สี่แยกหัวตะเข้ คาเฟ่ แอนด์ เกสท์เฮ้าส์

สี่แยกหัวตะเข้ คาเฟ่ แอนด์ เกสท์เฮ้าส์

กลิ่นกาแฟสดหอมกรุ่น เกสท์เฮ้าส์แสนสบาย และบรรยากาศริมคลองสี่แยกหัวตะเข้...

...นี่คงเป็นคำอธิบายกว้างๆ ถึงเกสท์เฮ้าส์สุดคลาสสิกที่หลบอยู่ในซอกมุมหนึ่งของกรุงเทพฝั่งตะวันออก ในขณะที่เพียงขยับออกมาข้างนอกไม่กี่อึดใจก็คือโลกอันแสนวุ่นวายแล้ว

            วันหยุดสุดสัปดาห์ที่หลายคนหวงแหน และอยากใช้มันให้หมดไปกับการพักผ่อนเต็มที่ หลีกหนีความว้าวุ่นใจ และแน่นอนว่าหลายคนไม่อยากให้มันหมดไปกับการเดินทางแสนนานบนท้องถนนอันยาวไกล

            ที่ย่านตลาดเก่าหัวตะเข้ อาจเป็นแหล่งค้าขายของพ่อค้าแม่ค้าตั้งแต่ยังหนุ่มสาว เวลาผ่านไปจากตลาดเก่าก็ถูกขยับขยายสู่ภายนอกใกล้ถนนลาดกระบัง เป็นสัจธรรมที่ตลาดเก่าย่อมโรยรา

            เมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมานี้เอง เปา - ชวลิต สัทธรรมสกุล กลับมาบุกเบิกทำร้านและเกสท์เฮ้าส์หลังจากที่ห่างหายไปจากชุมชนหัวตะเข้แห่งนี้นานพอตัว โดยที่เขาเองก็ยังหวั่นใจว่าเกสท์เฮ้าส์ที่อยู่หลังสุดท้ายในซอยลึก จะมีใครตั้งใจเข้ามาหรือเปล่า ถ้าไม่มีนั่นคือจบเกม

            “ตอนนั้นคิดว่าถ้ามันไม่เวิร์คก็อย่างน้อยๆ มีบ้านไว้นอนเล่น ไว้พักผ่อน”

            แต่ด้วยความที่เขาเป็นนักออกแบบ จากบ้านเก่าผุพังก็กลับมาเป็นบ้านเก่าที่ดูเก๋ไก๋ตามสไตล์ไทยแลนด์ดั้งเดิม จนไปเตะตานักเดินทางโดยเฉพาะต่างชาติ ดั้นด้นเข้ามาพักผ่อนและเสพเสน่ห์ของชุมชนคนไทยดั้งเดิมที่นี่

            ชื่อของ สี่แยกหัวตะเข้ คาเฟ่ แอนด์ เกสต์เฮ้าส์ ค่อยๆ ขยายวงการรับรู้ มาเป็นเวลาเกือบสองปี โดยไม่โปรโมทใดๆ ทั้งสิ้น ปล่อยให้โลกโซเชียลเป็นกระบอกเสียงไปเอง

            แต่ต้องยอมรับว่าแรกเริ่มไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ช่วงเดือนมกราคม 2558 ส่วนเกสท์เฮ้าส์ยังไม่เสร็จสมบูรณ์นัก แขกที่เข้าพักจึงเน้นเป็นคนรู้จักและเพื่อนฝูง ต่อมาช่วงกลางปีเดียวกันจึงเปิดให้จองและเข้าพัก ด้วยเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ทำให้เพียงคืนเดียวที่เปิดให้จองก็มีข้อความเข้ามานับไม่ถ้วน แน่นอนว่าเป็นชาวต่างชาติ เมื่อนับเป็นสัดส่วนลูกค้าของที่นี่จึงไม่น่าแปลกใจที่เป็นชาวต่างชาติถึง 95 เปอร์เซ็นต์

            “สิ่งที่ทำให้เขามาพักที่เราก็คือความแตกต่าง เพราะเมื่อเขาเสิร์ชหาที่พักในเขตลาดกระบังซึ่งมันใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ที่อื่นคือรูปโรงแรม ห้องนอน มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แต่เราเป็นบ้านริมน้ำ เราตั้งใจให้เห็นคลองที่อยู่หน้าบ้าน เราเป็นบ้านไม้เก่าแก่ ตั้งอยู่ในชุมชนริมน้ำ เราขายความเป็นไทยเก่าแก่”

            เกสท์เฮ้าส์หลังนี้เดิมทีเป็นร้านขายของชำเก่า ทำมาหากินมาตั้งแต่รุ่นก๋ง นับย้อนกลับไปก็ผ่านมาสามชั่วอายุคน สภาพเดิมจึงทรุดโทรมมาก พื้นและผนังเดิมถูกรื้อออกจนหมด แล้วปูพื้นใหม่ทำผนังใหม่ บ้านนี้มีสองชั้น นอกจากทำร้านกาแฟอย่างง่ายๆ ได้แล้ว ชั้นสองก็แบ่งทำเป็นเกสท์เฮ้าส์ขนาดย่อมได้

            ความแตกต่างที่เคยเป็นจุดอ่อนคืออยู่ในสุดหากนับจากถนน แต่ในทางกลับกันมันทำให้บ้านหลังนี้กลายเป็นบ้านหลังเดียวที่ไม่ใช่เรือนแถวธรรมดา เพราะเป็นบ้านหลังเดียว แยกอยู่ติดมุมคลองพอดิบพอดี

            จากชั้นล่างเมื่อเดินผ่านตัวร้านขึ้นไปยังบันไดไม้ เสียงออดแอดสร้างบรรยากาศคล้ายได้เข้ามาอยู่ในบ้านเก่าสมัยพ่อแม่ยังเด็ก พอขึ้นไปถึงชั้นสองจะพบโถงขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ก็พอให้นั่งพักผ่อนอ่านหนังสือหรือพูดคุยกันได้บนโซฟาเก่า เมื่อหันมองออกนอกหน้าต่างคือวิวลำคลองหัวตะเข้ ตัดกันเป็นสี่แยกพอดี เกือบตลอดทั้งวันมีเรือหางยาวแล่นผ่านเสริมบรรยากาศให้กลมกล่อมยิ่งขึ้นไปอีก

            ส่วนห้องพักมี 3 ห้อง แบ่งเป็นสองแบบคือ 2 ห้อง เป็นเตียงคู่ นอนได้สองคน ส่วนอีกห้องมีเตียงเดี่ยวเพิ่ม นอนได้สามคน เมื่อเข้าไปสิ่งที่รู้สึกได้คืออากาศค่อนข้างถ่ายเทตามแบบบ้านไทยภาคกลาง บวกกับมีลมจากคลองโล่งๆ พัดเข้ามา แต่สำหรับคนขี้ร้อนที่นี่ทุกห้องมีเครื่องปรับอากาศรองรับในกรณีที่อยากนอนเย็นๆ ท่ามกลางฤดูร้อนและภาวะโลกร้อน

            ตามมุมห้องและรายละเอียดต่างๆ ภายในห้องชวนนึกถึงวันวาน ด้วยของประดับแบบวินเทจ แต่ทุกชิ้นยังใช้งานได้ เช่น โคมไฟเก่าแต่ยังให้แสงสว่างแรงจ้า แม้กระทั่งพัดลมติดเพดานตรงระเบียงก็เก่าแต่ยังเก๋าสร้างลมเย็นให้นั่งๆ นอนๆ ชมวิวคลองหัวตะเข้ได้อย่างสบายใจเฉิบ

            ความเท่ เก๋ไก๋ ทำให้ที่นี่ได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่นของสมาคมสถาปนิกสยาม ปี 2558 ประเภทอาคาราณิชย์ เนื่องจากได้รับการปรับปรุงให้กลับมีสภาพดีเหมือนเดิมโดยยังคงความสวยคลาสสิกไว้ครบถ้วน

          แอบเปิดดูสมุดจดคิวจองห้องพัก รายชื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติเต็มไปหมด แทรกชื่อนักท่องเที่ยวไทยอยู่บ้างประปราย เกือบทุกหน้า (ลากยาวไปถึงต้นปีหน้า) เหลือพื้นที่ว่างน้อยเต็มที คงน่าเสียดายหากจะปล่อยโอกาสที่จะได้ดื่มด่ำรสชาติความไทยสไตล์คลาสสิกท่ามกลางบรรยากาศจริง ทั้งตลาด ชุมชน และคนริมคลอง

 

......

ที่ตั้ง : ในตลาดเก่าหัวตะเข้ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร

ราคา : 1,000-1,200 บาท

จุดเด่น : เป็นเกสท์เฮ้าส์ปรับปรุงจากบ้านเก่าริมคลอง ที่มีบรรยากาศใกล้ชิดชุมชนดั้งเดิมและวิถีชีวิตริมคลอง

ติดต่อ : โทร 08 1514 6636 หรือ www.facebook.com/seeyakhautakhe