เศรษฐีกำเงินสด ช้อปบ้านหรู

เศรษฐีกำเงินสด ช้อปบ้านหรู

ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์แนวราบ ประเภทบ้านเดี่ยวใจกลางกรุง โดยเฉพาะ “ทำเลทอง” ย่านสุขุมวิท

ตั้งแต่ พร้อมพงศ์ ทองหล่อ และเอกมัย ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง มีโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรีเปิดขาย 9 โครงการ รวม 100 ยูนิต เป็นระดับราคา 40 ล้านบาทขึ้นไป 76 ยูนิต หรือเกือบ 80% และต่ำกว่า 40 ล้านบาท (20ล้านบาทขึ้นไป) 20 ยูนิต จากโครงการบ้านเดี่ยวลักชัวรีทั้งหมดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 17 โครงการ 1,023 ยูนิต ระดับราคา 40 ล้านบาทขึ้นไป 630 ยูนิต คิดเป็น 60% และราคาต่ำกว่า 40 ล้านบาท 403 ยูนิต

วิน จิระกรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ-ลิสท์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด กล่าวว่า การขายบ้านเดี่ยวลักชัวรีใจกลางกรุง อยู่ในเกณฑ์ที่ดี คิดเป็นสัดส่วน 46% และมีโครงการรอขายอยู่ราว 54% เทียบบ้านเดี่ยวลักชัวรีโดยรวมทั้งตลาดที่มีการขายออกไปแล้ว 35% มีจำนวนที่รอขาย 64%

“บ้านเดี่ยวลักชัวรียังขายได้ เมื่อเปรียบเทียบพื้นที่ใช้สอยระหว่างคอนโดมิเนียมกับแนวราบในระดับราคาใกล้เคียงกันที่ 2-3 แสนบาทต่อตร.ม. บ้านเดี่ยวมีพื้นที่มากกว่า เช่น คอนโดมิเนียมราคา 45 ล้านบาท อาจได้ห้องชุดขนาด 150-300 ตร.ม. แต่บ้านเดี่ยวจะได้พื้นที่ใช้สอย 400-600 ตร.ม.เอื้อต่อการตัดสินใจมากขึ้น”

หากพิจารณาจากการพัฒนาโครงการวิลลาซโซ่ 10 บนเนื้อที่ 1 ไร่ ย่านเอกมัยซอย 10 เป็นบ้านเดี่ยว 6 ยูนิต ราคา 50.55-70.7 ล้านบาท ขยับเพิ่มขึ้นจากครั้งเปิดตัวที่ราคา 45 ล้านบาท ขณะนี้มียอดขายแล้ว 3 ยูนิต โดยลูกค้าที่เข้ามาซื้ออายุเฉลี่ย 40-50 ปี และซื้อด้วย “เงินสด”

อย่างไรก็ดี โครงการที่อยู่อาศัยลักชัวรีที่ขยายตัว ส่งผลให้ความต้องการที่ดินในย่านพร้อมพงศ์ ทองหล่อ และเอกมัย สูงขึ้น ราคาที่ดินขยับตัวสูงตาม โดยย่านทองหล่อที่ดินติดถนนทุกแปลงระดับราคาเกิน 1 ล้านบาทต่อตร.ว. เข้าซอยอยู่ที่ 7-8 แสนบาทต่อตร.ว.

“จากการติดต่อเอเย่นต์หาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ พบว่าราคาขั้นต่ำเปิดตัวที่ 5 แสนบาทต่อตร.ว. เอกมัยต่ำสุดอยู่ที่ 3 แสนบาทต่อตร.ว. แต่ถ้าปิดการซื้อขายอาจจะลดลงจากราคาเสนอ 30-40%”

ปีหน้าบริษัทเตรียมเปิดตัวที่อยู่อาศัยลักชัวรี 2 โครงการใหม่ ขณะนี้มีที่ดินเพื่อรอการพัฒนาแล้ว 1 แปลง อยู่ระหว่างซื้อเพิ่มอีก 1 แปลง สำหรับโครงการใหม่ใช้ที่ดินประมาณ 1 ไร่ จำนวนยูนิตไม่มาก

สำหรับภาพรวมตลาดบ้านเดี่ยวในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลช่วงครึ่งปีแรก 2559 พบว่า มีโครงการเปิดตัวใหม่เพิ่มขึ้น 4,700 ยูนิต เติบโต 11% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มี 4,300 ยูนิต และมีโครงการรอขาย 38,901 ยูนิต ลดลง 2% จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีจำนวน 39,826 ยูนิต