'ศรีริต้า' ปั้นแบรนด์ 'ออกานิก้า' ดันสปาไทยบูมตลาดโลก

'ศรีริต้า' ปั้นแบรนด์ 'ออกานิก้า' ดันสปาไทยบูมตลาดโลก

ศรีริต้า เจนเซ่น เดินหน้าต่อยอดธุรกิจสปาไทยสู่ตลาดโลก ผุดแฟลกชิพสโตร์ "ออกานิก้า เฮ้าส์" สร้างประสบการณ์ใหม่ ย้ำภาพลักษณ์แบรนด์พรีเมี่ยม

           การตื่นตัวของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพทำให้ธุรกิจ "สปา" ในประเทศไทยมีแนวโน้มการเติบโตสูงต่อเนื่อง  จากตัวเลขของสมาคมสปาไทย ระบุว่าอุตสาหกรรมสปาไทยปี 2558 มีมูลค่า 3.24 หมื่นล้านบาท คาดปี 2559 จะสูงถึง 4.74 หมื่นล้านบาท เพิ่มจากปีที่ผ่านมา 15% เป็นโอกาสของการขยายฐานธุรกิจทั้งในไทยและต่างประเทศของ "ออกานิก้า" ผลิตภัณฑ์สปาออร์แกนิคครบวงจรสัญชาติไทย เดินหน้าต่อยอดธุรกิจสู่ "ออกานิก้า เฮ้าส์" สร้างประสบการณ์เหนือระดับด้วยบริการสปาและร้านอาหารลักชัวรี พร้อมบุกตลาดโรงแรมหรู และศูนย์การค้าไฮเอนด์ ก่อนขยายสู่ตลาดโลก

            ศรีริต้า เจนเซ่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออกานิก้า เฮ้าส์ จำกัด ผู้ก่อตั้งและบริหารแบรนด์ผลิตภัณฑ์สปาและอโรมาเธอราพีระดับพรีเมียม "ออกานิก้า"  กล่าวว่า สปาไทยยังคงเป็นผู้นำในตลาดโลก ที่ต่างชาติให้ความนิยมและเดินทางเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก แบ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวเอเชีย 60-70% ประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะยุโรปา 30-40%

          “ผลิตภัณฑ์สปาและอโรมาเธอราพีของไทยเป็นที่ยอมรับในตลาดสากล ทั้งเรื่องกลิ่น วัตถุดิบ กรรมวิธีการผลิต และคุณภาพ เป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมติดอันดับที่ 17 ของโลก ประกอบกับเทรนด์โลกหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพและความงามจากธรรมชาติมากขึ้น เราจึงตัดสินใจเปิดแฟลกชิพสโตร์แห่งแรก พร้อมกับสปาและร้านอาหารที่เน้นบริการแบบลักชัวรีทุกขั้นตอน"

          แฟลกชิพสโตร์แห่งแรกของแบรนด์ใช้ชื่อ ออกานิก้า เฮ้าส์ (Organika House)  ลงทุนกว่า 50 ล้านบาท ให้บริการสปาระดับพรีเมียม พร้อมร้านอาหารลักชัวรีกลางย่านธุรกิจ ในโครงการพิมาน 49 (สุขุมวิท 49) พื้นที่รวม 160 ตร.ม. เป็นพื้นที่สปา 80 ตร.ม. อีก 80 ตร.ม. เป็นร้านอาหาร เพื่อเปิดประสบการณ์หรูเหนือระดับให้กับธุรกิจสปาไทย ก้าวสู่ผู้นำด้านการให้บริการและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคสปา ภายใต้คอนเซปต์ "กลาสเฮ้าส์" เรียกว่า ให้ความรู้สึกผ่อนคลายตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาเยือน

