'ศานิตย์'สั่งเช็กเส้นทางเงิน แก๊งต่างชาติปลอมพาสปอร์ต

'ศานิตย์'สั่งเช็กเส้นทางเงิน แก๊งต่างชาติปลอมพาสปอร์ต

“ศานิตย์” ถกคดีแก๊งต่างชาติปลอมพาสปอร์ต-ศพถูกหั่นแช่แข็ง สั่งเช็กเส้นทางเงิน เร่งพิสูจน์ศพ-ประสานอินเตอร์โพลช่วยตรวจสอบ

จากกรณีเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 23 กันยายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเข้าตรวจค้นอาคารพานิชย์เลขที่ 18/1 ซอยสุขุมวิท 56 แขวงบางจาก เขตพระโขนง หลังสืบทราบว่าเป็นแก๊งปลอมพาสปอร์ต เบื้องต้นพบชาวต่างชาติจำนวน 3 คน พร้อมสามีภรรยาชาวพม่าซึ่งเป็นคนรับใช้อยู่ในบ้าน อีก 2 คน แต่ขณะเข้าตรวจค้นนายปีเตอร์ วิลเลี่ยม จอห์นสัน หนึ่งในผู้ต้องหาได้ชักอาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ จ.ส.ต.กัญจนพงษ์ เชเดช ผบ.หมู่ งานสืบสวน กก.1 บก.ทท.ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบศพชายชาวต่างชาติผมสีทอง ถูกฆ่าหั่นแบ่งชิ้นส่วนซุกซ่อนไว้ในตู้แช่ชั้นล่าง

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 กันยายน ที่ สน.พระโขนง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เดินทางมาร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดีที่มีการจับกุมแก๊งต่างชาติทำพาสปอร์ตปลอม และพบศพชายชาวต่างชาติถูกหั่นแยกชิ้นส่วนเป็น 6 ชิ้น บรรจุในห่อพลาสติกสีดำ แช่เย็นอำพรางคดีไว้ในตู้เย็นขนาดใหญ่ โดยมี พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.น.5 พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบก.สส.บช.น. เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว และฝ่ายสืบสวน สน.พระโขนง เข้าร่วมประชุม ซึ่ง พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวก่อนเข้าประชุมว่า วันนี้(25 ก.ย.)มาดูรายละเอียดที่ให้การบ้านไปว่า “มันมีอะไรครบถ้วนหรือยัง” เพราะว่าตำรวจต้องต่อจิ้กซอว์ให้ครบ ถ้ายังไม่ครบถ้วนก็คงจะให้ความเห็นอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ ก่อนเข้าประชุมอย่างเคร่งเครียด โดยใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมง

ต่อมาเวลา 13.30 น. วันเดียวกัน พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ประเด็นสำคัญในวันนี้เป็นเรื่องศพที่พบในตู้เย็น ต้องคลี่คลายให้ได้ว่าศพนั้นตายเอง หรือถูกทำให้ตาย หากตายเองแล้วมีคนมีทำอะไรกับศพ เช่น เคลื่อนย้าย ทำลายศพ ก็เป็นความผิดอีกคนละมูลฐาน ไม่ใช่การฆ่าผู้อื่น แต่ถ้าผลการตรวจพิสูจน์ยืนยันว่าถูกผู้อื่นทำให้ตาย เราก็หาสาเหตุว่าถูกยิง ถูกแทง ถูกสารพิษ หรือถูกอะไร เรื่องเหล่านี้ก็จะมีการขยายผลติดตามต่อเนื่องในทุกๆเรือง เอารายละเอียดทุกอย่างมาคุยกัน ทั้งทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อมภายนอกและภายใน เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงวันหยุด ซึ่งในวันพรุ่งนี้(26 ก.ย.)เป็นต้นไป คงจะเห็นอะไรที่เราต้องการทราบมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวน ถึงเวลานี้เราต้องการทราบว่าคนตายเป็นใคร ตายที่ไหน ตายอย่างไร ส่วนผู้ตายจะเป็นเพื่อน นายปีเตอร์ วิลเลียม จอห์นสัน ผู้ต้องหาชาวอังกฤษ หรือไม่ เราต้องพิสูจน์ทราบก่อน

