‘ตั้งฮั่วเส็ง’ โอดเศรษฐกิจซึมฉุดรายได้

นายวิโรจน์ จุนประทีปทอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้า ตั้งฮั่วเส็ง จำกัด ผู้บริหารห้างสรรพสินค้า “ทีสแควร์” เปิดเผยว่าผลกระทบจากปัจจัยลบ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลต่อการจับจ่ายของผู้บริโภคและยอดขายปีนี้คาดลดลง 20% นับว่าต่ำสุดในรอบ 55 ปีของการดำเนินธุรกิจ

“บริษัทยังมีความหวังว่าช่วงเดือน ธ.ค. กำลังซื้อผู้บริโภคจะปรับตัวดีขึ้นจากเทศกาลขาย คริสต์มาส ปีใหม่ ทำให้ผู้บริโภคออกมาจับจ่ายซื้อสินค้ามากขึ้น และอาจทำให้รายได้ปีนี้ดีขึ้นหรือลดลงราว10% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ทำได้ 1,600 บาท”

 สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจหลังจากนี้ จะลดพื้นที่บริหารด้วยตัวเอง เพื่อนำมาเป็นพื้นที่เช่ามากขึ้น หรือประมาณ 5,000- 1 หมื่นตร.ม. จากพื้นที่รวม 8 หมื่นตร.ม. แต่ปัจจุบันใช้เพียง  3.5 หมื่นตร.ม.  โดยแบ่งเป็นพื้นที่เช่า 1.2 หมื่นตร.ม 

ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับกลุ่มนายทุนที่สนใจ 3-4 ราย เพื่อหาแนวทางเข้ามาเช่าพื้นที่บริเวณชั้น 3 และ 4 ของห้างสรรพสินค้า ซึ่งจะเป็นการเช่าพื้นที่ทั้งหมดและแบ่งให้เช่าให้กับผู้สนใจ การเพิ่มพื้นที่เช่าในครั้งนี้จะทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 2-3 ล้านบาทต่อเดือน จากปัจจุบันที่มีรายได้พื้นที่เช่าเดือนละ 5 ล้านบาท

นอกจากนี้ได้ปรับลดราคาค่าเช่าพื้นที่ โดยเฉลี่ยลดลงอีกประมาณ 10% ขึ้นอยู่กับชั้นและทำเล เพื่อเป็นการช่วยเหลือร้านค้าเช่า หลังจากพบว่ายอดผู้เข้าใช้บริการห้างสรรพสินค้าลดลง ปัจจุบันราคาพื้นที่เช่าเริ่มต้นที่ 500 บาท ถึง 1,500 บาทต่อตร.ม. โดยเฉพาะพื้นที่เช่าบริเวณชั้น 1 ที่มีราคาสูงสุด

ทางด้านภาพรวมธุรกิจค้าปลีกไทยปีนี้ พบว่าการเติบโตส่วนใหญ่มาจากการขยายสาขาใหม่ ขณะที่สาขาเดิมมียอดขายลดลง ดังนั้นผู้ประกอบการศูนย์การค้าหรือห้างสรรสินค้าต่างๆ จะต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ของตลาด โดยเฉพาะการสร้างและหาจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อดึงลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ เนื่องจากการจัดโปรโมชั่นไม่ได้ผลมากนะในยุคนี้ เพราะทุกศูนย์การค้าใช้กลยุทธ์และทำเหมือนกัน

“ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าดั้งเดิมต้องปรับตัว โดยเฉพาะทำเลสถานที่จะต้องมีความโดดเด่น การคมนาคมสะดวก และมีจุดยืนที่แตกต่าง  จุดแข็งของเราคือการเป็นห้างสรรพสินค้าที่มีงานฝีมือจำหน่าย รวมถึงสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีความหลากหลาย  มีลูกค้าหลักกลุ่มครอบครัว” นายวิโรจน์กล่าว

ล่าสุดได้จัดงาน“ร้อยเรียง เคียงศิลป์” ครั้งที่ 23 ภายในงานรวบรวมงานฝีมือและอุปกรณ์ต่างๆ โดยมีไฮไลท์ของงานอยู่ที่ “Huck Embroidery” ซึ่งเป็นงานฝีมืออายุกว่าหลายร้อยปี มีต้นกำเนิดจากประเทศสวีเดน  คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดในงาน 2 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ทำได้ 3 ล้านบาท ตลอดระเวลาการจัดงาน 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 13-24 ต.ค. 2559 ที่ศูนย์การค้าทีสแควร์