            ออกานิก้า เฮ้าส์ ได้รับเเรงบันดาลใจจาก  Wilhelma Botanical Garden ปราสาทเก่าเเก่สมัยศตวรรษที่19 ในเมืองสตุตการ์ต เยอรมนี ซึ่งในอดีตเป็นเรือนกระจกเก็บพันธุ์ไม้นานาชนิดตั้งเเต่ยุคโรแมนติก รูปแบบสถาปัตยกรรมของ ออกานิก้า เฮ้าส์ จึงสะท้อนออกมาเป็นความอ่อนช้อยงดงาม ผสานกับความเรียบหรู และสดชื่นจากต้นไม้เขียวสดเกิดเป็นเสน่ห์เฉพาะตัว สอดคล้องกับทำเลในซอยสุขุมวิท 49 ซึ่งเป็นย่านที่ลูกค้ามีกำลังซื้อสูง มีชาวต่างชาติพักอาศัยจำนวนมาก สอดรับกลุ่มเป้าหมายวัยทำงาน อายุ 22-25  ปี  ตั้งเป้าคืนทุนภายใน 3-5 ปี  ซึ่งในส่วนของร้านอาหาร นอกจากให้บริการอาหารเช้าและกลางวัน จะเพิ่มดินเนอร์แบบ Chef Table โดยมีเชฟชาวสิงคโปร์ซึ่งผ่านการทำงานกับร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์เป็นที่ปรึกษา เน้นอาหารซีฟู้ดออร์แกนิก เริ่มเดือน ต.ค.นี้

            ศรีริต้า กล่าวอีกว่า ได้วางแผนขยายช็อป "ออกานิก้า"  เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น นอกจากศูนย์การค้าสยามพารากอนแล้ว ในเดือน ต.ค.นี้ จะขยายสาขาไปที่ ดิ เอ็มควอเทียร์  ตั้งเป้าปีหน้ามีสาขาไม่ต่ำกว่า 10 แห่ง พร้อมรุกเข้าสู่ "โรงแรมลักชัวรี" มากขึ้น ผ่านโปรดักส์ไลน์ทั้ง 3 ประเภทหลัก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์สปา ผลิตภัณฑ์ปรับอากาศ เช่น เทียนหอม เครื่องหอม รูมสเปรย์ และผลิตภัณฑ์บำรุงผิว อาทิ สบู่ โลชั่น แชมพู ครีมนวด แฮนด์ครีม บอดี้สครับ หิมาลายันบาทซอลท์ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ชา ซึ่งผลิตภัณฑ์ออกานิก้า มีมากกว่า 8 ไลน์ผลิตภัณฑ์กว่า 200 ไอเท็มด้วยจุดขายออร์แกนิค

            เส้นทางธุรกิจออกานิก้าแจ้งเกิดเพียง 2 ปี ภารกิจหลักจึงมุ่งตอกย้ำแบรนด์และสร้างภาพลักษณ์ให้เป็นที่จดจำ ผ่านกิจกรรมการตลาดเชิงรุก เช่น ร่วมกับที่พักระดับไฮเอนด์ อย่าง "ศรีพันวา ภูเก็ต"  เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และนำเสนอซิกเนเจอร์โปรดักส์ให้เหล่าเซเลบริตี้ หรือ จัดดินเนอร์มื้อหรู มอบความรู้สึกพิเศษให้ลูกค้าคนสำคัญ ฯลฯ

          "ในระยะแรกจะเน้นหนักในการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งภายในประเทศ พร้อมวางแผนสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับในระดั บโลกควบคู่ไปด้วย"

            การทำตลาดนอกบ้าน มุ่งเจาะกลุ่มประเทศที่ "สปาไทย" ได้รับความนิยมและมีกำลังซื้อ อย่างประเทศในแถบเอเชีย รวมไปถึงยุโรป เช่น อิตาลี ฝรั่งเศส และสหรัฐ  นอกจากนี้เพื่อขยายตลาดในวงกว้างจะให้ความสำคัญกับการจำหน่ายออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ www.organikahouse.com เฟซบุ๊ค www.facebook.com/ organikahouse และ อินสตาแกรม organikahouse เพื่อเป็นช่องทางการสื่อสารและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่

          “กลุ่มลูกค้าต่างชาติที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ออกานิก้ามีค่อนข้างมาก ทั้งสิงคโปร์ ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลี จีน ดูไบ รวมถึงอินเดีย และมีหลายประเทศสนใจติดต่อเข้ามาในเชิงธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศส เจ้าแห่งการทำเครื่องหอม ซึ่งเราได้ศึกษาช่องทาง เข้าไปพูดคุยกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และมีการทำโรดโชว์ในแต่ละประเทศด้วย  ปีหน้า เราจะมุ่งสู่ตลาดต่างประเทศเต็มตัว”          

            ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสปาและความงามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เติบโตเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน มีมูลค่ายอดขายกว่า 8,000 ล้านดอลลาร์  ขณะที่อุตสาหกรรมสปาและสุขภาพทั่วโลกมีแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ และมีช่องว่างทางธุรกิจสูง

            แบรนด์สัญชาติไทย ออกานิก้า มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจ "อโรมาเธอราพีสปาบำบัด"  ให้เป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน