สธ.บุกตรวจร้านค้าตลาดดัง หลังชาวเน็ตแห่แชร์ซื้อปลาร้าปนงู

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 13 ก.ย. 59 นายแพทย์สุรพล อริยปิติพันธ์ นายแพทย์ 9 ด้านเวชกรรมป้องกัน และเป็นรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานีได้เข้าตรวจสอบร้านขายปลาร้าหลังสาวพบเนื้องูในปลาร้าที่ซื้อมาจากร้านในตลาดไทย โดยมีนายผาชัย โปรียานนท์ นายอำเภอคลองหลวง พร้อมด้วยปลัดอำเภอ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมตรวจสอบร้านเตี้ยบริการปลาร้าเสวย อาคารพาณิชย์ตั้งอยู่เลขที่ 32/822-3 ภายในตลาดไท หมู่ 9 ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

สืบเนื่องจากสาวเจ้าของร้านขายขนมจีน พบเนื้องูในถุงปลาร้าที่ซื้อมาจากห้างในจ.ภูเก็ต แล้วโพสเฟซบุ๊กจนเป็นกระแสข่าวดัง จนสาธารณสุข จ.ภูเก็ตได้เข้าตรวจสอบทราบว่ารับมาจากตลาดไท จ.ปทุมธานี จากนั้นสาธารณสุข จ.ปทุมธานี จึงลงพื้นที่ตรวจสอบแหล่งผลิตเพื่อหาสาเหตุ โดยพบว่าเจ้าของร้านเตี้ยบริการปลาร้าเสวย ชื่อนาง นัฐธิดา โพธิ์งาม ได้รับซื้อปลาร้ามาจาก จ.ชัยนาท และได้นำมาผสมปรุงรสใหม่ในสถานที่ที่ไม่สะอาด ใกล้กลับห้องน้ำ และเป็นที่มืดชื้นจากนั้นแยกขายใส่ปี๊บใหม่และถุง

ด้านนางนัฐธิดา โพธิ์งาม เจ้าของร้านขายปลาร้า กล่าวว่า ตนเองขายปลาร้ามากว่า20ปี ซึ่งที่ผ่านมาได้ผลิตและจำหน่วยเองแต่เมื่อ3ปีที่ผ่านมานั้น ลูกจ้างในร้านลดน้อยลง ตนเองจึงต้องรับปลาร้ามาจากที่อื่นโดยรับปลาร้าที่ผลิตแล้วมาจาก เจ๊แหวว จ.ชัยนาท จำนวน20ปี๊บ เมื่อรับมาแล้วตนเองจะนำมาเทใส่ถังพลาสติกขนาดใหญ่ที่จะผสมเครื่องปรุงรสเพิ่มเติม และแยกใส่ปี๊บใหม่โดยติดฉลากร้านเตี้ยบริการปลาร้าเสวย ตนเองไม่เคยพบเนื้องูมาก่อนเลย หากตนเองเห็นก็จะไม่นำไปใส่ในปลาร้าเพื่อขายให้เสียงชื่อเสียงของร้านตนเองอยู่แล้ว แต่ไม่ทราบว่าเนื้องูไปอยู่ในปลาร้าได้อย่างไร เพราะถังภาชนะและปี๊บที่ใส่ปลาร้าตนเองยืนยันว่าปิดมิดชิด

ด้านนายแพทย์สุรพล อริยปิติพันธ์ นายแพทย์ 9 ด้านเวชกรรมป้องกัน และเป็นรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานีได้เข้ามาตรวจสอบ2ประเด็นคือ สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ผลิตหรือไม่ และตัวสินค้าที่จำหน่วยมีฉลากถูกต้องหรือไม่ เมื่อตรวจสอบพบว่าสถานที่แห่งนี้รับมาจากแหล่งผลิต โดยนำมาขายต่อ แต่ว่าที่ร้านแห่งนี้มีขบวนการเพิ่มเติมโดยการเพิ่มรสชาติ และนำมาใส่ในภาชนะเพื่อขายต่ออีกชุดหนึ่ง ซึ่งในกระบวนการผลิตลักษณะนี้ทางร้านไม่ได้ขออนุญาติ และสถานที่ไม่สะอาด ฉลากไม่ถูกต้อง ผิด พรบ.อาหาร พ.ศ. 2522 ต้องมีการเปรียบเทียบปรับเนื่องจากผิด พรบ.อาหาร

ทั้งนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานีจะได้ประสานไปยังสำนักงานสาธารสุขจังหวัดชัยนาทเพื่อให้ดำเนินการสืบสวนต่อไปว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ร่วมถึงกระบวนการผลิตถูกต้องหรือไม่อย่างไร