เอชพีแตกซับแบรนด์'โอเมน'ลุยพีซีเกม

เอชพีแตกซับแบรนด์'โอเมน'ลุยพีซีเกม

เอชพี อิงค์ สบช่องตลาดพีซีสำหรับนักเล่นเกมโตไม่หยุด เปิดตัวซับแบรนด์ “โอเมน” ลุยหนักไทย

นายปวิณ วรพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอชพี อิงค์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แตกซับแบรนด์ใหม่ “โอเมน(OMEN)” เพื่อบุกหนักตลาดพีซีสำหรับเกมเมอร์ในประเทศไทย จากนี้ผลิตภัณฑ์กลุ่มที่เกี่ยวกับเกมทั้งหมดจะอยู่ภายใต้ซับแบรนด์ดังกล่าว

ทั้งนี้ รับการเปลี่ยนแปลงของตลาด พฤติกรรมผู้บริโภค รวมถึงความต้องการใหม่ๆ โดยเฉพาะเกมซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มดี เติบโตต่อเนื่องในอนาคต โดยนักเล่นเกมใช้จ่ายกับฮาร์ดแวร์เฉลี่ย 3 หมื่นบาท ซอฟต์แวร์อื่นๆ กว่า 1 หมื่นบาท

กลยุทธ์บริษัทเน้นนำเสนอนวัตกรรมทั้งเชิงผลิตภัณฑ์ การตลาด และการบริการ ด้วยทุกวันนี้ลูกค้าไม่มองเพียงฮาร์ดแวร์ ทว่าต้องมีโซลูชั่นครบ พร้อมรองรับการมาของเทคโนโลยีใหม่ๆ

ล่าสุด เปิดตัวสินค้าใหม่ 2 รุ่นประกอบด้วย เดสก์ท็อป “โอเมน เอ็กซ์” ราคาเริ่มต้น 104,990 บาท และ โน้ตบุ๊ค “โอเมน 17” ราคาเริ่มต้น 69,990 บาท พร้อมด้วยจอแสดงผล โอเมน 32 เริ่มต้น 16,980 บาท และอุปกรณ์เสริมหูฟัง แป้นพิมพ์ เมาส์ เมาส์แพด

ภายในปีนี้บริษัทจะวางตลาดสินค้าทั้งหมดไม่น้อยกว่า 10 โมเดล แบ่งเป็นโน้ตบุ๊ค 4 รุ่น ราคาเริ่มต้น 33,990 บาท เดสก์ท็อป 5-6 รุ่น ราคาเริ่มต้น 45,900 บาท การทำราคาเน้นคุณภาพเหมาะสมกับราคา

อย่างไรก็ตาม หลังแตกธุรกิจเป็น เอชพี อิงค์ ผลประกอบการบริษัทเติบโตได้ทุกไตรมาส โดยเฉพาะกลุ่มคอนซูเมอร์พีซี และคอนซูเมอร์โน้ตบุ๊ค เทียบกับปีที่ผ่านมาโตระดับ 8% ภูมิภาคที่เติบโตสูงสุด คือ เอเชียแปซิฟิก โดยบริษัทสามารถไม่ติดลบ ท่ามกลางตลาดรวมที่ตกลง

ทั้งนี้ เอชพี เริ่มหันโฟกัสกลุ่มผลิตภัณฑ์พีซีสำหรับเกมเมอร์ในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรมเมื่อปลายปี 2558 การแตกซับแบรนด์ครั้งนี้ จะยิ่งชัดเจน สอดคล้องกับแนวทางการทำตลาดระดับโลกของบริษัทที่หันมาให้ความสำคัญตลาดนี้มากขึ้น

กลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวถูกออกแบบมา เพื่อประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุด ตัวฮาร์ดแวร์ได้รับมาตรฐาน สามารถระบายความร้อนได้ดี ปรับแต่งหรืออัพเกรดได้ทุกรายละเอียด แนวทางเอชพีเน้นคุณภาพสินค้า และการออกแบบควบคู่กัน

ข้อมูลระบุด้วยว่า ระดับโลกมีกลุ่มนักเล่นเกมมืออาชีพประมาณ 5% มือสมัครเล่น 33% ผู้ใช้งานทั่วไป 62%

หลังจากนี้ อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะผลักดันให้เกิดการเติบโตจะทำงานร่วมพันธมิตรที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมมากขึ้น เช่น ล่าสุดร่วมมือ บมจ.เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น สนับสนุนการแข่งขันอีสปอร์ตเกม “Heroes of the Storm” รอบชิงชนะเลิศค้นหาตัวแทนประเทศไทย และชิงชนะเลิศค้นหาตัวแทนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ข้อมูลไอดีซี ประเทศไทย ระบุว่า ปี 2559 ยอดขายพีซีจะอยู่ที่ราว 2.4 ล้านเครื่อง ลดลงจากปีก่อนหน้าที่มี 2.5 ล้านเครื่อง ทว่าเชิงมูลค่าเพิ่มขึ้นจาก 49,000 ล้านบาท เป็น 52,000 ล้านบาท อีกทางหนึ่งราคาเครื่องเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 19,000 บาท เมื่อปีที่ผ่านมาเป็น 22,000 บาท

นายกิตติพงศ์ พฤกษอรุณ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวเสริมว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมเกมไทยยังเติบโตต่อเนื่อง ข้อมูลจากบริษัทวิจัยนิวซูคาดการณ์ไว้ว่า ปีนี้มูลค่ารวมทุกกลุ่มทั้งออนไลน์ โมบาย และคอนโซลจะสูงถึง 18,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า ที่มีมูลค่า 11,700 ล้านบาท ส่วนปีหน้าคาดว่า จะเพิ่มขึ้นถึง 24,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนจากเล่นเพื่อความสนุก ไปเป็นแข่งขันและอาชีพมากขึ้น ภาพรวมแข่งขันอีสปอร์ตเติบโตทั้งในระดับโลก และไทย ดังนั้นเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยบวกช่วยให้ตลาดฮาร์ดแวร์และที่เกี่ยวข้องเติบโตตาม

พร้อมประเมินว่า อีกไม่เกิน 5 ปี ความละเอียดระดับ 4เค จะกลายเป็นความละเอียดพื้นฐานของกราฟฟิกเกม