คนไทยป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเพิ่มขึ้น3-4%ต่อปี

คนไทยป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเพิ่มขึ้น3-4%ต่อปี

แพทย์เผยคนไทยป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเพิ่ม ขึ้น3-4 %ต่อปี ป่วยใหม่ปีละ 3,000 ราย ชี้เหตุอาจเพราะมลภาวะ-สัมผัสสารเคมี

ศ.นพ.ธานินทร์ อินทรกำธรชัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหิตวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะประธานชมรมโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองแห่งประเทศไทยกล่าวในงานปาฏิหาริย์ เปลี่ยนมะเร็ง ให้เป็นสุข ครั้งที่ 3 ว่า อุบัติการณ์ผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในประเทศไทยอยู่ที่ 10 คนต่อแสนประชากรต่อปี โดยมีผู้ป่วยรายใหม่ปีละราว 3,000 ราย หรือ เทียบเท่า 8 รายต่อวัน โดยเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย อาทิ สารเคมีที่ปะปนอยู่ในอาหาร มลภาวะต่างๆ รวมถึง การสัมผัสสารเคมี อย่างยาฆ่าแมลง เป็นต้น ซึ่งมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็นมะเร็งทางโลหิตวิทยาอที่พบบ่อยในประเทศไทยและต่างประเทศ และติดอันดับ 1 ใน 5ของมะเร็งที่พบบ่อยแในคนไทย

ศ.นพ.ธานินทร์ กล่าวอีกว่า มะเร็งต่อมนำ้เหลืองมีโอกาสหายขาดสูง หากประชาชนตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองให้รีบเข้ารับการรักษาที่ถูกต้องอย่าเสียโอกาสในการรักษา ทั้งนี้ในภาพรวมของโรคสามารถรักษาให้หายขาดได้ร้อยละ 60 แต่หากแยกออกเป็นระยะ คือเข้ามารับการรักษาตั้งแต่ระยะที่ 1 จะสามารถรักษาหายได้ร้อยละ 80 แต่หากเข้ามาในระยะ 4 ก็จะมีโอกาสหายขาดได้ร้อยละ 30-40 ซึ่งทุกระยะที่เป็นมีความหวังที่จะรักษาให้หายขาดได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่หายขาดแพทย์จะนัดมาติดตามอาการปีละครั้ง

นพ.ธานินทร์ กล่าวว่า การรักษาผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจะเป็นให้ยาเคมีบำบัดเป็นหลัก การฉีดแอนติบอดี และการปลูปถ่ายไขกระดูกในผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อยาเคมีบำบัด ซึ่งหากรักษาด้วยยาเคมีบำบัดร่วมกับการฉีดแอนตีบอดีจะเพิ่มโอกาสการหายขาดราว15-20% โดยค่ารักษาพยาบาลหากเป็นการให้ยาเคมีบำบัดครั้งละ 5,000 บาททุกสิทธิการรักษาพยาบาลไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่หากเป็นการรักษาด้วยแอนติบอดีอยู่ที่ 60,000 บาทต่อครั้ง ต้องใ้ห้ 6 ครั้ง ผู้ป่วยสิทธิข้าราชการไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ส่วนประกันสังคมขึ้นอยู่กับรพ.แต่ละแห่งที่รักษาว่ากำหดนให้เบิกได้หรือไม่ ขณะที่ผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทองไม่สามารถเบิกได้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง

"พยายามผลักดันให้มีการบรรจุยาแอนติบอดี เข้าในบัญชียาหลักแห่งชาติ เนื่องจากเซลล์มะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่หายขาดได้ เพราะมีการตอบสนองที่ดีกับยาเคมีบำบัดและจะตอบสนองได้ตรงจุดเฉพาะเซลล์มะเร็งชนิดนี้มากขึ้น หากใช้ยาเคมีบำบัดร่วมกับยาแอนติบอดี ซึ่งจะทำให้อัตราการหายขาดเพิ่มขึ้น และอยากให้มีการเพิ่มการรักษาด้วยแอนติบอดีในผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็นสิทธิประโยชน์ของบัตรทอง จะช่วยให้ผู้ป่วยที่อยู่ในสิทธินี้ไม่ต้องจ่ายเงินเอง

ซึ่งในประเทศเวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ยาแอนติบอดีนี้ ได้เข้าไปอยู่ในระบบบัญชียาหลักแห่งชาติแล้ว นอกจากนี้องค์การอนามัยโลกยังได้มีการระบุด้วยว่ายาแอนติบอดีนั้นเป็นยาจำเป็นสำหรับผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง” ศ.นพ.ธานินทร์ กล่าว