให้ผู้เล่นในตลาดที่ไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหน มีปฏิกิริยา เพราะเขาไม่ชัดเจนในเรื่องนี้ อย่างไรก็ดี ค่ายกองทุนบัวหลวง ได้วิเคราะห์ Uncertainty จนเข้าใจ และมั่นใจว่าผลจะออกมาอย่างไร เราจึงไม่หวั่นไหวเลย

อนึ่ง ในช่วงที่เป็นข่าวว่ากองทุนทุบหุ้นนั้น กองทุนค่ายบัวหลวงซื้อสุทธิทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 10 ตค ซึ่งสถาบัน Net Sell –7,268 ล้านบาท เพราะลูกค้าซื้อกองทุนเราเข้ามากว่า 2 พันล้านบาท และเราเห็นจังหวะที่ดีในตลาดด้วยที่ราคาหุ้นทรุดต่ำลง เราจึงเพิ่มเงินสดที่มีในพอร์ตเข้าไปซื้อร่วมด้วย ... สิริรวมแล้วตั้งแต่วันที่ 10 -13 ต.ค. ค่ายเราซื้อสุทธิให้กองทุนรวมไปทั้งหมดกว่า +3,800 ล้านบาท (นี่ยังไม่ได้รวมที่เราซื้อสุทธิให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพอีกไม่น้อยด้วยนะ) ในขณะที่สถาบันทั้งหมดในตลาดขายสุทธิ – 2,119 ล้านบาท ในช่วงเวลาเดียวกัน (ย่อหน้านี้ไม่ได้เรียนรองสมคิดฯ)

ในตอนท้ายๆ พี่เรียนถามรองฯ สมคิดไปว่า เมื่อคืนได้ฟังนายกฯ ออกทีวีบอกขอความร่วมมือตลาดทุนอย่าตื่นตระหนก อย่าทุบ อย่าช้อน .... แปลว่าท่านไม่ให้เราซื้อหรือเปล่า ?

รองสมคิดฯ หัวเราะ แล้วตอบว่า ไม่ใช่เช่นนั้น หากกองทุนมั่นใจก็ซื้อได้ แล้วแต่จะตัดสินใจกันเอง

สรุปคือ คสช. ไม่ได้พบพวกเรา ไม่ได้บีบคอให้ทำนั่นนี่เลยสักนิด อย่าเอาไปลือมั่วๆ ในไลน์ จะโดนจับข้อหาบิดเบือนทำราคาหุ้นได้ มีแต่รองนายกฯ สมคิด ที่แลกเปลี่ยนมุมมองถึงความมั่นใจในประเทศไทยกับพวกเรา และแม้ราชการจะหยุด แต่ตลาดเงิน ตลาดพันธบัตร กับตลาดหุ้นก็ไม่ปิดในวันนี้ ทุกอย่างเป็นปกติ

ทั้งนี้ หาก ตลาดฯ และ ก.ล.ต. จะตรวจสอบพวกเรา ก็ขอสนับสนุนเต็มที่ อย่าปล่อยให้สังคมคลุมเครือ

มีผู้จัดการกองทุนหลายประเทศที่ถามพี่เรื่อง Uncertainty เกี่ยวกับองค์รัชทายาท ซึ่งพี่ตอบไปก่อนหน้าแล้วว่าทุกอย่างถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าตั้งหลายปีแล้ว และไม่เคยมีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย เป็นไปตามพระราชอัธยาศัยของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ทุกประการ แต่ที่รัฐบาลไม่ได้ประกาศออกมาก่อน เพราะเป็นประเพณีและจารีตของเรามาแต่เนิ่นนานมาแล้ว อย่าหลงเชื่อการปล่อยข่าวบ่อนทำลายประเทศไทยและสถาบันที่เราเคารพรัก ไม่มีอะไรอย่างที่เป็นข่าวปล่อยเลย รวมทั้งข่าวที่ออกมาจากสำนักข่าวต่างประเทศของพวกท่านด้วย มันเป็นเท็จ

เขาตอบกลับมาทางอีเมล์ว่าเข้าใจแล้ว และขอแสดงความเสียใจเรื่องการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของคนไทยมาด้วย พร้อมทั้งบอกว่าเรื่องแบบนี้เมื่อ Uncertainty หมดไป ทุกอย่างจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติไปเอง แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาห่วงมากสำหรับอนาคต

สิ่งนั้นคือ เขาเริ่ม "กลัวการเลือกตั้ง" ในไทย เขาบอกว่าถ้ามีรัฐบาลจากการเลือกตั้งแล้ว บ้านเราจะมีเสถียรภาพแบบทุกวันนี้ไหม !