“ชีวาทัย”รุกแนวราบ

“ชีวาทัย”รุกแนวราบ

“ชีวาทัย”หันรุกตลาดแนวราบหวังสัดส่วนรายได้ 50% ลดความเสี่ยง-สร้างรายได้สม่ำเสมอ ประเดิมปีหน้า 3 โครงการ มูลค่า 5.4 พันล้าน

นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้โครงการชีวาทัย เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนขยายการพัฒนาโครงการแนวราบ ในเซกเม้นท์ระดับกลางและระดับบน  เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง และบริหารพอร์ตรายได้ให้สม่ำเสมอ  เพราะโครงการแนวราบสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้ในระยะเวลาไม่นาน  แตกต่างจากโครงการคอนโดมิเนียมต้องใช้ระยะเวลาในการรอรับรู้รายได้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า  โดยบริษัทวางเป้าหมายปี 2561 สัดส่วนรายได้มาจากแนวราบ 50% และคอนโดมิเนียม 50% ปัจจุบันรายได้มากจากคอนโดมิเนียม 100% โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 2561 อยู่ที่ 2,200-2,500 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 20%

ทั้งนี้ การเพิ่มสัดส่วนโครงการแนวราบนั้น บริษัทวางแผนจะเปิดโครงการปีละ 3 โครงการ  เพื่อทำให้สัดส่วนโครงการแนวราบเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งแผนการเปิดโครงการใหม่ในปี 2560 เบื้องต้นนั้น จะเปิดโครงการทั้งหมด 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 5,400 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการบ้านเดี่ยวหรู ระดับราคากว่า 20 ล้านบาท มูลค่า 2,000 ล้านบาท และโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์  มูลค่า 1,800 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 1 โครงการมูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท ซึ่งโครงการที่เตรียมเปิดขายในปีหน้า 3 โครงการนั้นบริษัทมีที่ดินรองรับการพัฒนาแล้ว ซึ่งได้มีการวางมัดจำที่ดินไปแล้วจำนวน 200-300 ล้านบาท

 โดยบริษัทนำร่องเปิดโครงการบ้านเดี่ยว "ชีวารมย์ รังสิต -ดอนเมือง "  ตั้งอยู่รังสิตคลอง 1 มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท บนพื้นที่ 15 ไร่ จำนวน 81 ยูนิตเป็นบ้านแฝด  เนื้อที่ 39 ตร.ว. ราคา 4.9 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว เนื้อที่ 54 ตร.ว. ราคา 7.9 ล้านบาท ปัจจุบันได้สร้างเฟส 1 จำนวน 31 ยูนิตแล้วเสร็จและเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 ต.ค.นี้ ซึ่งมีลูกค้าแสดงความสนใจซื้อแล้ว 20 ยูนิต 

ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ คือ โครงการชีวาทัย เพชรเกษม 27 มูลค่าโครงการ 1,660 ล้านบาท  อยู่ติดถนนเพชรเกษมห่างจากสถานีรถไฟฟ้าบางหว้า 350 เมตร เป็นคอนโดมิเนียมสูง  26 ชั้น จำนวนยูนิตทั้งหมด 638 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท หรือเฉลี่ยตร.ม.ละ 8 หมื่นล้านบาท โดยปัจจุบันมียอดจองแล้ว 35% และบริษัทจะเตรียมเปิดจองวันที่ 1-2 ต.ค.นี้ คาดว่าถึงสิ้นปีมียอดขาย 60%  

    นายบุญกล่าวว่าสำหรับสถานการณ์การซื้อขายอสังหาฯ ขณะนี้ ความเข้มงวดของสถาบันการเงินยังมีผล แต่ในส่วนบริษัทมีสถานการณ์ที่ดีขึ้นจากปีที่แล้วที่อัตราการปฏิเสธสินเชื่อ 15-20% ลดเหลือต่ำกว่า 5% โดยระดับราคาที่ยังมีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อส่วนใหญ่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท    

        สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ยังมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตตามเป้าหมาย 1,700 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,400 ล้านบาทโดยครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้ 835.34 ล้านบาท โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทจะมีการทยอยรับรู้รายได้จากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ที่มีอยู่ 300ล้านบาท ทั้งหมดในช่วงที่เหลือของปีนี้ อีกทั้งยังมีโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมขายอีกกว่า 750 ล้านบาท 

ส่วนโครงการที่มีกำหนดการทยอยโอนในปี 2560 ในเบื้องต้นมีจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการคอยโดมิเนียม ชีวาทัย เรสซิเดนท์ บางโพ มูลค่าโครงการ 1,040 ล้านบาท มีกำหนดส่งมอบในไตรมาส 1 ปี 2560 ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 40% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด 172 ยูนิต ซึ่งโครงการชีวาทัย เรสซิเดนท์ บางโพ บริษัทไม่เร่งการขายมากนักในช่วงก่อนหน้านี้  อีกทั้งบริษัทอยู่ระหว่างรอดูการพัฒนาโครงการห้างยักษ์เกตเวย์ บางโพ ของกลุ่มเจ้าสัวเจริญจะสามารถช่วยกระตุ้นตลาดในย่านบางโพได้มากขึ้นหรือไม่ ซึ่งเป็นเหตุผลให้บริษัทไม่เร่งการขายโครงการดังกล่าวมาก 

         อีกทั้งในช่วงไตรมาส 4 ปี 2560 จะมีการโอนโครงการคอนโดมิเนียม ชีวาทัย เรสซิเดนท์ อโศก มูลค่าโครงการ 1,700  ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่บริษัทซื้อมาจากบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด(มหาชน) ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าที่จองโครงการไปก่อนหน้านี้ตัดสินใจไม่ยกเลิกการจองโครงการคิดสัดส่วนเป็น 48% และมีการยกเลิกไปจำนวน 52% โดยก่อนนี้โครงการดังกล่าวได้ขายหมดไปแล้ว 100% ก่อนบริษัทเข้ามาซื้อโครงการ ซึ่งบริษัทตั้งเป้าโครงการดังกล่าวจะมียอดขายอยู่ที่ 60% พร้อมกับได้ปรับราคาขายเฉลี่ยเพิ่มเป็น 1.5-1.6 แสนบาทต่อตร.ม.จากเดิมที่ขายอยู่ที่ 1.4-1.5 แสนบาทต่อตร.ม. เพื่อให้สอดคล้องกับราคาขายโครงการในย่านอโศก-พระราม 9 ที่มีการขายเฉลี่ยอยู่ที่ 1.8-1.9 แสนบาทต่อตร.ม .