'สมคิด' สั่งเดินหน้าสร้างบ้าน 'คนจน-ผู้สูงวัย'

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ไปตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้คณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูงของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) วานนี้ (22 ก.ย.) โดยกำชับให้ ธอส.ต้องปรับบทบาทจากการให้สินเชื่อบ้านเพียงอย่างเดียว เป็นส่งเสริมให้คนไทยในทุกระดับมีบ้านและอยู่อาศัยเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย และผู้ด้อยโอกาส ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ต้องการให้คนไทยทุกคนมีบ้าน

นายสมคิดกล่าวว่า ได้มอบหมายให้ ธอส.เป็นผู้นำทางแนวคิดสร้างบ้านและสังคมสำหรับผู้สูงอายุ โดยร่วมมือกับกรมธนารักษ์ การเคหะแห่งชาติ และหน่วยงานราชการอื่นๆ ให้กรมธนารักษ์หาพื้นที่ที่เหมาะสมมาให้เพื่อใช้ก่อสร้าง หรืออาจจะเปิดให้เอกชนมาร่วมด้วย แต่ ธอส.จะต้องเป็นผู้กำหนดแนวทาง เพื่อควบคุมให้ต้นทุนไม่สูง และคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้คนจนมีโอกาสเข้ามาอยู่อาศัย

ทั้งนี้ อาจจะมีทั้งการเช่า หรือซื้อ รวมถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ แบบรีเวอร์สมอร์ทเกจ (Reverse Mortgage:RM) ซึ่งหลักเกณฑ์เบื้องต้นคงออกมาในรูปแบบที่คล้ายกับสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั่วไป แต่จะต้องมีเรื่องการปิดความเสี่ยง

นอกจากนี้ ยังต้องสร้างบ้านสำหรับผู้มีรายได้น้อย และผู้ด้อยโอกาส เช่นการใช้ที่ดินริมทางรถไฟสร้างที่อยู่อาศัยให้ชุมชนริมทางรถไฟ เพื่อให้กลุ่มคนเหล่านี้ใช้รถไฟเดินทางไปทำงานได้ตามปกติ

ขณะเดียวกันยังฝากให้ ธอส.ให้สิทธิพิเศษแก่ผู้ที่เลี้ยงดู หรือนำบุพการีมาอยู่อาศัยด้วย ทั้งการให้สิทธิจองโครงการต่างๆ ก่อนคนอื่น รวมถึงการให้ดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อจูงใจให้ลูกหลานดูแลพ่อแม่ของตัวเอง

“จากนี้กระบวนการทำงานของ ธอส.ต้องปรับเปลี่ยน ไม่ใช่วิเคราะห์ให้สินเชื่อเพื่อให้มีกำไรสูงๆ แต่ต้องสนับสนุนให้คนมีบ้านมากขึ้น โดยที่ธนาคารอยู่ได้ และไม่เป็นหนี้เสีย และการทำโครงการต่างๆเหล่านี้จะต้องทำเลยพร้อมกันทั่วประเทศ ไม่ใช่ทำแค่โครงการนำร่อง” นายสมคิด กล่าว

ทั้งนี้นโยบายของรัฐ คือทำอย่างไรให้คนไทยมีบ้าน โดยโครงการที่อยากเร่ง คือผลักดันนโยบายสูงวัยเพราะไม่ต้องการให้คนแก่มาขอสินเชื่อแล้วมีบ้านอย่างเดียว แต่ต้องการทำบ้านสังคมผู้สูงอายุ มีคุณภาพชีวิตที่ดีตามแนวทางประชารัฐ โดยจะให้ร่วมกับเอกชน ธนารักษ์ การเคหะแห่งชาติ และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมาร่วมดำเนินการ

ธนารักษ์รับนโยบายสั่งทุกจังหวัดเข้าร่วม

นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า ธนารักษ์ จะเร่งให้เจ้าหน้าที่ในทุกจังหวัดสำรวจพื้นที่สำหรับการสร้างบ้านเพื่อผู้สูงอายุ โดยแต่ละจังหวัดจะต้องมี 1 พื้นที่ให้สำหรับโครงการนี้ ซึ่งจะร่วมมือกับ ธอส.และกรมพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ส่วนการสร้างบ้านสำหรับข้าราชการทหารและตำรวจ จะต้องหารือกับหน่วยงานนั้นๆ ว่ามีพื้นที่หรือไม่

ธอส.พร้อมดัน 4 โครงการสนองรัฐ

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า ว่า ธอส.พร้อมเร่งดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว ซึ่งมี 4 โครงการสำคัญ ประกอบด้วย 1. การสร้างสังคมคุณภาพให้ผู้สูงวัย โดยร่วมมือกับกรมธนารักษ์ และการเคหะแห่งชาติ โดยใช้ที่ดินของกรมธนารักษ์ ขณะที่ ธอส.จะเป็นผู้คิดคอนเซปต์ และให้สินเชื่อทั้งสินเชื่อการก่อสร้างและสินเชื่อสำหรับการซื้อที่อยู่อาศัย

2. การดูแลกลุ่มผู้ด้อยโอกาส ด้วยการสร้างที่อยู่อาศัยในชุมชนคลองต่างๆ และชุมชนริมทางรถไฟ ซึ่งธอส.จะเร่งหารือกับทางรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อให้ชุมชนดังกล่าวมีที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น

3. การส่งเสริมให้คนไทยมีบ้านหลังแรก โดยจะออกแบบสินเชื่อเพื่อส่งเสริมให้คนที่เรียนจบใหม่ หรือผู้ที่ต้องการมีบ้านเข้าถึงสินเชื่อได้ ในต้นทุนที่ต่ำลง ซึ่งจะทำพร้อมกันทั่วประเทศ และ 4. การทำสินเชื่อโดยให้สิทธิพิเศษแก่ผู้ที่เลี้ยงดูพ่อแม่ โดยศึกษารูปแบบจากประเทศสิงคโปร์ที่ทำอยู่ ซึ่งนอกจากจะได้ดอกเบี้ยต่ำแล้ว ยังอาจจะตัดเงินต้นให้เมื่อผ่อนครบ 3 ปีแรก เช่นลดเงินต้นให้ 1-2 หมื่นบาท ต่อวงเงินกู้ทุก 1 ล้านบาท เป็นต้น

เตรียม 6 หมื่นล้านปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ

“คาดว่าภายใน 2 เดือนนี้จะชัดเจน และบางโครงการจะเริ่มดำเนินการได้ เช่นสินเชื่อบ้านกตัญญู โดยทั้ง 4 โครงการนี้ ธอส.ได้เตรียมวงเงินไว้ประมาณ 5-6 หมื่นล้านบาท โดยทุกโครงการจะกำหนดดอกเบี้ยให้ในระดับที่ต่ำสุดของธนาคาร หรือเฉลี่ยประมาณ 3.2%”นายฉัตรชัยกล่าว