สลด! หนุ่มใหญ่ไม่พอใจเพื่อนเปิดเพลง ชกหน้า1ที ตายคาที่

สลด! หนุ่มใหญ่ไม่พอใจเพื่อนเปิดเพลง ชกหน้า1ที ตายคาที่

หนุ่มใหญ่หมัดหนัก ไม่พอใจเพื่อนเปิดเพลง “เจ้าพ่อเซียงไฮ้” ต่อยเข้าใบหน้า1ที ตายคาที่ พบเป็นผู้ป่วยอาการทางจิต ตร.รอผลผ่าพิสูจน์ก่อนแจ้งข้อหา

พ.ต.ท. จิระเดช จิตรโสภา สว.(สอบสวน)สน.ธรรมศาลารับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 13/203 หมู่บบ้าน บ้านสวนเทพมณฑล ซอยศาลาธรรมสพน์5 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาให้ทราบก่อนรุดไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว สูง 2ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด รอบตัวบ้านมีหญ้าขึ้นรกร้าง จากการตรวจสอบภายใน บ้านบริเวณประตูบ้าน พบศพ นายพีระพงษ์ สุกาญจนะ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/46 ม.5 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. สภาพศพสวมเสื้อเชิ้ตลายตารางหมากรุกสีน้ำตาล เปลือยท่อนล่าง มีเลือดเปรอะ ตามใบหน้า และตามพื้นบ้านตรวจสอบตามตัว พบบาดแผลช้ำที่ไหปลาร้าซ้าย เบ้าตาด้านซ้ายเขียวซ้ำ มีแผลแตกที่คิ้วขวา ล้มขวางประตูบ้านอยู่

จากการสอบสวน นายเชาวิทย์ อายุ46ปี ให้การ ตนรู้จักกับผู้ตายได้ประมาณ 5-6ปี และเป็นเพื่อนที่สนิทสนมกันมาตลอดเป็นเพื่อนรักกัน จึงให้มาอาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังนี้ แต่ตนกับผู้ตายนั้นติดสุราอย่างหนัก ก่อนเกิดเหตุในช่วงเช้าได้นั่งดื่มสุราขาวกับผู้ตายไปประมาณ 2 ขวดเล็ก จนมามีเรื่องปัญหาขัดใจกับผู้ตายคือเรื่อง ที่ผู้ตายนำสมาร์ทโฟนของตนไปเปิดเพลง “เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้” ที่ชื่นชอบวนไปวนมาแต่ตนอยากฟังเพลงของศิลปินวง “เอ็กซ์วายแซด” จึงบอกกับผู้ตายให้เปลี่ยนแต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากผู้ตาย ตนจึงเดินเข้าไปจะคว้า สมาร์ทโฟน เพื่อเปลี่ยนเพลง แต่ผู้ตายกลับปัดสมาร์ทโฟนทิ้ง ด้วยความเมาและโมโหจึงต่อยเข้าไปที่หน้า 1 ที หลังจากนั้นก็เดินออกจากบ้านไปร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อของมากินกับผู้ตาย ตนเองก็ซื้อขนมปังมาฝากผู้ตาย และผู้ตายก็นั่งกินตามปกติ เพียงแต่ยังโกรธตนที่ต่อยและไม่คุยด้วย หลังกินเสร็จก็บอกว่าให้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและจะออกไปข้างนอก กระทั่งผู้ตายเงียบหายไป เมื่อไปตามก็พบนอนอยู่ในสภาพแบบนี้ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น ตนจึงออกไปเรียกคนอื่นให้มาช่วย

อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนพบว่า นายเชาวิทย์ เป็นอดีตนักเรียกนอก ศึกษาด้านอัญมณี ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากทางบ้านประกอบธุรกิจเกี่ยวกับจิวเวลรี่ ย่านเพลินจิตแต่ไม่จบ กระทั่งไปเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและรู้จักกับผู้ตาย นอกจากนี้นาย เชาวิทย์ ยังเป็นผู้ป่วยอาการทางจิตรักษาที่รพ.สมเด็จเจ้าพระยามานานกว่า 20 ปี ภายหลังเดินทางกลับมาจากเมืองนอก

ด้านพ.ต.ท.จิระเดช เผยว่า เบื้องต้นยังไม่ได้แจ้งข้อหากับนาย เชาวิทย์ เนื่องจากยังไม่สามารถระบุได้เกิดจากอาการป่วยส่วนตัวกำเริบของผู้ตายหรืออุบัติเหตุหรือจากการกระทำของเพื่อนอย่างไรก็ตามคงต้องรอผลการผ่าพิสูจน์จากนิติเวชรพ.ศิริราชเพื่อหาสา เหตุการณ์เสียชีวิต ร่วมทั้งสอบปากคำนาย เชาวิทย์ อย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ก่อนสรุปคดีต่อไป