'จตุพร'จวกปปช. ตั้งข้อหาน้ำท่วม54 เล่นงาน 'ยิ่งลักษณ์'

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งข้อหาการบริหารจัดการน้ำท่วมเมื่อปี 2554 มาตรวจสอบเพื่อจัดการ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แสดงถึงการมุ่งกล่าวหาเพื่อเล่นงาน ซ้ำเติม ทำลายล้างกันการเมืองอย่างชัดเจน เมื่อ ป.ป.ช. ตั้ง น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่กรณีกล่าวหาการบริหารจัดการน้ำท่วมในปี 2554 อีกทั้งในบางคดี น.ส.สุภา ยังตั้งนายวิชา มหาคุณ อดีต ป.ป.ช. มาเป็นอนุกรรมการด้วย จึงอธิบายถึงการตรวจสอบที่มีเป้าหมายเล่นงานไม่แตกต่างจากถูกดำเนินคดีโครงการรับจำนำข้าว

ทั้งนี้ในข้อหาที่ ป.ป.ช. กล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถึง 15 กรณี และมี น.ส.สุภา เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวนถึง 6 คดี โดยทีมทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ยื่นคัดค้านการตั้ง น.ส.สุภา เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน เนื่องจากเป็นบุคคลมีส่วนได้เสีย เกรงจะตรวจสอบไม่เป็นธรรม การนำปัญหาน้ำท่วมมาเล่นงาน ต้องการอะไรอยากให้หนี หรือกดดันให้สู้ สิ่งที่สำคัญ ป.ป.ช. ตั้ง น.ส..สุภา เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน และมีนายวิชา ร่วมเป็นกรรมการด้วย จึงแสดงถึงเป้าหมายมุ่งเล่นงานอีกฝ่ายหนึ่ง

ส่วนเรื่องของบางฝ่ายที่กำลังเป็นคดีในปัจจุบันกรณีทุจริตต่อหน้าที่นั้น หายไปไหน ไม่สนใจบ้างหรือไม่ แต่การตั้งเป้ารังแกกันโดยไร้ความอยุติธรรมนั้น คนไทยที่รักความยุติธรรมคงรับไม่ได้ และเล่นงานน้ำท่วมคนไทยก็รับไม่ได้ การกล่าวหากรณีน้ำท่วมในปี 2554 เกิดขึ้นก่อนรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเข้ามาบริหารประเทศ ถ้า ป.ป.ช.ต้องเล่นงานแล้ว ต้องจัดการรัฐบาลก่อนหน้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วย เพราะกรมชลประทานช่วงนั้นได้เก็บกักน้ำจนล้น แล้วระบายออกมาจนเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ และในช่วงนั้นมีพรรคการเมืองบางพรรคเสนอให้ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อทหารจะเข้ามาจัดการ แต่รัฐบาลไม่ทำตาม กลับใช้กฎหมายป้องกันบรรเทาสาธารณะภัยมาจัดการปัญหาแทน

นายจตุพร กล่าวต่อว่า น้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อปี 2554 เชื่อว่า ไม่ได้เป็นภัยธรรมชาติ แต่เป็นภัยจากมนุษย์ที่ต้องการจัดการรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อ ป.ป.ช. ยกมาตรวจสอบแล้ว ควรไปพิสูจน์การเก็บกักน้ำเกินปริมาณของรัฐบาลก่อนหน้านั้นเก็บไว้ทำไม แต่ผ่านมา 5 ปี กลับนำมาเล่นงาน หากจะมีคนรับผิดชอบแล้ว คนเก็บกักน้ำเกินปริมาณควรถูกเล่นงาน แต่ ป.ป.ช. กลับปล่อยปละละเลย การทำหน้าที่เช่นนี้ เหมือนกับเล่นงานโครงการจำนำข้าว แต่ไม่กล่าวหาดำเนินคดีกับโครงการประกันราคาข้าวของรัฐบาลบางพรรค

ทั้งนี้ตนเห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกเล่นงานการเมืองมาหลากหลายเรื่องราว ตั้งแต่ย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี จากเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นตำแหน่งเทียบเท่ากับรัฐบาลก่อนเคยย้ายอดีตเลขา สมช. บางคนเช่นกัน กลับไม่เป็นปัญหา แต่กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นทั้งรัฐบาล และหากเปรียบกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แล้ว กรณีโยกย้ายข้าราชการ คงทำให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปแล้วเป็นร้อยครั้ง

นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังเจอข้อหาเยียวยาผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และถูกคุมขัง ในภายหลังจากศาลชี้เป็นผู้บริสุทธิ์ โดยให้กับทุกฝ่ายในเหตุการณ์ต่างๆตั้งแต่ปี 2548 - 2553 รวมทั้งเหตุการณ์ไม่สงบในชายแดนภาคใต้ด้วย แต่ ป.ป.ช. ตั้งข้อหา ตรวจสอบดำเนินคดี ขณะเดียวกัน ไม่ติดใจตรวจสอบการใช้งบประมาณกว่า 6,000 ล้านบาท ในการปราบปรามประชาชนในเหตุการณ์ชุมนุมเมื่อปี 2553 มีผู้เสียชีวิต 100 ศพ เฉลี่ยศพละ 60 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามน.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังถูกดำเนินคดีในโครงการรับจำนำข้าว แล้วมีการใช้คำสั่งตาม ม. 44 และเซ็นคำสั่งทางปกครองกรณีละเมิดเพื่อยึดทรัพย์ โดยไม่รอการพิจารณาคดีทางอาญาก่อน แล้วมาตั้งข้อหาน้ำท่วมอีก จึงไม่รู้ว่า ป.ป.ช.ใช้อะไรคิด เพียงหยิบยกเรื่องน้ำท่วมขึ้นมาเพื่อให้เข้าบรรยากาศวันฝนตกหรือ การตั้งข้อหาบริหารจัดการน้ำท่วม โดยละเลยรัฐบาลในอดีตที่เก็บกักน้ำแล้ว แสดงถึงมาตรฐานทำหน้าที่ไม่แตกต่างจาก ป.ป.ช. บางคนเปิดเผยถึงการขนเงินเกี่ยวกับรับจำนำข้าว 7 แสนล้านบาท ออกนอกประเทศ แต่ไม่ชี้แจงว่าใครเป็นคนขนไปประเทศใด เมื่อถูกถามกลับเงียบเฉย อีกทั้งกรณีตรวจสอบการซื้อเรือเหาะดูเสมือนเป็นการช่วยกัน และคงไม่แตกต่างกับกรณีจีที 200 เช่นกัน

“ป.ป.ช.ประเทศไทยทำงานกันแบบนี้หรือ ถ้า ป.ป.ช.เล่นการเมืองมากกว่าดำเนินการตามข้อเท็จจริงแล้ว หน่วยงานที่จะพังทางความเชื่อถือก่อนคือ ป.ป.ช. และต้องถูกประณาม ระวังการกดดันให้หนี จะทำให้ต้องสู้ ควรระวังความรู้สึกกันบ้าง” นายจตุพร กล่าว