เตือนวิจารณ์ตัดสินชนกลุ่มน้อยโดยสุจริต

ที่ศาลปกครองกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ นายสมชาย งามวงศ์ชน โฆษกศาลปกครอง กล่าวชี้แจงกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเจ้าหน้าที่กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช มีอำนาจโดยชอบธรรมในการรื้อถอน เผาทำลายที่พักของชาวไทยเชื้อสายกระเหรี่ยงที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ว่า ที่มีการวิจารณ์อาจเข้าใจว่าศาลปกครองสนับสนุนความรุนแรง พิพากษาโดยไม่ได้ลงดูข้อเท็จจริงในพื้นที่นั้น ขอยืนยันว่าศาลปกครองมีความเห็นใจ เคารพในสิทธิมนุษยชนของชาวบ้านที่เป็นผู้เสียหาย แต่เราจะยึดแต่สิทธิโดยไม่เคารพกฎหมายก็จะอยู่กันไม่ได้

ในชั้นการแสวงหาข้อเท็จจริงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ก็ยอมรับว่าพื้นที่ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ป่า เป็นอุทยานแห่งชาติ ดังนั้นก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ใน พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ ฯ และพ.ร.บ.ป่าไม้ฯ ก็บัญญัติไว้ชัดว่า การเข้าไปอยู่ แผ้วถาง หรือหาของป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางการถือเป็นความผิด และถ้าเจ้าหน้าที่พบก็ให้รื้อถอน หากไม่ดำเนินการก็ให้ทำลายได้ การกระทำของเจ้าหน้าที่อุทยาน จึงเป็นไปตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ศาลต้องพิจารณาก่อนหรือไม่ว่า ชาวบ้านอยู่มาก่อนประกาศเขตอุทยานหรือไม่ นายสมชาย โฆษกศาลปกครอง กล่าวว่า ก่อนประกาศเป็นเขตอุทยาน พื้นที่ตรงนั้นก็เป็นป่ามาก่อน ก็ต้องเข้า ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ฯ ดังนั้นชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ในเขตป่าเมื่ออยู่ในราชอาณาจักรไทย ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตามคดีนี้ คาดว่าฝ่ายชาวบ้านน่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด จึงอยากให้สื่อและประชาชนแสดงความเห็นโดยสุจริต เพราะตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 32 วรรคสอง มีบทบัญญัติเรื่องละเมิดอำนาจศาลควบคุมอยู่