MORNING CALL ACTION NOTES (30 ส.ค.59)

MORNING CALL ACTION NOTES (30 ส.ค.59)

จับรอบเก็งกำไร

SET วานนี้ปรับตัวลงจากความกังวล FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อีกทั้งภาวะตลาดหุ้นขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน ส่งผลให้มีแรงขายในกลุ่ม ICT FOOD กดดันให้ SET ปิดที่ 1,544.15 จุด (-5.26 จุด) Vol. 5.1 หมื่นลบ.โดย Foreign Net +1,798 ลบ., TFEX Net -5,647 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ตลาดหุ้น DJ ปรับตัวขึ้นตอบรับตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ในเดือนก.ค. โดย +0.3%

+ บอร์ด BOI อนุมัติส่งเสริมลงทุน 34 โครงการ มูลค่ากว่า 2.6 แสนลบ.

- โกลด์แมนแซคส์ คาดมีโอกาส 40% ที่ FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และมีโอกาส 80% ที่ FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้

- นายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟด กล่าวว่ามีความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ และยังสะท้อนให้เห็นว่า มีโอกาสค่อนข้างมากที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนก.ย.

- ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงล่าสุด 47.1 US/Barrel จากความกังวลข่าวการเพิ่มผลิตของกลุ่มโอเปก รวมถึงการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

+/- รมว.คลัง คาด GDP Q3/59 โตใกล้เคียงหรือมากกว่า Q2/59 ที่ขยายตัวได้ 3.5% แต่มองเงินบาทแข็งมากไม่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจประเทศ

** Opp day 30/8/16 ATP30 TVD SMT CNT PCA BJC BA

     31/8/16 BEAUTY CHEWA A PTG CHO SGP

     1/9/16 EHK MODERN NETBAY SENA PIMO TMILL

     2/9/16 BAFS SEAFCO TTA DEMCO

Sentiment เชิงบวกจากตลาดหุ้น DJ ที่ดีดตัวขึ้นตามตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐฯที่ออกมาดี รวมถึงคาดการณ์ GDP Q3/59 ไทยยังขยายตัวในระดับสูงราว 3.5% เป็นแรงหนุนต่อทิศทางดัชนี อย่างไรก็ตามความกังวล FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ยยังคงเป็นตัวถ่วงตลาด ดังนั้นประเมินว่า SET แกว่งตัวในกรอบ 1,535 - 1,555 จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- EPG เตรียมสรุปดีลซื้อกิจการในปีนี้อย่างน้อย 2 ดีล,มั่นใจงวด Q2/59 (ก.ค.-ก.ย.59) ผลงานดีกว่างวด Q1/59 (อินโฟเควสท์)

- "อาม่า มารีน" (บริษัทลูก PTG) ยื่นไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต. ขาย IPO 108 ล้านหุ้น ระดมทุนขยายกองเรือ และรถขนส่ง

- BANPU ประกาศให้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน BPP ช่วง 18-25 หุ้น BANPU ต่อ 1 หุ้น BPP

- 31 ส.ค.ประกาศหุ้นที่ถูกเพิ่มน้ำหนักจาก FTSE Rebalance รอบใหม่ (คาดมีเม็ดเงินไหลเข้าราว 2 – 3 หมื่นลบ. โดยหุ้นที่ได้ประโยชน์ได้แก่ PTT SCB BDMS MINT)


หุ้นแนะนำพิเศษ

CHEWA (ราคาปิด 1.76 บาท )

- 2Q59 มีกำไร 9.7 ลบ. พลิกจากขาดทุน 2.9 ลบ.ใน 2Q58 ช่วง 1H59 มีกำไร 68 ลบ. เติบโตสูงมากเกือบ 19 เท่าตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็น 81% ของกำไรทั้งปี 58 ที่ทำได้ 83 ลบ. ทำให้กำไรปี 59 มีโอกาสเติบโตสูง เนื่องจากปี 58 โครงการคอนโดฯที่เริ่มโอนใน 1H59 ยังสร้างไม่เสร็จทำให้มีฐานรายได้ต่ำ

- ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 59 ราว 1.8 พันลบ. 1H59 มีรายได้ 835 ลบ. เพื่อให้ทำได้ตามเป้าต้องบันทึกรายได้อีกราว 1 พันลบ. จาก 1) การเร่งระบายสต๊อกคอนโดฯที่มีมูลค่าคงเหลือ 897 ลบ. 2) รับรู้รายได้จากยอดขายรอโอน(backlog)ล่าสุด ณ 26 ส.ค. เท่ากับ 215 ลบ. 3) ปลายปีจะเปิดตัวโครงการแนวราบพร้อมขายย่านรังสิตคลอง 1 มูลค่า 488 ลบ.คาดว่ามีบางส่วนที่สร้างเสร็จขายและรับรู้เป็นรายได้ราว 30% 4) บริษัทมีดีลซื้อโครงการที่พร้อมรับรู้เป็นรายได้หากสำเร็จจะรับรู้บางส่วนในช่วงปลายปีอีกด้วย

- ปี 60 ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้เติบโตราว 20% และเป้าอัตรากำไรสุทธิราว 8-10% ปัจจุบันมีโครงการระหว่างก่อสร้างเป็นคอนโดฯทั้งหมด 3 โครงการ ได้แก่ โครงการที่บางโพ และ อโศก มูลค่ารวม 1,438 ลบ. จะเริ่มรับรู้รายได้ราวเดือนก.ย.และธ.ค. ตามลำดับ อีกโครงการที่ถ.เพชรเกษม ตรงข้ามม.สยามมูลค่ารวม 1,291 ลบ.จำนวน 566 ยูนิต จะสร้างเสร็จราวกลางปี 61 ปัจจุบันมีลูกค้าที่เป็นบุคลากรในม.สยามจองแล้วเกือบ 100 ยูนิต

