พลิมปูมเลขาศอบต.คนใหม่"ศุภณัฐ สิรันทวิเนติ" 35ปีในชายแดนใต้

พลิมปูมเลขาศอบต.คนใหม่"ศุภณัฐ สิรันทวิเนติ" 35ปีในชายแดนใต้

พลิกปูม “ศุภณัฐ สิรันทวิเนติ” ว่าที่เลขาศอ.บต. 1ในทีมพูดคุยเพื่อสันติสุข รับราชการในพื้นที่ชายแดนใต้ 35 ปี

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติแต่งตั้ง นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศบ.อต.) ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการศอ.บต. ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 แทน นายภาณุ อุทัยรัตน์ ที่เกษียณอายุราชการ

แหล่งทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า วาระเสนอแต่งตั้งนายศุภณัฐ เสนอโดย พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะกำกับดูแลศอ.บต. ทำหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุคุณสมบัติของนายศุภณัฐ ว่า ปัจจุบันนายศุภณัฐอายุ 59 ปี (28 พ.ย. 2500) จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 1 ตุลาคม 2560 การศึกษา จบปริญญาตรี ศิลปศาสตร์บัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง และปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

ส่วนความอาวุโส นายศุภณัฐ เป็นรองเลขาศอ.บต. ลำดับที่ 1 ด้านความรู้ความสามารถ นายศุภณัฐรับราชการในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่แรกในตำแหน่งปลัดอำเภอและนายอำเภอยะหา จังหวัดยะลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาบุคลากรในศอ.บต. และรองเลขาธิการศอ.บต. รวมรับราชการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อเนื่องติดต่อกันมา 35 ปี ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย ทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน รวมทั้งผู้นำศาสนาในพื้นที่

และเมื่อมีประกาศคสช.ฉบับที่ 98/2557 เรื่องการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ศอ.บต. ทำงานเป็นสองระดับ คือ ศอ.บต. ส่วนกลาง ที่กทม. และศอ.บต.ส่วนหน้า ที่จังหวัดยะลา นายศุภณัฐ ในฐานะรองเลขาธิการศอ.บต. คนที่ 1 สามารถบริหารงานทั้งระบบทำให้ทุกอย่างดำเนิไปตามประกาศทุกประการ ส่งผลดีต่อทางราชการและประชาชนเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้นายศุภณัฐ เป็นผู้เสียสละ ทุ่มเทการปฏิบัติงานด้วยดีเสมอมามีผลการปฏิบัติงานเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย โดยเฉพาะการเชื่อมประสานกับฝ่ายความมั่นคงที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า อีกตำแหน่ง และปัจจุบันมีบทบาทสำคัญในกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีผลงานที่เป็นรูปธรรม อาทิ การพัฒนาเมืองต้นแบบเศรษฐกิจเพื่อเปลี่ยนผ่านการทำงานไปสู่ระยะที่ 3 การสร้างสันติสุขและการพัฒนาอย่างยั่งยืน การสร้างมวลชนให้หัวใจอยู่กับประเทศไทยและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเป็นระบบและครบวงจร การประสานงานการจัดการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นรูปธรรมและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเจตคติและสร้างการยอมรับของประชาชน และสร้างความสงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป

ส่วนความสามารถพิเศษ นายศุภณัฐ สามารถพูดและฟังภาษามลายูท้องถิ่นได้ รวมทั้งได้ศึกษาหลักคำสอนในพระคัมภีร์ อัลกุรอานโดยนำไปใช้ประโยชน์ในการทำงานด้านมวลชนได้อย่างดีโดยเฉพาะงานด้านการข่าว ทำให้มีเครือข่ายด้านการข่าวค่อนข้างกว้างขวาง