สร้างโอกาสสังคมสูงวัย หนุนไทยสู่ยุค ‘เอจจิ้ง4.0’

สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) จัดสัมมนา“สังคมสูงวัย สังคมแห่งโอกาส” เพื่อเตรียมรับมือและสร้างโอกาสทางธุรกิจในยุคที่ประเทศไทยก้าวสู่สังคมสูงวัย

นายเกื้อ วงศ์บุญสิน รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ กล่าวว่าการก้าวสู่สังคมสูงวัยของประเทศไทย ต้องก้าวไปสู่ Ageing 4.0 ยุคการสร้างนวัตกรรม เพื่อพลิกวิกฤติของสังคมสูงวัยให้เป็นโอกาส ปัจจุบันไทยอยู่ในยุค Ageing 2.0 ที่เน้นการปัญหาจากสังคมผู้สูงวัย ดังนั้นการเตรียมพร้อมระดับชาติจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นในการพัฒนาสังคมสูงวัย

นางสาวศิริยุพา รุ่งเริงสุข ผู้อำนวยการหลักสูตรการบริหารบุคคล ศศินทร์ กล่าวว่าในยุคสังคมสูงวัย ไทยกำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนบุคลากรโดยเฉพาะช่วง2 ปีจากนี้  ซึ่งจำนวนประชากรวัยทำงานของไทย อายุ 15–65 ปี เริ่มลดลง

ขณะที่ความต้องการแรงงานของตลาดช่วง 10 ปีจากนี้จะเพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ไทยจะมีปัญหาขาดแคลนแรงงานสูงสุดรองจากสิงคโปร์ โดยสิงคโปร์ยังได้เปรียบไทย เพราะวางแผนเรื่องสังคมสูงวัยและหาแรงงานทดแทนล่วงหน้า รวมทั้งการให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า นับว่าเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้แรงงานไทยจำนวนไม่น้อยย้ายไปทำงานในต่างประเทศ

นายมานะ ธุรกิจเสรี รองประธาน บริษัทเจบีเค ฟูดส์ จำกัด เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ “โจ๊กบางกอก” กล่าวว่าการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันไม่ว่าจะอยู่ในวัยใดมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน หากวางกลยุทธ์ตอบโจทย์ผู้บริโภคและมีความคิดสร้างสรรค์ 

“การทำธุรกิจไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุ วัยหนุ่มสาวอาจมีพลังที่แข็งแกร่ง แต่วัยผู้ใหญ่มีความรู้ความชำนาญ”

นางวาสนา ลาทูรัส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด เจ้าของธุรกิจกระเป๋าแบรนด์ “นารายา”  กล่าวว่าการประสบความสำเร็จในธุรกิจมาจากการให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพสินค้า ความหลากหลายและราคาที่เหมาะสมจับต้องได้

นอกจากนี้ต้องมีความคิดที่สร้างสรรค์ รวมถึงขยายช่องทางการขายใหม่ เช่น ช่องทางออนไลน์ ที่มีความสำคัญในยุคนี้ เพราะสามารถรองรับคำสั่งซื้อได้จากทั่วโลก เพิ่มโอกาสการขายนอกจากตลาดไทย 

“เรื่องอายุในการทำธุรกิจไม่ใช่เป็นอุปสรรค ทั้งคนรุ่นใหม่และสูงวัยมีจุดเด่นต่างกัน ปัจจัยความสำเร็จในการทำงานคือการผสานการทำงานร่วมกัน โดยต้องเข้าใจธุรกิจและลูกค้า"