ผบช.ภ.1ร่วมพิธีรำลึก7วันเรือล่ม ยันเอาผิดเจ้าของเรือ

ผบช.ภ.1ร่วมพิธีรำลึก7วันเรือล่ม ยันเอาผิดเจ้าของเรือ

ผบช.ภ.1ร่วมพิธีรำลึก7วันเรือล่ม ยันเอาผิดเจ้าของเรืออ้างไม่รู้ไม่ได้ ศูนย์กลางอิสลามมอบเงินเหยื่อ หน่วยกู้ภัยร่วมวางดอกไม้อาลัยผู้เสียชีวิต

ความคืบหน้ากรณีเรือโดยสารรับชาวไทยอิสลามที่เดินทางไปร่วมงานประเพณีวัฒนธรรมชุมชนที่ ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา และเกิดอุบัติเหตุชนกับแนวเขื่อนหน้าวัดสนามไชย ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก และเสียชีวิตจำนวน 28 ราย โดยเจ้าของเรือใด้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบข้อกล่าวหาและประกันตัวไปแล้ว ส่วนคนขับเรือศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ซึ่งเรือได้ถูกนำไปไว้ที่คานเรือศรีเจริญ ต.คลองสวนพลู เพื่อทำการซ่อมแซม ขณะที่เจ้าที่เตรียมที่จะเอาผิดกับผู้ที่ฝ่าฝืนความปลอดภัยของเรือโดยสารและท่องเที่ยวตามที่เสนอข่าวไปอย่างต่อเนื่องนั้น

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 25 ก.ย.ที่มัสยิดอาลียินนูรอยน์ ม. 7 ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุทธิ พ่วงพิกุล ผบก.ภ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางไปร่วมในพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลและขอพรพระผู้เป็นเจ้าให้กับผู้เสียชีวิต โดยมีนายสามารถ มะลุลีม ประธานมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย มาร่วมในพิธี และมีนายฤทธิ์ ลือชา นายชาดา ไทยเศรษฐ และชาวไทยอิสลามประมาณ 500 คนร่วมประกอบพิธี โดยใช้เวลาเกือบ 1 ช.ม.

นายจักรกฤษณ์ เส้นขาว อิหม่ามประจำมัสยิดกล่าวว่าพิธีดังกล่าวเป็นการสวดอุทิศส่วนกุศลให้กับพี่น้องที่เสียชีวิตและยังเป็นการสวดสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้ารวมทั้งได้ขอพรวิงวอนให้พระผู้เป็นเจ้าทรงรับเอาพี่น้องที่เสียชีวิตไปอยู่อย่างมีความสุข ซึ่งหลังพิธีสวดแล้วได้มีการจัดเลี้ยงอาหารผู้มาร่วมงาน โดยหนึ่งในขนมที่มาเลี้ยงผู้ร่วมงานนั้นคือขนมปะป่ำ ซึ่งเป้นขนมที่ทำจากแป้งคล้ายกับขนมเค๊กแต่ชิ้นเล็กกว่า ผสมด้วยกล้วย ตะไคร้และเครื่องสมุนไพรที่ทุกคนรับประทานเข้าไป มีความหมายเหมือนกับผู้เสียชีวิตรับประทานเข้าไปเพื่อซับน้ำเหลือง และซ่อมแซมร่างกายในช่วงที่ครบ 7 วันของการเสียชีวิต และจะมีการประกอบพิธีขอพรและทำบุญใหญ่อีกในวันที่ 27 ตค. ซึ่งจะเป็นการทำบุญครบการเสียชีวิต 40 วัน

จากนั้นพล.ต.ท.ชัยวัฒน์ พร้อมด้วยนายสามารถ และตัวแทนองค์กรฯได้ร่วมกันมอบเงินให้กับญาติผู้เสียชีวิตจำนวน 28 รายๆละ 2 หมื่นบาท ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของญาติที่หลายคนยังทำใจไม่ได้ และจะได้นำเงินบางส่วนไปมอบให้กับผู้บาดเจ็บที่ยังนอนพักรักษาตัวที่รพ.จำนวน 7 รายด้วย โดยก่อนการมอบ พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ ยังได้หารือกับตัวแทนอิสลาม และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในการดำเนินคดีกับเจ้าของเรือให้เด็ดขาด ซึ่งทราบว่าเจ้าของเรือประกันตัวไปแล้วด้วยหลักทรัพย์ที่ดิน 7 แสนบาท และให้การปฎิเสธและจะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ทั้งที่เรือตัวเองมีใบอนุญาตรับผู้โดยสารได้ 50 คนแต่ยังไปรับมากเป็นร้อยคน จะปัดความผิดไปที่คนขับคนเดียวไม่ได้ และทราบว่ารับมาอย่างนี้เป็นประจำ ส่วนทางคนขับศาลยังไม่อนุญาตให้ประกันตัว ขณะเดียวกันก็ได้หารือกับอิหม่ามและตัวแทนของอิสลาม ในเรื่องของการจัดกิจกรรมครั้งต่อไปก็ต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ

พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่าเรื่องการดำเนินคดีไม่มีปัญหาอะไร เนื่องจากมีกระบวนการในการรวบรวมหลักฐาน สามารถที่จะเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องและออกมารับผิดชอบได้ ด้านนายจักรกฤษณ์ เส้นขาว อิหม่ามประจำมัสยิดยังกล่าวด้วยว่า หลักเกิดเหตุทางเจ้าของเรือยังไม่เคยมาพูดคุยเรื่องค่าใช้จ่ายหรือค่าดูเสียผู้บาดเจ็บเสียชีวิต ซึ่งปัจจุบันนี้ทางมัสยิดเป็นผู้ดูแลในการประกอบพิธีอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ขณะเดียวกันหน่วยกู้ภัยสมาคมอยุธยารวมใจ ยังได้เดินทางไปร่วมวางดอกไม้เพื่อเคารพศพผู้เสียชีวิตด้วย