ครม.ไฟเขียวลดหย่อนภาษี2เท่า ลงทุนชายแดนใต้

ครม.ไฟเขียวลดหย่อนภาษี2เท่า ลงทุนชายแดนใต้

ที่ประชุม ครม. อนุมัติแพ็คเกจลดหย่อนภาษี 2 เท่า จากการลงทุน- ขยายกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนใต้

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ในวันนี้ว่า ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย 3 จังหวัด คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส โดยกำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งมีสถานประกอบกิจการตั้งอยู่ในจังหวัดดังกล่าว สามารถหักรายจ่ายการลงทุนหรือการต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้น ทั้งในส่วนของทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตสินค้าหรือการขายสินค้า หรือการให้บริการในจังหวัดดังกล่าว

ทั้งนี้ การหักภาษีดังกล่าวจะไม่รวมการซ่อมแซมให้คงสภาพเดิมได้เป็น โดยการหักลดภาษีนั้นจะให้เป็น 2 เท่า โดยรายจ่ายดังกล่าวนั้นจะต้องจ่ายไปตั้งแต่วันที่ครม.อนุมัติถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 เท่านั้น โดยต้องเป็นสินทรัพย์ดังนี้ เครื่องจักร ส่วนประกอบ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ เครื่องตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ยานพาหนะที่จดทะเบียนในท้องที่ซึ่งไม่รวมถึงรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารนั่งไม่เกิน 10 คน และอาคารถาวร ซึ่งไม่รวมถึงที่ดินและอาคารถาวรที่ใช้เพื่อการอยู่อาศัย

ขณะที่ผู้ประกอบการรายใหม่ในท้องที่ จะยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในจังหวัดดังกล่าว เป็นระยะเวลา 5 รอบบัญชี นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีต่อไปนี้ คือ ในกรณีที่รอบระยะเวลาบัญชีเริ่มในหรือหลังวันที่ยื่นคำร้องขอและได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรให้นับรอบระยะเวลาบัญชีนั้นเป็นรอบระยะเวลาบัญชีแรก ส่วนกรณีที่ยื่นคำร้องขอและได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรระหว่างรอบระยะเวลาบัญชรใด ให้นับรอบระยะเวลาบัญชีนั้นเป็นรอบระยะเวลาบัญชีแรกแม้จะมีระยะเวลาน้อยกว่า 1 เดือน

อย่างไรก็ตาม บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าวจะต้องจดทะเบียนจัดตั้งภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2558 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 มีทุนที่ชำระแล้วในวันสุดท้ายของกรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาทมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 30 ล้านบาท

สำหรับบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถสูงที่ไปทำงานในท้องที่ดังกล่าว กำหนดให้มีสิทธิเลือกเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลรัษฎากรที่ได้รับเนื่องจากการจ้างแรงงานของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งมีสถานประกอบกิจการตั้งอยู่ในจังหวัดดังกล่าว ในอัตรา 3% ของเงินได้ โดยไม่ต้องนำไปรวมกับเงินได้พึงประเมินอื่นๆ ในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา