'ช้อปปี้'ส่งแคมเปญดันยอดอีคอมเมิร์ซ

นายเทเรนซ์ แพง ประธานฝ่ายปฏิบัติการ ช้อปปี้ ผู้ให้บริการอีมาร์เก็ตเพลส ภายใต้ชื่อช้อปปี้ ในเครือการีนา กล่าวว่า บริษัทมุ่งเข้ามาขยายฐานผู้ใช้งานในตลาดประเทศไทยต่อเนื่อง

ล่าสุด จัดทำแคมเปญพิเศษ ช้อปปี้ ไนท์.ไนท์ โมบายช้อปปิ้ง เดย์(Shopee 9.9 Mobile Shopping Day) มอบส่วนลดพิเศษสูงสุด 99% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. และจะเต็มรูปแบบในวันที่ 9 ก.ย.2559 พร้อมข้อเสนอพิเศษอื่นๆ รวมถึงจัดส่งฟรี

โดยในภาพรวมทิศทางของบริษัทยังคงเน้นให้บริการแพลตฟอร์มอีมาร์เก็ตเพลสโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย มีระบบการซื้อขายที่ปลอดภัย มีการเชื่อมต่อกับโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ ทั้งมีบริการจัดส่งฟรี

นอกจากนี้ พยายามให้ความรู้ตลาด สร้างทัศนคติเชิงบวกต่อการช้อปปิ้งออนไลน์ ส่วนนี้จะใช้การบริการที่ดีและทำให้เกิดการบอกต่อ
ส่วนการทำรายได้ ขณะนี้ยังไม่เน้นแต่จะโฟกัสกับการสร้างฐานผู้ใช้งาน ผู้ค้า เพิ่มบุคลากร ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก พร้อมทำให้มีคนเข้ามาใช้งานแบบซ้ำๆ มากที่สุด

ไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศที่การช้อปปิ้งบนมือถือโตเร็วที่สุด ผลักดันโดยความพร้อมของอินฟราสตรักเจอร์ในประเทศ การเติบโตของสมาร์ทโฟน ความนิยมโซเชียลเน็ตเวิร์ค การเข้ามาของผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซต่างๆ รวมถึงการพัฒนาด้านเพย์เมนท์ และโลจิสติกส์ที่ดีขึ้นตามลำดับ

ผลสำรวจจากสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) ระบุว่า ในประเทศไทยมีฐานผู้ใช้สมาร์ทโฟนกว่า 20 ล้านราย สัดส่วนการเข้าถึงโทรศัพท์มือถือ 122% ต่อวันใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ 5.7 ชั่วโมง

นอกจากนี้ พบด้วยว่า 25.8% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านโมบายใช้งานเพื่อซื้อสินค้าออนไลน์ ด้วยปัจจัยดังกล่าว ไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตด้านโมบายช้อปปิ้งสูงมาก แนวโน้มยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ประเทศที่เติบโตแล้ว เช่น ญี่ปุ่น และไต้หวัน สัดส่วนการช้อปปิ้งบนโมบายมีอยู่กว่า 50% ดังนั้นไทยยังมีโอกาสเติบโตต่อได้อีกมาก บริษัทคาดด้วยว่าไทยจะเป็นไปตามทิศทางนี้ได้ภายใน 5 ปี หรืออาจเร็วกว่า

พร้อมประเมินว่า ขณะนี้ ออนไลน์ช้อปปิ้งคิดเป็นสัดส่วน 1-3% ของภาพรวมค้าปลีกไทย จากนี้จะค่อยๆ เพิ่มไปถึง 2% และเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ ขณะที่ประเทศที่เติบโตแล้วสัดส่วนจะมากกว่า 5%

ปัจจุบัน ในไทยมียอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นช้อปปี้ 3 ล้านครั้ง ยอดคำสั่งซื้อต่อวัน 2 หมื่นรายการ กลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยมคือที่เกี่ยวกับผู้หญิง เครื่องสำอาง สุขภาพ ความงาม แฟชั่น ที่มาแรงรวมถึงของตกแต่งบ้าน ภายในสิ้นปี 2559 ตั้งเป้าว่าจะเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการให้ได้ถึง 4 ล้านคน จำนวนสินค้า 4 ล้านชิ้น หรือเติบโตเป็น 2 เท่า

นอกจากนี้ เพิ่มจำนวนบุคลากร ไปเป็น 200 คน จากปัจจุจันมี 150 คน รวมถึงขยายฐานให้มีคนเข้ามาใช้มากที่สุด นอกจาก กทม. ยังเพิ่มโฟกัสไปหัวเมืองใหญ่ต่างจังหวัดมากขึ้นจากปัจจุบันส่วนจาก กทม. 60% ต่างจังหวัด 40% หวังด้วยว่า ภายใน 3 ปีจากนี้จะก้าวขึ้นไปเป็นผู้นำตลาดช้อปปิ้งผ่านโมบายให้ได้

บริษัทยังคงมีแผนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยต่อเนื่องเพื่อพัฒนาตลาดท้องถิ่นพร้อมก้าวไปถึงเป้าหมายให้ได้