ร.ฟ.ท.สั่งเข้มติดเครื่องตรวจวัตถุระเบิด 27 สถานี

ร.ฟ.ท.สั่งเข้มติดเครื่องตรวจวัตถุระเบิด 27 สถานี

"ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท." สั่งเพิ่มมาตรการความปลอดภัย พร้อมติดตั้งเครื่องตรวจวัตถุระเบิด-เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ 27 สถานีในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า จากกรณีเหตุที่มีคนร้ายลอบวางระเบิดทางรถไฟ ช่วงระหว่างสถานีปัตตานี–ตาแปด ที่ตำบลโคกโพธิ์ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ทางรถไฟและ ขบวนรถไฟ ขบวนที่ 176 (สุไหงโกลก-หาดใหญ่) ช่วงระหว่าง กม. 1003 ได้รับความเสียหาย และมีพนักงานการรถไฟฯ ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย และเสียชีวิต 1 ราย นั้น   สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ฝ่ายการช่างโยธา การรถไฟฯ ได้เริ่มเข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการซ่อมแซมทางที่ได้รับ ความเสียหายจากเหตุระเบิด โดยได้ประสานกับฝ่ายความมั่นคงให้ดูแลพื้นที่เกิดเหตุและการซ่อมแซมทางรถไฟอย่าง ใกล้ชิด โดยเจ้าหน้าที่ของการรถไฟฯ สามารถเข้าพื้นที่ซ่อมแซมได้เฉพาะช่วงพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตกดิน เท่านั้น เพื่อเฝ้าระวังในเรื่องของความปลอดภัย ทั้งนี้ จากการประเมินการซ่อมแซมในเบื้องต้นคาดว่าจะเสร็จ และ กลับมาเปิดให้บริการตามปกติได้ในอีก 5-10 วัน   

ทั้งนี้ การรถไฟฯได้เพิ่มมาตราการรักษาความปลอดภัย 5 มาตราการ ดังนี้  1. มีการตรวจสอบโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ภายในสถานีและบนขบวนรถให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์สามารถใช้ การได้  2. จัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจตราบริเวณโดยรอบสถานี ตลอด 24 ชม.  3. ให้มีการตรวจสอบความปลอดภัยของสภาพรางและเส้นทางการเดินรถในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส) จำนวน 27 สถานี เป็นประจำทุกวัน ตลอดจนการติดตั้งเครื่องตรวจอาวุธและวัตถุ ระเบิดแบบ X-ray ช่องอุโมงค์สัมภาระ เครื่องตรวจจับวัตถุโลหะแบบเดินผ่าน(Walk-Through Metal Detector) และ เครื่องตรวจจับวัตถุโลหะแบบมือถือพกพา (Handheld Metal Detector) สำหรับใช้งานที่สถานี   4. เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟและพนักงานประจำสถานีและบนขบวนรถ 5. เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสัมภาระของผู้โดยสาร