คอมเซเว่นรีแบรนด์ 'สตูดิโอ7' รับครบรอบ10ปี

คอมเซเว่นรีแบรนด์ 'สตูดิโอ7' รับครบรอบ10ปี

คอมเซเว่น รีแบรนด์ร้านจำหน่ายสินค้าแอ๊ปเปิ้ลในเครือใหม่รอบ 10 ปีเป็น “สตูดิโอ 7” สร้างจุดต่าง ไอโฟน 7 กระแสดี เตรียมลุยขายในไทยเต็มสูบ

นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คอมเซเว่น ผู้ค้าปลีกสินค้าไอทีภายใต้ชื่อ บานาน่า ไอสตูดิโอ ไอบีท ยูสโตร์ และไอแคร์ บายคอมเซเว่น กล่าวว่า บริษัทเปลี่ยนชื่อร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์แอ๊ปเปิ้ลในเครือทั้งหมดทั้งไอสตูดิโอ ไอบีท และยูสโตร์ บายคอมเซเว่นไปเป็น “สตูดิโอ7(Studio7)” หวังสร้างความต่าง เพิ่มโอกาสสร้างความได้เปรียบการแข่งขัน พร้อมยกระดับการให้บริการ และการตลาดที่เข้มข้นมากขึ้น 

โดยนับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญรอบ 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2548 ที่บริษัทเซ็นสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายกับแอ๊ปเปิ้ลเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การรีแบรนด์ครั้งนี้ใช้งบการลงทุนราว 10 ล้านบาท วางงบการทำแคมเปญการตลาด 25 ล้านบาท


สำหรับแนวทางการตลาดใช้คอนเซ็ปต์ “สตูดิโอ 7 เซเว่น อีส มอร์” ด้วยจำนวนสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 100 สาขา บริการหลังการขายเหนือกว่าด้วยศูนย์บริการไอแคร์มากกว่า 20 สาขา ปลายปีนี้เตรียมเปิด ไอแคร์เซอร์วิส เซ็นเตอร์ บริการ 24 ชั่วโมง 7 วันแห่งแรกในประเทศไทยที่เควิลเลจด้วย 

หลังจากนี้จะมีกิจกรรมและโปรโมชั่นรุกหนักตลาด รักษาฐานลูกค้าด้วยโปรแกรมสมาชิก เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสกับโซลูชั่นของสินค้าแอ๊ปเปิ้ลมากขึ้น รวมไปถึงขยายช่องทางการจัดจำหน่ายบนอีคอมเมิร์ซ เสริมด้วยสินค้าอุปกรณ์เสริมแบบเอ็กซ์คลูซีฟ


“จากนี้เราจะยิ่งทำตลาดเชิงรุก ทั้งจะมีการร่วมมือทางการตลาดกับพันธมิตรเพื่อกระตุ้นยอดขาย และหาทางเพิ่มรายได้ด้วยโมเดลธุรกิจใหม่ๆ”
คอมเซเว่นมีสาขาทั้งหมดเกือบ 300 สาขา แบ่งเป็นบานาน่า 163 สาขา สตูดิโอ7 จำนวน 93 สาขา ส่วนไอแคร์มี 20 สาขาและภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 25 สาขา ปีหน้าคาดว่าจะเพิ่มสตูดิโอ 7 อีก 5-10 สาขา


ปัจจุบัน คอมเซเว่นเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ที่สุดทั้งเชิงยอดขายและมีสาขามากที่สุดของแอ๊ปเปิ้ลทั้งในทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมปีนี้บริษัทวางงบการลงทุนสำหรับขยายสาขาไว้ราว 300 ล้านบาท สิ้นปีรวมทั้งบานาน่าและสตูดิโอ7 จะขยายไปถึง 500 สาขา ขณะที่งบการตลาดวางไว้ 150 ล้านบาท


บริษัทตั้งเป้าไว้ว่า ยอดขายรวมตลอดทั้งปีจะเติบโต 10% รายได้รวม 17,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา 15,000 ล้านบาท สัดส่วนจากกลุ่มมือถือ 35% พีซี 30% แทบเล็ต 10% ที่เหลือเป็นอุปกรณ์เสริม


ปัจุจุบัน สินค้าแอ๊ปเปิ้ลเป็นกลุ่มที่สร้างยอดขายได้สูงที่สุดสัดส่วนประมาณ 50% โดยสินค้าท็อป 3 คือ ไอโฟน ไอแพด และแมคบุ๊ค ตามลำดับ

สำหรับภาพรวมตลาดค้าปลีกไอทีและโมบายช่วงโค้งสุดท้ายของปีคาดว่าจะเป็นบวกแน่นอน เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่น มีปัจจัยบวกจากสินค้าใหม่ๆ เช่นไอโฟน 7 การอัพเกรดเครื่องมาใช้ 4 จี ขณะเดียวกันปีนี้เป็นปีแรกที่ได้เห็นว่าพีซีกลับมาเป็นบวก เฉพาะของบริษัทเองเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก


“เราเชื่อว่ากระแสไอโฟน 7 ในไทยจะดีเหมือนกับในต่างประเทศ คอมเซเว่นหวังว่าจะได้เครื่องมาจำหน่ายมากกว่าเดิม ทั้งจะมีการออกโปรโมชั่นบันเดิลเครื่องร่วมไปกับ บมจ.ทรูคอร์ปอเรชั่นด้วย”