ตร.เร่งไล่ล่าคนร้ายยิงโชว์เฟอร์แท็กซี่

ตร.เร่งไล่ล่าคนร้ายยิงโชว์เฟอร์แท็กซี่

ตำรวจเร่งไล่ล่าคนร้ายยิงโชว์เฟอร์แท็กซี่ หลังพบจยย.ที่ขี่หลบหนีไปจอดทิ้งไว้ปากซอยมังกร คาดมีการวางแผนไว้อย่างดี

จากกรณีคนร่ายใช้อาวุธปืนยิงนายอาคม บุบผาลา อายุ 39 ปี คนขับรถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า สีชมพู ทะเบียน ทส 8947 กทม.จนเสียชีวิต ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะประสงค์ต่อทรัพย์ ก่อนรถจะพุ่งลงไปในบ่อเลี้ยงปลาของชาวบ้านภายในซอยที่ดินไทย หลังโรงพยาบาลบางนา 5 หมู่ 23 ตำบลบางพลี อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ และหลังจากนั้นคนร้ายยังใช้อาวุธปืนจี้ชิ่งรถจักรยานยนต์ของหนุ่มชาวอินเดียที่ขี่ตระเวนขายไอศครีม ขี่หลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายชิงเอาไปจอดทิ้งไว้ที่บริเวณปากซอยมังกร ถนนเทพารักษ์ ห่างจากจุดที่เกิดเหตุไปประมาณ 5 กิโลเมตร ก่อนที่คนร้ายจะขี่รถจักรยานยนต์ของตนเองที่มาจอดเตรียมเอาไว้หลบหนีไป

ความคืบหน้าวันที่ 21 กันยายน นางธนพร บุบผาลา อายุ 34 ปี ภรรยาของผู้ตาย และญาติได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม และติดต่อขอรับศพสามีกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด โดยนางธนพร กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนยังทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ ตอนเกิดเรื่องตนได้รับโทรศัพท์จากทางญาติว่า สามีประสบอุบัติเหตุ แต่ไม่ได้บอกว่าเสียชีวิต ตนจึงรีบเดินทางมาโรงพยาบาล แต่เมื่อมาถึงกับเข่าอ่อน ไม่คาดคิดว่าสามีซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัวจะมาเสียชีวิต ซึ่งปกติสามีเป็นคนดี รักครอบครัวมาก ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลากว่า 6 ปีที่ผู้ตายยึดอาชีพขับรถแท็กซี่นั้น เพื่อต้องการเก็บเงินเอาไว้เลี้ยงดูครอบครัว และทำตามความฝันให้ลูก คือการส่งลูกชายวัย 8 ปีให้เรียนจบสูงสุดในอนาคต โดยส่วนตัวคิดว่าจะหาสามีดีแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว

“อยากฝากไปยังตำรวจให้เร่งติดตามจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด ส่วนสาเหตุเชื่อว่าคนร้ายหวังจะชิงทรัพย์แน่นอน เนื่องจากในกระเป๋าสะพายของสามีจะมีทั้งเงินสด และสร้อยทอง แต่ด้วยความที่สามีเป็นคนห่วงในเรื่องทรัพย์สินที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรง จึงอาจทำให้สามีไม่ยอมจนเกิดการต่อสู่กันขึ้น คนร้ายจึงยิงใส่” นางธนพร กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางพลี กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ทีมพนักงานสอบสวนเร่งสอบสวนพยาน และบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยจัดตั้งเป็นทีมสอบสวนเฉพาะกิจขึ้นมา และคาดว่าในช่วงเย็นของวันนี้จะสามารถสเก็ตซ์ภาพใบหน้าของคนร้าย เพื่อออกหมายจับได้ ส่วนแนวทางการสืบสวนและติดตามคนร้ายนั้น หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ชุดสืบสวนร่วมกับชุดสืบสวนของตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ และตำรวจภูธรภาค 1 กระจายกำลังลงพื้นที่หาเบาะแสของคนร้าย โดยแกะรอยจากภาพวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ และแกะรอยคนร้ายจากสัญญาณจีพีอาร์เอสของรถแท็กซี่คันนี้ ก็พบว่าคนร้ายได้เรียกรถมาจากสามแยกการไฟฟ้า ใช้ถนนศรีนครินทร์ เลี้ยวขวาเข้าถนนเทพารักษ์ มุ่งหน้าเข้าจุดเกิดเหตุ หลังจากลงมือก่อนเหตุพบว่าคนร้ายได้ใช้รถจักรยานยนต์ที่ใช้ปืนจี้ชิงเอารถมาจากคนขายไอศครีม ขี่หลบหนี ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถติดตามจับกุมตัวได้ในเร็วๆนี้ ทั้งนี้ ได้สั่งการและเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกนายให้เพิ่มความระมัดระวังตัวมากกว่าเดิม เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืนติดตัวไปด้วย หากจำเป็นต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด ก็ให้ดำเนินการได้ทันที ส่วนคนร้ายหากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ขอให้รีบติดต่อเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ โดยที่ยินดีจะให้ความเป็นธรรม

ล่าสุดเมื่อช่วงสายของวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี ได้พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 100 สีดำ-แดง ทะเบียน กธม 247 กทม. จอดทิ้งไว้ที่บริเวณปากซอยมังกร ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร โดยพบเพียงแต่รถจักรยานยนต์ ส่วนถังใส่ไอศรีมได้หายไป คาดว่าคนร้ายน่าจะถอดทิ้งข้างทางในระหว่างที่หลบหนี ก่อนขี่รถจักรยานยนต์อีกคันหนึ่งที่มาจอดทิ้งไว้หลบหนีไป และเชื่อว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าว น่าจะเป็นของคนร้ายที่นำมาจอดไว้ เพื่อเตรียมการหลบหนี โดยมีชาวบ้านจำเลขทะเบียนได้ แต่ยังไม่เป็นที่เปิดเผย เกรงว่าคนร้ายจะไหวตัวทัน

ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.รักศักดิ์ เมฆจินดา รอง ผกก.สส.สภ.บางพลี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และนักประดาน้ำของมูลนิธิปอเต๊กตึ๊ง เดินทางลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในจุดที่เกิดเหตุอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าน่าจะมีพยานหลักฐานของคนร้ายตกอยู่ในที่เกิดเหตุ และงมหาโทรศัพท์ของผู้ตาย รวมถึงพยานหลักฐานอื่นๆ ที่จะเชื่อมโยงของการก่อเหตุ 

ขณะที่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้เดินทางมาเก็บลายนิ้วมือแฝง ทั้งจากรถจักรยานยนต์ และภายในรถแท็กซี่ มาเปรียบเทียบกัน และจากการการตรวจสอบในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ที่พักเท้าใต้เบาะนั่งด้านหลังของเบาะคนขับ 1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเชื่อว่าคนร้ายน่าจะพยายามมจะชิงทรัพย์ แต่ผู้ตายพยายามหนีจึงถูกคนร้ายยิงจนเสียชีวิต และรถได้เสียหลักพุ่งลงข้างทาง ก่อนจะตกลงไปในบ่อเลี้ยงปลาดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่พอจะมีเบาะแสของคนร้ายบ้างแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เกรงว่าจะเสียรูปคดี ซึ่งได้ส่งกำลังไล่ล่าคนร้ายไปอย่างกระชั้นชิด น่าจะได้ตัวในเร็ววันนี้