ไฟไหม้ร้านค้าขายพลุ-ประทัดในตลาดสดเชียงยืน วอด45ล.

ไฟไหม้ร้านค้าขายพลุ-ประทัดในตลาดสดเชียงยืน วอด45ล.

ไฟไหม้ร้านค้าในตลาดสดเชียงยืน จ.มหาสารคาม วอด 45 ล้าน พบร้านเพิ่งจากสั่งซื้อดอกไม้ไฟมาสต็อกไว้ขายในช่วงเทศกาลออกพรรษา

พ.ต.ท.สายัณห์ แก้วนิสัย ร้อยเวรสอบสวน สภ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ตลาดสดเทศบาลตำบลเชียงยืน อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม จากนั้นได้ประสานรถดับเพลิงเทศบาลตำบลเชียงยืน และใกล้เคียงอีกกว่า 10 คัน เข้าควบคุมเพลิง 

ที่เกิดเหตุต้นเพลิงเป็นร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ดขนาดใหญ่ ชื่อร้าน ศรีสมรซุปเปอร์สโตร์ จำนวน 11 คูหา เจ้าหน้าที่เข้าทำการดับเพลิงด้วยความยากลำบาก เนื่องจากถนนทางเข้าแคบ อีกทั้งขณะเกิดเหตุ ยังมีเสียงพลุและประทัดดังอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากทางร้านเพิ่งสั่งซื้อดอกไม้ไฟมาสต็อกไว้เพื่อที่จะนำออกขายในช่วงเทศกาลออกพรรษา โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ

จากการสอบถาม นางวลัยพร ศรีนิล เจ้าของกิจการร้านศรีสมรซุปเปอร์สโตร์ กล่าวว่า อาคารดังกล่าวเลขที่ 368 และ 667 ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นอาคารราชพัสดุ กรมธนารักษ์ ลักษณะเป็นอาคาร 2 ชั้น ต่อกัน ภายในอาคารเลขที่ 368 ซึ่งเป็นสถานที่เก็บสินค้าเบ็ดเตล็ดทั้งปลีกและส่ง ประเภทอาหารแห้ง ขนมขบเคี้ยว ถูกเพลิงไหม้เสียหาย ส่วนอาคารเลขที่ 667 มีลักษณะการต่อเติมอาคารเป็นหลังคายกสูง ภายในเก็บสินค้าประเภทน้ำดื่ม น้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และดอกไม้ไฟ ที่เตรียมไว้จำหน่ายช่วงเทศกาลออกพรรษา

ขณะเกิดเหตุ ดอกไม้ไฟไปเก็บไว้ คาดเกิดความร้อน ทำให้เกิดระเบิด ตัวอาคารพังถล่มลงมา เศษพลุ ประทัด กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ โดยอาคารดังกล่าวก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 42 คาดว่าต้นเพลิงน่าจะมาจากห้องคอมพิวเตอร์ เกิดไฟฟ้าลัดวงจร มีเสียงระเบิดดังขึ้น ก่อนที่จะเกิดประกายไฟ ไปติดกับฉนวนกันความร้อน ทำให้เกิดเปลวไฟลุกไหม้ จนไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้เพลิงเผาไหม้อาคารเสียหายทั้งหมด มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 45 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีแผงค้าในตลาดสดเทศบาลตำบลเชียงยืน ที่ได้รับความเสียหายจากไฟไหม้อีกหลายคูหา

จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังมาจากร้านค้า ก่อนที่ไฟจะลุกลาม ซึ่งเสียงระเบิดดังมากได้ยินไปไกลกว่า 10 กิโลเมตร อีกทั้งยังมีเสียงระเบิดจากดอกไม้ไฟ ดังออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านไม่กล้าที่จะเข้าไปดับไฟ ต้องรอเจ้าหน้าที่มาดับ ทำให้เพลิงลุกลามเสียงความเสียหายกับอาคารทั้งหลัง และแผงค้าของพ่อค้าแม่ค้าได้รับความเสียหาย

พ.ต.ท.สายัณห์ แก้วนิสัย ร้อยเวรฯ สภ.เชียงยืน กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปได้ว่าสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้เกิดจากสาเหตุใด ต้องรอเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน เข้ามาดูที่เกิดเหตุเสียก่อน จากนั้นจะได้สอบปากคำเจ้าของกิจการ และพยานแวดล้อมที่อยู่ในที่เกิดเหตุ จึงจะสรุปสาเหตุได้

ต่อมาในช่วงเช้าวันเดียวกัน เทศบาลตำบลเชียงยืน ได้ตั้งเต้นท์เพื่อรับเรื่องจากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ ที่บริเวณภายในตลาดสดเทศบาลตำบลเชียงยืน ซึ่งชาวบ้านที่มีทรัพย์สินเสียหายสามารถเดินทางมาลงทะเบียนแล้วประมาณ 70 ราย