เคเอฟซีผนึก'อาร์ดีซีแอล'เร่งสยายปีก

เคเอฟซีผนึก'อาร์ดีซีแอล'เร่งสยายปีก

เคเอฟซี ประเทศไทย จับมือนักลงทุน ไทย-อาเซียน "อาร์ดีซีแอล" แฟรนไชส์ซี่ใหม่ หนุนแผนสยายปีก มุ่งปักธงภาคใต้-ปริมณฑล

นางแววคนีย์ อัสโสรัตน์กุล ผู้จัดการทั่วไป เคเอฟซี บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน "เคเอฟซี" กล่าวว่า เคเอฟซี ประเทศไทย ได้แต่งตั้ง บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด หรือ อาร์ดีซีแอล (RDCL : RESTAURANT DEVELOPMENT COMPANY LIMITED) เป็นแฟรนไชส์ซี่ หรือ พันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่อย่างเป็นทางการ โดยจะเข้าร่วมบริหารและปรับโฉมร้านเคเอฟซี 130 สาขาในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงภาคใต้ พร้อมเตรียมเปิดเพิ่มอีก 100 สาขาในประเทศไทย 

พันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่นี้นับเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์สร้างการเติบโตของแบรนด์ด้วยการขยายสาขาให้ครบ 800 แห่งทั่วประเทศ ภายในปี 2563 หรือขยายเพิ่ม 215 สาขาจากปี 2559
"ผู้บริหารของ อาร์ดีซีแอล ชื่นชอบและสนใจในธุรกิจอาหาร มีศักยภาพในการลงทุนสูง มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์แบบมืออาชีพในธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนในระดับภูมิภาคเอเชีย”

อาร์ดีซีแอล เป็นการร่วมทุนของนักลงทุนทั้งไทยและอาเชียน นำโดยกองทุนอาเซียนอินดัสเตรียลโกรธ์ฟันด์ หรือ เอไอจีเอฟ ซึ่งสนับสนุนโดย บริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งญี่ปุ่น

นายแอนดรูว์ นอร์ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาร์ดีซีแอล ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน ด้วยประสบการณ์กว่า 13 ปี ในออสเตรเลียและไทย กล่าวว่า อาร์ดีซีแอล พร้อมสร้างการเติบโตอย่างรวดเร็วของแบรนด์เคเอฟซี ภายในปี 2563 อาร์ดีซีแอล รับผิดชอบในการสร้างสาขาเพิ่ม 100 แห่ง จากเป้าหมายทั้งหมด 215 สาขา

สิ้นปี 2558 เคเอฟซี มีสาขารวม 550 แห่ง บริหารโดย บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ ซีอาร์จี 205 สาขา ยัม 345 สาขา หลังมีพันธมิตรรายใหม่ คาดว่าสิ้นปี 2559 จะมีสาขารวม 585 สาขา บริหารโดย ซีอาร์จี 217 สาขา ยัม 238 สาขา และอาร์ดีซีแอล 130 สาขา ซึ่งจะเป็นการขยายในเขตภาคใต้ 50% กรุงเทพฯ และปริมณฑล 50%

ที่ผ่านมา มีนักลงทุนสนใจร่วมเป็นพันธมิตรกับยัมกว่า 100 บริษัท และได้ใช้เวลาคัดเลือกกว่า 18 เดือน ซึ่งกลยุทธ์นี้ของเคเอฟซี มีใช้ในประเทศอื่นๆ เช่น อังกฤษ ออสเตรเลีย และรัสเซีย

"ธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนและเศรษฐกิจไทยมีความท้าทายสำหรับเคเอฟซี ซึ่งมองเป็นโอกาสในการนำเสนอนวัตกรรมอาหารที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่ต้องการความรวดเร็วและกินอาหารนอกบ้านในราคาที่หาซื้อได้"