นกแอร์ หนุนรัฐเพิ่มฐานทัวริสต์คุณภาพ‘จีน’

นกแอร์ หนุนรัฐเพิ่มฐานทัวริสต์คุณภาพ‘จีน’

นกแอร์ หารือ “กอบกาญจน์” อาสาจัดแพ็คเกจทัวร์กระตุ้นตลาดไฮเอนด์จีน ส่ง “นกสกู๊ต” ดึงนักท่องเที่ยว 5 เมืองรอง

นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกแอร์ กล่าวว่า ได้หารือกับนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อเสนอแนวทางกระตุ้นตลาดจากสายการบินในเครือนกแอร์ ประกอบด้วย นกแอร์ ให้บริการในรูปแบบโลว์คอสต์เส้นทางระยะใกล้ (Short Haul) และนกสกู๊ตที่ให้บริการเส้นทางระยะกลางถึงไกล (Medium-Long Haul) ในการเพิ่มฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มไฮเอนด์จากประเทศจีน รองรับนโยบายรัฐบาลมุ่งปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ และกระตุ้นตลาดคุณภาพขยายตัว

โดยกลุ่มนกแอร์จะจัดทำแพ็คเกจท่องเที่ยวและทำตลาดเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพใน 5 เมืองหลักที่นกสกู๊ตทำการบิน ได้แก่ ชิงเต่า นานกิง เทียนจิน เสิ่นหยาง และฉงชิ่ง และขอความร่วมมือจากหน่วยงานใต้สังกัดกระทรวงท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องช่วยส่งเสริมตลาดสร้างการรับรู้

ทั้งนี้ ตลาดดังกล่าวมีแนวโน้มการเติบโตของผู้โดยสารจากจีนที่ดีต่อเนื่อง อัตราบรรทุกเฉลี่ยทุกเส้นทางจากจีนมาไทยอยู่ที่ 70-80% จากการใช้เครื่องบินโบอิ้ง 777-200 ที่มีความจุกว่า 415 ที่นั่ง เป็นตลาดจีนเกือบทั้งหมด ขณะที่สัดส่วนคนไทยน้อยมาก"

สำหรับมาตรการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อยอดนักท่องเที่ยว แต่ไม่มีผลกระทบต่อนกสกู๊ต สะท้อนว่าเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพในการจับจ่าย

“การทำตลาดไฮเอนด์ช่วงแรก นำร่องทดสอบตลาดในเมืองเดียวก่อน อาจเลือกเมืองชิงเต่าซึ่งนกสกู๊ตเข้าไปเปิดเส้นทางเป็นอันดับต้นๆ จากนั้นจะขยายผลไปสู่เมืองอื่นๆ และมีโอกาสทำตลาดไฮเอนด์เพิ่มในกรณีที่้นกแอร์เพิ่มเส้นทางเข้าไปในจีนเพิ่มตามกลยุทธ์ที่วางไว้”

คาดว่า เดือน พ.ย.นี้ จะเปิดเส้นทางบินประจำเข้าสู่คุนหมิง และกวางโจว ปี 2560 จะผลักดันให้จีนเป็นจุดหมายสำคัญในการเปิดเส้นทางอีก 3-4 เมือง

ขณะเดียวกัน นกสกู๊ต ยังรอโอกาสในการกลับไปเปิดเส้นทางญี่ปุ่นอีกครั้ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำงานตามข้อปฏิบัติเพื่อรับมาตรฐานการบริหารความปลอดภัยของสายการบิน (IATA Operational Safety Audit) หรือ ไอโอซ่า หากได้การรับรองเต็มรูปแบบ จะสร้างความเชื่อมั่นมากขึ้นโดยไม่ต้องรอการพิจารณาปลดธงแดงจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ)

นายพาที ยอมรับว่าในปีนี้การแข่งขันธุรกิจสายการบินที่้มีความรุนแรงทำให้ราคาบัตรโดยสารอยู่ในระดับต่ำ ไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้แม้ว่าอัตราบรรทุกเฉลี่ยจะสูงกว่า 80% ภาวะอุปทานล้นตลาดจากที่นั่งเครื่องบินจากสายการบินต่างๆ ที่รับเครื่องบินลำใหม่เพิ่มยังมากกว่าความต้องการของตลาด ทำให้ทุกสายการบินต้องพยุงฐานลูกค้าด้วยการใช้กลยุทธ์ราคาต่ำ

อย่างไรก็ตาม ไตรมาสสุดท้ายนี้มีแนวโน้มการทำรายได้เป็นบวกจจะกลับมาทำรายได้เป็นบวกได้จากไฮซีซัน ปีนี้นกแอร์รับเครื่องบินใหม่รวม 5 ลำ เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 จำนวน 3 ลำ เครื่องบินขนาด 86 ที่นั่ง คิว 400 จำนวน 2 ลำ

เชื่อว่าธุรกิจการบินจะปรับตัวสู่ขาขึ้น โดยนกแอร์กำลังปรับตัวเพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีการเพิ่มอัตราการใช้งานเครื่องบินให้ได้ประโยชน์สูงสุด จากปัจจุบันใช้งาน 8 ชั่วโมงต่อวัน ยังไม่เต็มความสามารถที่ 11 ชั่วโมง รวมถึงการอบรมนักบินใหม่สอดรับการเพิ่มเส้นทาง ขณะนี้เหลือนักบินอีก 10% ที่อยู่ระหว่างเทรนนิ่งเพื่อรอเข้าสู่ระบบการทำงาน