- บริษัทใช้กลยุทธ์การเติบโตจากภายในในการพัฒนาโครงการเองและจากภายนอกในการซื้อโครงการมาพัฒนาต่อเพื่อสร้างและรักษาฐานการเติบโตอย่างต่อเนื่อง P/E ล่าสุดซื้อขายที่ 8-9 เท่า ต่ำกว่า P/E กลุ่ม PROPCON ในตลาด mai ที่ระดับ 34 เท่า และ P/E กลุ่ม PROP ในตลาด SET ที่ระดับ 17 เท่า

หุ้นมีข่าว

KOOL (ราคาปิด 6.50 ราคาเหมาะสม consensus สูงสุด 6.70)

- กำไร 1H16 อยู่ที่ 102 ล้านบาทเติบโต 275%YoY เนื่องจากยอดขายเติบโต 67%YoY สู่ระดับ 667 ล้านบาท ปัจจัยหลักที่ยอดขายเติบโตมาจากผู้บริโภคเริ่มรู้จักผลิตภัณฑ์มากขึ้นประกอบการเป็นช่วงฤดูร้อนที่มีความต้องการพัดลมไอเย็นเพิ่ม

- ยอดจำหน่าย 1H16 มาจากช่องทาง Modern Trade 41% Dealer 20% Direct 18% และ Export 20% ซึ่งบริษัทกำลังขยายช่องทางการจำหน่ายทาง Modern Trade เพิ่มเติมสู่ Lotus และ BigC (ปัจจุบันขายผ่าน HMPRO MAKRO และ MEGAHOME) โดยบริษัทคาดว่าจะช่วยให้ยอดขายสามารถเติบโตได้ 40%YoY สู่ 940 ล้านบาทตามเป้า

- แนวโน้มครึ่งปีหลังรายได้อาจอ่อนตัวลงเนื่องจากเข้าสู่ฤดูฝนและฤดูหนาวทำให้ความต้องการพัดลมไอเย็นไม่สูงเท่าช่วงครึ่งปีแรกที่อยู่ในฤดูร้อน โดยคาดว่ารายได้ในครึ่งปีหลังจะอยู่ที่ราว 300 ล้านบาทลดลง 55%HoH แต่ทางบริษัทตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลงเพื่อไม่ให้ปัจจัยฤดูกาลกระทบต่อผลประกอบการมากนัก

- SYNEX (ราคาปิด 5.70 ราคาเหมาะสม 6.50) วางเป้ารายได้ปี 59 แตะ 23,000 ล้านบาท โต 8-10% มั่นใจกำไรนิวไฮ เชื่อผลงานครึ่งปีหลังโตรับไฮซีซั่น พร้อมเดินหน้าเข้าซื้อกิจการที่เกี่ยวเนื่อง ส่งซิกอยู่ระหว่างเจรจา 2 ราย แย้มไตรมาส 4/59 สรุป 1 ราย ที่มาข่าวหุ้น

- ประเด็นบวกกลุ่มรับเหมา - รมว.คมนาคม คาดเปิดประมูลรถไฟทางคู่ ประจวบ-ชุมพร 1.7 หมื่นลบ.ราวต้น ก.ย./ดันต่ออีก 4 เส้นทางมูลค่ารวมอีก 8.5 หมื่นล้านบาท

- XO บอร์ดอนุมัติเพิ่มงบก่อสร้างรง.แห่งที่ 2 เป็นราว 380 ลบ. คาดเริ่มผลิตภายใน Q4/59

- ICHI อัดงบ 40 ลบ.ส่ง"ชิวชิว"ชาผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าว หวังดึงยอดขาย 250 ลบ.ปีนี้

- CK ปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.25 บ./หุ้น XD 8 ก.ย.

- ITEL เคาะราคาขาย IPO ที่ 5.20 บาทต่อหุ้น ระดมทุนจำนวน 1,040 ล้านบาท เตรียมเปิดให้ผู้ถือหุ้นเดิม ILINK จองซื้อวันที่ 31 สิงหาคม และ 1-2 กันยายนนี้ ส่วนนักลงทุนทั่วไปจองซื้อ 7-9 ก.ย. เริ่มซื้อขายวันแรก 14 ก.ย. 59 **บล.โกลเบล็กเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ซึ่งจะได้รับค่าธรรมเนียมในฐานะผู้จัดจำหน่าย**

- ประเด็นบวกกลุ่มเกษตร อาหาร และอิเล็กทรอนิกส์ – ก.คลังเตรียมเสนอให้ที่ประชุมครม.พิจารณาให้บริษัทเอกชนสามารถนำค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาไปลดหย่อนภาษีได้ 3 เท่า โดยจะนำร่องในกลุ่มธุรกิจ New S-Curve 5 กลุ่ม เช่น เกษตร อาหาร และอิเล็กทรอนิกส์


ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +107.59 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,502.99 จุด พุ่งขึ้น 107.59 จุด หรือ +0.58% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,232.33 จุด เพิ่มขึ้น 13.41 จุด หรือ +0.26% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,180.38 จุด เพิ่มขึ้น 11.34 จุด หรือ +0.52% ขานรับรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐซึ่งระบุว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน นอกจากนี้ กระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นด้วย

ตลาดน้ำมัน NYMEX -0.66 ดอลลาร์/บาร์เรล

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 66 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 46.98 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวการเพิ่มผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบ