'ดีเอสไอ'แจง! ไม่มีฆ่าตัดตอน–ทำร้ายผู้ต้องหา

'ดีเอสไอ'แจง! ไม่มีฆ่าตัดตอน–ทำร้ายผู้ต้องหา

"ดีเอสไอ"ยืนยันไม่มีฆ่าตัดตอน-ทำร้ายผู้ต้องหา ชี้หลังจับกุมแทบไม่ได้แตะต้องตัว คาดเหตุตับแตก เลือดออกในช่องท้อง อาจเกิดจากภาวะแทรกซ้อนอื่น

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ในฐานะโฆษกดีเอสไอแถลงกรณีมีข้อมูลปรากฎผ่านสื่อเกี่ยวกับรายงานผลการชันสูตรพลิกศพของแพทย์สถาบันนิติเวชวิทยาสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ผ่าชันสูตรศพนายธวัชชัย อนุกูล ผู้ต้องหา ซึ่งผูกคอเสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมของดีเอสไอว่า ดีเอสไอยังไม่ได้รับทราบผลการชันสูตรอย่างเป็นทางการโดยกรณีดังกล่าวจะมีการส่งผลชันสูตรกลับไปยังสน.ทุ่งสองห้องท้องที่เกิดเหตุ

อย่างไรก็ตาม กรณีที่แพทย์ระบุสาเหตุว่า เกิดจากการบาดเจ็บในช่องท้องประกอบกับการขาดอากาศหายใจจากการผูกคอนั้น การเกิดบาดเจ็บในช่องท้องมีหลายสาเหตุ ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ทั้งนี้ ดีเอสไอได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งการตายระหว่างการถูกควบคุมของเจ้าพนักงานต้องทำสำนวนไต่สวนชันสูตรพลิกศพเสนอต่อศาลต่อไป

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ ยืนยันข้อเท็จจริง คือ การผูกคอเป็นการใช้ถุงเท้าสองข้างไปคล้องกับบานพับประตูระหว่างเกิดเหตุได้มีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นโดยพยาบาลของรพ.มงกุฎวัฒนะ ซึ่งมีผู้ช่วยพยาบาลอีก 2 คนมาให้การปฐมพยาบาลที่ห้องควบคุมใช้เวลาประมาณ 15 นาทีโดยผู้ต้องหายังหายใจอยู่ แต่หัวใจเต้นไม่เต็มที่เลยส่งตัวไปที่รพ.มงกุฎวัฒนะ ปั๊มหัวใจอีก 45 นาทีและปั๊มด้วยเครื่องกระตุ้นหัวใจต่ออีก แต่ไม่เป็นผลนายธวัชชัยเสียชีวิตประมาณ 04.00 น.

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุนายธวัชชัย อยู่ในการดูแลของแพทย์ ไม่ได้เสียชีวิตทันที อีกทั้งเมื่อเกิดเหตุได้แจ้งญาติทันทีซึ่งญาติได้ตามไปที่รพ. ก่อนที่นายธวัชชัยจะเสียชีวิตจากข้อเท็จจริงทั้งหมดเป็นเรื่องที่ดีเอสไอต้องขอแสดงความเสียใจและย้ำว่าไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงดูว่ามีผู้ใดบกพร่องหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดอาญาใดๆหรือไม่ สน.ทุ่งสองห้องก็อยู่ระหว่างสอบสวนเพื่อเสนอศาลไต่สวนต่อไป

สำหรับประเด็นสำคัญในรายงานชันสูตรที่ระบุว่า ตับแตก การปั๊มหัวใจจะปั๊มเหนือหน้าอกมีความห่างกัน แต่เพราะเหตุใดจึงเกิดเรื่องดังกล่าวได้ ข้อเท็จจริงที่พบคือไม่มีบาดแผลภายนอกมีเพียงรอยรัดบริเวณลำคอเป็นแนวยาว ซึ่งปรากฏทั้งการชันสูตรพลิกศพและการของรพ.มงกุฎวัฒนะ ไม่มีบาดแผลภายนอกซึ่งอาจเป็นเหตุให้ตับแตกอาจมีประเด็นอื่นแทรกซ้อนซึ่งจะต้องดำเนินการตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริง

“หลังการจับตัวแทบไม่ได้แตะต้องตัวผู้ต้องหาโดยเมื่อส่งห้องควบคุมก็มีการซักถามพูดคุยซึ่งผู้ต้องหาก็ให้ข้อเท็จจริงอย่างดีพอใจกับการทำงานเจ้าหน้าที่ช่วงเย็นได้เอาตัวไปสอบปากคำโดยมีญาตินั่งอยู่ด้วยหากจะมีการซ้อมทรมานจริงก็น่าจะมีการบอกญาติหลังสอบปากคำก็นำตัวกลับไปส่งที่ห้องควบคุมมีการดูแลโดยเจ้าหน้าที่3คนอำนวยความสะดวกทุกอย่าง ทั้งความเป็นอยู่และอาหารการกินหลังเกิดเหตุโทรตามญาติทันทีและญาติก็ตามไปที่รพ.ฉะนั้นประเด็นที่อาจจะสงสัยว่ามีการทำร้ายให้เสียชีวิตหรือฆ่าตัดตอนหรือไม่ เราคงต้องตรวจสอบต่อไปแต่ขณะนี้ยืนยันว่าข้อเท็จจริงว่าเป็นเช่นนี้” รองอธิบดีดีเอสไอกล่าว

ส่วนกรณีที่ญาติของผู้เสียชีวิตระบุว่า การถูกจับทำให้นายธวัชชัยมีค่าตัวสูงนั้น พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่าการตั้งหัวเป็นการตั้งค่าหัวจากฝ่ายใดอาจเป็นฝ่ายผู้ร่วมกระทำผิดหรือไม่ แต่ไม่ใช่ฝ่ายของเจ้าหน้าที่แน่นอน คดีบุกรุกที่ดินในพื้นที่ภาคใต้ทั้งพังงาภูเก็ตและกระบี่ต้องยอมรับว่า เป็นกลุ่มอิทธิพลเกือบทั้งหมดมีการอาศัยช่องทางทุจริตออกเอกสารสิทธิซึ่งมีความเกี่ยวพันกันเป็นขบวนการ อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นายธวัชชัย ก็ไม่เคยพูดถึงกรณีดังกล่าว