“เมื่อยังไม่รู้ว่าผู้ตายเป็นใคร เราจะไปรู้ว่าเป็นเพื่อนนายปีเตอร์ได้อย่างไร ส่วนความผิดของผู้ต้องหาทั้ง 3 นอกจากข้อหาปลอมพาสปอร์ตแล้วนั้น ขณะนี้ได้ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปขยายผลเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบเส้นทางการเงิน เอกสารต่าง รวมถึงภาพวงจรปิดในอาคารที่เกิดเหตุว่ามีใครเข้าออกอาคารหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นมีบุคคลอื่นที่เข้าออกอาคารลักษณะไปมาหาสู่กันคุ้นเคยรู้จักกัน” พล.ต.ท.ศานิตย์ ระบุ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้าที่ผู้ต้องหาจะมาพักที่ซอยสุขุมวิท 56 เคยพักที่ไหนมาก่อนหรือไม่ พล.ต.ท.ศานิตย์ บอกว่า ก่อนหน้านี้พักอยู่ที่ซอยปรีดีพนมยงค์ 37 อย่างไรก็ตามจากการพูดคุยกับเจ้าของอาคารที่เกิดเหตุ พบว่า สัญญาเช่าอาคารตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2558 แต่จะเข้ามาเมื่อไหร่ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า มีการจำลองเปรียบเทียบใบหน้าผู้ตายหรือไม่ พล.ต.ท.ศานิตย์ ตอบว่า ต้องเปรียบเทียบหมดเลย เอาภาพคนโน้น คนนี้มา ก็ยังไม่ตรง เราทำหมดทุกอย่าง ทั้งตรวจสอบชาวต่างชาติศูนย์หายย้อนหลัง อย่างไรก็ตามต้องรอผลการตรวจจากทางนิติวิทยาศาสตร์จะมีความชัดเจนกว่า ส่วนสภาพศพจากการสอบถามแพทย์นิติเวช ก็ยังไม่ทราบว่าเสียชีวิตนานเท่าไหร่ เนื่องจากศพถูกแช่แข็ง ทำให้การพิสูจน์ทำได้ยาก รวมถึงสัญชาติของผู้ตายก็ยังไม่รู้ว่าเป็นคนสัญชาติใด ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้(26 ก.ย.)เวลา 14.00 น. จะประชุมกับฝ่ายนิติเวชวิทยาอีกครั้ง ที่ สน.พระโขนง

ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว (ผบก.ทท.) เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ทางตำรวจได้ประชุมและแบ่งงานกันเต็มที่ เพื่อคลี่คลายคดีตลอด 24 ชั่วโมง โดยทางตำรวจท่องเที่ยว ได้ประสานกับตำรวจสากล หรือ อินเตอร์โพล และทางสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เพื่อตรวจสอบลายนิ้วมือของศพที่ถูกหั่นแยกชิ้นส่วนแช่แข็ง เพื่อให้พิสูจน์ทราบตัวบุคคลว่าเป็นใครกันแน่ แต่ต้องใช้เวลา เนื่องจากต้องรอการตรวจสอบจากต่างประเทศ เพราะประเทศไทยไม่มีฐานข้อมูลของคนต่างชาติในการตรวจสอบ หากรู้ว่าเป็นใคร ก็จะรู้ว่าคนก่อเหตุเป็นใคร รวมถึงสาเหตุสังหารด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ถือว่าคดีนี้คืบหน้าไปมากแล้ว แต่ขอเวลาให้กับตำรวจในการคลี่คลายคดี เพื่อความชัดเจน รวมถึงรอผลการตรวจสอบจากนิติเวชวิทยาและกองพิสูจน์หลักฐานด้วย