อุตฯก่อสร้างรัฐ-เอกชนปีหน้าโตสูง

อุตฯก่อสร้างรัฐ-เอกชนปีหน้าโตสูง

“โปรเจค แพลนนิ่ง” ประเมินอุตฯก่อสร้างภาครัฐ-เอกชนปี60 ดีขึ้น อานิสงส์รัฐเร่งลงทุนโครงการเมกะโปรเจค-รถไฟฟ้า ดึงความมั่นใจเอกชนขยายลงทุนตาม

นายธัช ธงภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทโปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) บริษัทวิศวกรที่ปรึกษาให้บริการทางด้านบริหารและควบคุมการก่อสร้าง เปิดเผยว่าแนวโน้มภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างปี 2560 จะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากครึ่งปีหลัง2559 โดยเป็นผลจากการที่ภาครัฐเร่งดำเนินนโยบายลงทุนโครงสร้างด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม, สายสีชมพู และสายสีเหลือง มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท คาดว่าช่วงต่อจากนี้โครงการอื่นๆ เตรียมทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง 

ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจในประเทศมีสัญญาณการฟื้นตัว ส่งผลให้ธุรกิจภาคเอกชนเริ่มมีความมั่นใจในการลงทุนโครงการใหม่หลายภาคธุรกิจ ตามทิศทางการลงทุนพัฒนาประเทศของภาครัฐ

ดังนั้นปีหน้าบริษัทมีแผนจะเข้าประมูลงานบริหารและควบคุมงานก่อสร้างรถไฟฟ้าทุกสายของภาครัฐที่จะประกาศออกมา ทั้งสายสีส้ม ชมพูและเหลือง โดยคาดหวังจะได้รับงานประมาณ 500 ล้านบาทต่อสาย 

นอกจากนี้จะขยายการเสนองานภาคเอกชนกลุุ่มธุรกิจหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะโรงแรมที่มีการลงทุนเพิ่มขึ้น ตามหัวเมืองสำคัญ อย่าง ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่และกรุงเทพฯ ตามการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย รวมถึงการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนทำให้ธุรกิจโรงแรมขยายตัวต่อเนื่อง รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมในกลุ่มอุตสาหกรรมไอที โดยเฉพาะงาน“ดาต้า เซ็นเตอร์” ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน จากนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0

“ไตรมาส 4 เตรียมยื่นข้อเสนองานเมกะโปรเจคภาครัฐ 1 โครงการ  คาดรู้ผลช่วงปลายปีนี้ รวมทั้งเดินหน้าเสนองานอีกหลายโครงการ รวมทั้งกลุ่มโรงแรมที่ติดต่อให้บริษัทเข้าไปเสนองานแล้วกว่า 5-6 โครงการ”

ส่วนงานบริการออกแบบและให้คำปรึกษาสำหรับโครงการทุกประเภทและทุกขนาด ภายใต้บริษัทย่อย พีพีเอส ดีไซน์ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้าจากประเทศจีน ซึ่งเป็นงานออกแบบที่มีมูลค่าสูง เมื่อเทียบกับมูลค่าการรับงานออกแบบของบริษัทต่อปีอยู่เพียง 10 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1 เดือนนี้ 

นอกจากนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อกิจการบริษัทวิจัยและออกแบบด้านเทคโนโลยี ในสิงคโปร์ ส่วนใหญ่ได้รับงานโครงการน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ เข้ามาช่วยผลักดันรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่บริษัทรับงานจากกัมพูชาเท่านั้น

สำหรับรายได้รวมปีนี้ยังคงเป้าหมาย 300 ล้านบาท โดยรายได้รวมเติบโตเพิ่มขึ้นจากงานบริหารเเละควบคุมงานก่อสร้าง ขณะที่มูลค่างานในมือของบริษัท ปัจจุบันอยู่ที่ 660 ล้านบาท เติบโตขึ้น 100% จากการเข้ารับงาน โครงการการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 โดยเป็นการทำงานที่ร่วมมือระหว่าง 6 บริษัทวิศวกรที่ปรึกษา มูลค่างานบริหารโครงการรวม 879 ล้านบาท บริษัทรับรู้รายได้ในสัดส่วน 40% จากมูลค่ารวมคิดเป็นมูลค่า 352 ล้านบาท คาดปีนี้จะรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวประมาณ 20 ล้านบาท