โบรกเกอร์ระบุพรุ่งนี้ตลาดหุ้นร่วงต่อ

สำหรับหุ้นไทยวันนี้ (12ก.ย.2559) ปิดตลาดทำการซื้อขายดัชนีหุ้นไทยมาอยู่ที่ระดับ 1,411.85 จุด ลดลง -33.43 จุด หรือ -2.31% โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 53,955.57 ล้านบาท

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) ระบุว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงแรงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นโลก ไม่ว่าจะเป็นดัชนีดาวโจนส์ และตลาดหุ้นเอเชีย หลังจากมีคณะกรรมการเฟดท่านหนึ่งออกมาระบุว่า สหรัฐจะมีความเสี่ยงหากเฟดไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ร่วงแรงทันที

อีกทั้ง ยังมีแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะ PTT และ PTTEP เนื่องจากราคาน้ำมันโลกร่วงแรกเกือบ 2% และภาพรวมตลาดไม่สดใสกดดัน

ทั้งนี้ มองว่า หุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวลงน้อยกว่า เมื่อเทียบการการปรับตัวลงรอบก่อน เพราะยังเชื่อว่าราคาน้ำมันจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 40-50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศปรับตัวลงแรก จากแรงกดดันประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จึงทำให้เกิด Sentiment เชิงลบ ประกอบกับดัชนีฯ นับตั้งแต่หลุดแนวรับ 1,500 จุด เริ่มเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาลง แม้จะใกล้เข้าสู่ภาวะ Over sold แต่ตลาดฯ ยังไร้ปัจจัยบวกใหม่ ถูกกดันจากเรื่องดอกเบี้ยเฟด และปัจจัยเฉพาะตัวภายในประเทศ จึงยังไม่เห็นสัญญาณกลับตัว

สำหรับพรุ่งนี้ (13 ก.ย.) คาดหุ้นไทยมีโอกาสหลุด 1,400 จุด มีความเสี่ยงที่จะลงไปทดสอบแนวรับ 1,380 จุด เพราะเผชิญแรงกดดันจากต่างประเทศ ปัจจัยเฉพาะตัวภายใน และสัญญาณทางเทคนิคเป็นลบมากขึ้น แม้นักลงทุนต่างชาติจะยังอยู่ในฝั่งซื้อสุทธิ แต่เริ่มแผ่วลง

ด้านกลยุทธ์ แนะเลี่ยงเก็งกำไร จนกว่าจะเริ่มเห็นการกลับตัวทางเทคนิค ส่วนการซื้อลงทุนสามารถพิจารณาซื้อหุ้นเป้าหมายตามปัจจัยพื้นฐาน ในลักษณะทยอยซื้อ พร้อมกับประเมินแนวรับแรก 1,400 จุด แนวรับถัดไป 1,380 จุด แนวต้านแรก 1,430 จุด แนวต้านถัดไป 1,450 จุด

ขณะที่ “เสี่ยป๋อง-วัชระ แก้วสว่าง” นักลงทุนรายใหญ่ด้านเทคนิค บอกว่า วันนี้เส้นกราฟเทคนิคตลาดหุ้นไทย “ระยะสั้น-กลาง” (10-25 วัน) หลุดแนวรับทั้งสองเส้น เนื่องจากปรับลดลงของตลาดหุ้นทั่วภูมิภาค โดยตลาดที่ลงมากสุดเป็นตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ และตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาที่ลดลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จากความกังกลของนักลงทุนที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) ส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ย

สำหรับพอร์ตลงทุนส่วนตัว ขายทำกำไรบ้างตั้งแต่เส้นกราฟเทคนิคหลุดเส้น 25 วัน กลยุทธ์ลงทุนระยะสั้นนั้น ขอรอดูสถานการณ์ หากแรงเทขายในตลาดหมด และมีแรงซื้อกลับเข้ามา จะเข้ามาเก็บหุ้นเป็นรายตัวที่พื้นฐานดี แต่ราคาปรับลดลงมามาก