Daily Market Outlook (26 ก.ย.59)

Daily Market Outlook (26 ก.ย.59)

จุดสนใจนักลงทุนเปลี่ยน

คาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวมนกรอบแคบวันนี้ เป็นการสู้กันระหว่างความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ที่จะเว้นว่างไประยะหนึ่ง กับราคาน้ำมันที่ร่วงหนักจนฉุดหุ้นสหรัฐให้ร่วงแรงเมื่อวันศุกร์ จุดสนใจสัปดาห์นี้เปลี่ยนไปเป็นการโต้วาทีของผู้สมัครเข้าชิงตำแหน่งปรานาธิบดีสหรัฐ และ BOJ จะดำเนินการซื้อขายพันธบัตรอย่างไรหลังจากประกาศยกเครื่องนโยบายการเงินสัปดาห์ที่แล้ว หาก Trump มีวาทะเหนือกว่าซึ่งหมายถึงว่าเขาอาจชนะการเลือกตั้ง คาดว่าสินทรัพย์ ปลอดภัยทั้งหลายจะปรับตัวขึ้น เพราะความเกรงว่านโยบายสหรัฐอาจมีการเปลี่ยนแปลงแบบยกเครื่อง ภายในประเทศ ธปท. มองว่าหากไม่มีมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม การบริโภคภาคครัวเรือนจะชะลอ แต่รัฐบาลเพิ่งประกาศมาตรการสนับสนุนเกษตรกร และประชาชนทีมีรายได้ต่ำ

หุ้นเด่นวันนี้: ANAN (ราคาปิด 4.62 บาท¸แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย AWS7.50 บาท)

บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์(ANAN) เป็นหุ้นที่เราเลือกลงทุนเนื่องจากแนวโน้มธุรกิจของบริษัทดีมากจากภาพรวมของธุรกิจคอนโดมีเนียมตามแนวรถไฟฟ้ามีแนวโน้มที่สดใสตามการขยายตัวของระบบขนส่งมวลชน โดยบริษัทมียอดเตรียมโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ให้กับลูกค้าเป็นจำนวนมาก ประกอบกับมีแผนเปิดโครงการใหม่รองรับการเติบโตในอนาคตอีกหลายโครงการ เราคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2559 เติบโต 15%YoY เป็น 1.4 พันล้านบาท (0.42 บาทต่อหุ้น) และเติบโต 81%YoY เป็น 2.5 พันล้านบาท ในปี 2560 เป็นผลมาจากการเปิดตัวโครงการจำนวนมากไปเมื่อปี 2556-2557 ทำให้เริ่มมีการโอนโครงการขนาดใหญ่เข้ามาในช่วง 2H59 ปัจจัยที่ส่งผลบวกมากคือการที่ ANAN มีการร่วมทุนกับ Mitsui Fudosan(MF) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เบอร์หนึ่งของญี่ปุ่น โดยโครงการที่ร่วมทุน ANAN ถือหุ้น 51% และ MF ถือหุ้น 49% โครงการแรกที่ร่วมทุนกันคือIdeoQ จุฬา-สามย่าน มูลค่าโครงการ 6,800 ล้านบาท จะเริ่มโอนในไตรมาส 4/59 นี้ ตามด้วยโครงการใหญ่อีกหลายโครงการที่ร่วมทุนกันแล้วประสบความสำเร็จ ในปี 2559 ยอดโอนคาดว่าจะเป็น 15,601 ล้านบาท เติบโต 62% YoY เป็นส่วนของ ANAN เอง 72% ที่เหลือเป็นโครงการร่วมทุน และปี 2560 คาดว่ายอดโอนจะเป็น 30,215 ล้านบาท เติบโต 94%YoY เป็นส่วนของ ANAN52% ที่เหลือเป็นโครงการร่วมทุน โดยล่าสุด 24 ก.ย.นี้ ANAN เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับโครงการIdeoMobiอโศก และ Vinioสุขุมวิท 10 คาดว่าประสบความสำเร็จสูงสำหรับการเพิ่มยอด Presales การที่บริษัทยึดแนวทางธุรกิจในการสร้างคอนโดมีเนียมติดสถานีรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครคาดว่าจะส่งผลบวกในระยะยาวเพราะคาดว่าการขยายตัวของระบบขนส่งรถไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นอีกมากใน 5-8 ปีข้างหน้า ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER11.1 เท่า คาดว่าจะลดลงเป็น 6.1 เท่าในการเทียบกับ EPS ปี 2560 เราจึงแนะนำซื้อ ประกอบกับภาพทางเทคนิค มี Buy Signal ทั้งในระดับ รายวันและรายเดือน รอการเกิดสัญญาณซื้อรายสัปดาห์ ซึ่งเป้าหมายถัดไปของ ANAN คือ 4.98 บาทมีจุด Stop Loss ที่ 4.56 บาท (Resistance: 4.64, 4.70, 4.78; Support 4.56,4.50,4.42)

ปัจจัยสำคัญ

ประเด็นในประเทศ:

• การบริโภคอาจชะลอในครึ่งหลังปี 59ผู้บริหารระดับสูงของ ธปท. กล่าวว่าการบริโภคอาจชะลอในครึ่งหลังปี 59 ถ้ารัฐบาลไม่ได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอะไรเพิ่มเติมเข้าไปอีก อย่างไรก็ดีการบริโภคภาคเอกชนจะยังฟื้นตัว ซึ่ง ธปท. ปรับแก้การเติบโตปี 59 สำหรับการบริโภคภาคเอกชนไปเป็น 2.7% จากเดิม 1.8% และปรับการเติบโต GDP เป็น 3.2% จาก 3.1% (Bangkok Post) ความเห็น: อย่างไรก็ตามเราคาดว่ามาตรการกระตุ้นจะออกมาอีกในช่วงที่เหลือของปี ตามที่ รมว.คลังได้เคยยืนยันเอาไว้

• มาตรการส่วนเพิ่มเพื่อช่วยเหลือผู้ปลูกมันสำปะหลังกระทรวงพาณิชย์เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง โดยจะใช้มาตรการพักชำระหนี้เงินต้นให้แก่ผู้ปลูกมันสำปะหลังเป็นเวลา 24 เดือน วงเงิน 1.2 พันลบ. ครอบคลุมเกษตรกร 500,000 ราย ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจะชดเชยดอกเบี้ยให้ 1.5% และรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ 1.5% แก่ผู้ปลูกมันสำปะหลัง นอกจากนี้ยังมีแผนจะเสนอให้พิจารณาอนุมัติให้ ธ.ก.ส.ปล่อยสินเชื่อเกษตรกรในด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่อง ในวงเงิน 2.0 หมื่นลบ. (Bangkok Post)

• BBL(167.00 บ. ซื้อ ราคาเป้าหมาย AWS 188.00 บ.) ได้เข้าร่วมกลุ่มพันธมิตร R3 ที่มีสถาบันการเงินชั้นนำของโลกกว่า 55 แห่งเป็นสมาชิก ซึ่ง BBL มีแผนจะร่วมมือกับสมาชิกในกลุ่มที่จะวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางการเงินในเชิงพาณิชย์ใหม่ๆ (Bangkok Post)ความเห็น: ประเด็นดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับตัวทางธุรกิจของ BBL ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยทางการเงินที่กำลังเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน รวมไปถึง Lifestyle ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

ต่างประเทศ

• หันมาจับตาการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐและผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59: นักลงทุนทั่วโลกหันมาจับตาการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐแทนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดดยจะมีการโต้วาทีครั้งแรกในวันจันทร์นี้ (ช่วงเช้าวันอังคารตามเวลาในแถบเอเชีย) และฤดูการประกาศผลประกอบการที่กำลังจะมาถึง จากผลสำรวจของ CME’s FedWatchมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 58.4% (Reuters) ความเห็น: ความคิดจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ที่มองว่าดีอาจทำให้สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำปรับตัวขึ้น อันได้แก่ พันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น เงินเยน ทองคำ และพันธบัตรรัฐบาลเยอรมัน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างรุนแรงจะตามมาหากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งเนื่องจากแนวนโยบายตรงกันข้ามกับนางฮิลลารี คลินตัน

• ราคาพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอ้างอิงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์จากความต้องการพันธบัตรซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้นเนื่องจากการขาดทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ ราคาพันธบัตรอ้างอิงอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 4/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 1.618% ลดลง 1 bps จากเมื่อวันพฤหัส ในช่วงต้นของการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ แตะที่ระดับ 1.606% ซึ่งเป็นอัตราผลตอบแทนต่ำสุดนับแต่วันที่ 9 ก.ย. (Reuters)

• ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงสถานะไว้ ก่อนศึกการโต้วาทีของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในวันจันทร์ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทรงตัวที่ระดับ 95.472 ลดลง 0.7% ในสัปดาห์ก่อน ซึ่งเป็นการดำเนินงานรายสัปดาห์ที่ตกต่ำที่สุดนับแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 18 ส.ค. (Reuters)

สหรัฐ:

• ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากราคาน้ำมันที่ดิ่งลงอย่างหนักหลังแทบไม่มีความพยายามจากประเทศผู้ผลิตน้ำมันในการตรึงกำลังการผลิตแต่อย่างใด หุ้นกลุ่มพลังงานฉุดตลาดลง อีกทั้งหุ้นบ.แอปเปิลและเฟซบุ๊กปรับตัวลงเช่นกัน แต่ดัชนีหลัก ๆ ยังคงปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน (Reuters)

ยุโรป:

• ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพฤหัสบดีปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ นำโดยการปรับตัวสูงขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากที่ Fed ตัดสินใจไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย และมองว่าจะไม่เร่งการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้และปีหน้า (Reuters)

เอเชีย:

• กรอบนโยบายใหม่ของ BOJ จะเผชิญกับการทดสอบครั้งแรกในสัปดาห์ที่ผ่านมาขณะที่นักลงทุนมองไปที่วิธีการที่จะจัดการกับการดำเนินการซื้อพันธบัตรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของนโยบายใหม่ในอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว BOJ กล่าวว่ามันจะมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นแนวทางในอัตราผลตอบแทน JGB 10 ปีอยู่ที่ราว 0.0%ตามเป้าหมายนโยบายหลักก่อนหน้านี้ รวมถึงการเพิ่มการถือครองพันธบัตรอีก 80 ล้านล้านเยนต่อปี(792.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) แม้ว่า BOJ กล่าวว่าจะรักษาจังหวะของการซื้อพันธบัตร แต่นักลงทุนจำนวนมากเชื่อว่ากรอบการทำงานใหม่เป็นความพยายามที่จะลดการซื้อพันธบัตรขนาดใหญ่(Reuters)

• นักการทูตในประเทศฟิลิปปินส์กำลังเจรจากับประเทศจีนที่จะจัดให้มีการเยือนของประธานาธิบดีRodrigo Duterteในช่วงสิ้นเดือนหน้าความสัมพันธ์ระหว่างฟิลิปปินส์กับจีนไม่ราบรื่นจากเรื่องดินแดนในทะเลจีนใต้ Duterteได้กล่าวซ้ำ ๆ ว่า ความขัดแย้งไม่มีจุดหมายและเขาต้องการที่จะทำธุรกิจกับจีนDuterteได้ออกมาต่อต้าน สหรัฐ สหภาพยุโรปและสหประชาชาติ ที่วิจารณ์รุนแรงเกี่ยวกับการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดของเขาซึ่งมีคนถูกฆ่าตายไปเกือบ 3,000 คนจีนได้ระบุว่ายินดีต้อนรับการเจรจาทวิภาคีระหว่างฟิลิปปินส์และจีน ซึ่งจัดให้ประธานาธิบดี Duterteไปเยือนประเทศจีน(Reuters)

• คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) ปฏิเสธข้อเสนอของกลุ่มผู้ผลิตเหล็กในประเทศซึ่งได้เสนอให้ทางจีนพิจารณาการเพิ่มการผลิตถ่านหิน Coking ที่ให้ในอุตสาหกรรมการผลิตเหล็ก เพื่อช่วยลดผลกระทบจากราคาถ่านหิน Coking ที่ปรับตัวสูงขึ้นจากภาวะอุปทานตึงตัวในประเทศ อย่างไรก็ตาม NDRC ได้อนุมัติให้ผู้ประกอบการเหมืองถ่านหิน 74 รายเพิ่มการผลิตถ่านหินชนิด Thermal coal (Reuters)

สินค้าโภคภัณฑ์:

• ราคาน้ำมันลบ 4% วันศุกร์ กดดันจากข่าวที่ว่าซาอุฯ และคู่แข่งสำคัญคืออิหร่านเจรจานอกรอบแล้วมีความคืบหน้าเล็กน้อยเท่านั้น ก่อนประชุมหลักประเทศผู้ส่งออกน้ำมันของโลกในสัปดาห์นี้ (26-28 ก.ย.) เพื่อมุ่งจะคุมการผลิตซึ่งก็กังวลว่าจะไม่ค่อยคืบหน้าเช่นกัน น้ำมัน Brent ลบ 1.76 ดอลลาร์สหรัฐ (-3.7%) ปิดที่ 45.89 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล รายสัปดาห์ขึ้นไป 0.3% จากการบวกไปสองวัน น้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าลบ 1.84 ดอลลาร์ (-3.9%) ปิดที่ 44.48 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)

• ทองคำคงที่จากช่วงซื้อขายที่ไม่คึกคักเช่นเดียวกับค่าเงินดอลลาร์ในวันศุกร์ แต่รายสัปดาห์ทองยังบวกมากสุดในรอบสองเดือนเพราะ Fed ระบุตำเตือนเรื่องการขึ้นดอกเบี้ย ราคาทองคำตลาดจรบวก 0.03% ไปอยู่ที่ 1,337.01 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลงจากจุดสูงสุดรอบสองสัปดาห์ที่ขึ้นไปแตะ 1,343.64 ดอลลาร์ในวันพฤหัส หรือรายสัปดาห์บวกไป 2% มากสุดนับแต่ปลาย ก.ค. ทองคำสหรัฐล่วงหน้าส่งมอบเดือน ธ.ค. ปรับลดลง 0.2% ปิด 1,341.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Reuters)