ชี้แนวโน้มแรงงานต่างด้าว ขึ้นแท่นเป็น'เถ้าแก่'

ชี้แนวโน้มแรงงานต่างด้าว ขึ้นแท่นเป็น'เถ้าแก่'

ชี้แนวโน้มแรงงานต่างด้าว ขยับจาก "ไร้ฝีมือ" เป็น "เถ้าแก่"

แรงงานต่างด้าวในไทยยังคงมีความจําเป็นและได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยแรงงานไร้ฝีมือจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาทำงาน โดยเฉพาะงานประเภท 3D คืองานหนัก (Difficult) งานสกปรก (Dirty) และงานที่มีความเสี่ยง (Dangerous)

แต่ในปัจจุบันมักพบเห็นแรงงานต่างด้าวประกอบอาชีพ ค้าขายรายย่อยทั้งที่เป็นลูกจ้างหรือเป็นเจ้าของกิจการซึ่งเป็นอาชีพสงวนสําหรับคนไทย การเปลี่ยนการประกอบอาชีพของแรงงานต่างด้าว ดังกล่าวสะท้อนถึงการแสวงหาโอกาสและรายได้ที่ดีขึ้น รวมทั้งความต้องการแรงงานของนายจ้างที่เปลี่ยนแปลงไป
สถานการณ์การทำงานของคนต่างด้าว จากรายงานการย้ายถิ่นของประเทศไทยฉบับปี 2557 ประมาณการประชากรต่างด้าวในไทย พ.ศ. 2556 ทั้งสิ้น 3.68 ล้านคน เป็นผู้พํานักอาศัย 428,827 คน ( 11.6%) พํานักและทํางาน 3.25 ล้านคน (88.4%) หรือประมาณ 8% ของกําลังแรงงาน

ขณะที่จํานวนคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทํางานคงเหลือทั่วประเทศ ณ เดือนธ.ค.2558 มีจํานวน 1.44 ล้านคน และล่าสุดเดือนก.ค. 2559 มีจํานวนคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทํางานคงเหลือ 1.56 ล้านคน ชี้ให้เห็นว่ายังมีแรงงานต่างด้าวจํานวนมากที่ยังไม่ทราบสถานภาพของการทํางาน อาทิ ประกอบอาชีพอิสระต่างๆ เป็นลูกจ้างโดยไม่ถูกกฎหมาย การประกอบอาชีพผิดกฎหมาย

จํานวนคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทํางาน พบว่าอยู่ในกรุงเทพและปริมณฑล 656,044 คน ( 45%) ภูมิภาคอื่น 787,430 คน (55%)

การประกอบอาชีพของแรงงานต่างด้าว

สศช. ร่วมกับบริษัทศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจจํากัด (SAB) ดําเนินโครงการสํารวจการประกอบอาชีพค้าขายรายย่อยของแรงงานต่างด้าว โดยรวบรวมข้อมูลระหว่างวันที่ 4 พ.ค.-22 มิ.ย. 2559 ในพื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการ สมุทรสาคร เชียงใหม่ นครราชสีมา หนองคาย ชลบุรี และสงขลา โดยผลสํารวจ พบว่า แรงงานต่างด้าวมีการค้าขายในทุกระดับ

ผลการแจงนับร้านค้าคนต่างด้าวในสถานที่ 4 ประเภท คือ ศูนย์สรรพสินค้า ตลาดนัด ตลาดสด และตลาดชุมชน 5 แห่ง ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล พบ ร้านค้าที่เปิดขายทั้งสิ้น 10,453 ร้าน/แผง อยู่ในศูนย์สรรพสินค้า 1,480 ร้าน ตลาดนัด 8,497 ร้าน/แผง ตลาดสด 321 ร้าน/แผงและตลาดชุมชน 155 ร้าน/แผง พบร้านค้าที่มีคนต่างด้าวเป็นเจ้าของ 102 ร้าน (%6.9) 149 ร้าน/แผง (1.8%) 67 ร้าน/แผง ( 20.9%) และ15 ร้าน/แผง ( 9.7%) ตามลําดับ โดยเฉพาะในตลาดสดและตลาดชุมชนที่มีสัดส่วนค่อนข้างสูงเนื่องจากความยากง่ายในการเข้าถึงสถานที่ และแม้ว่าจะเป็นการสุ่มเฉพาะจุดแต่ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่ามีแรงงานต่างด้าวเข้ามาค้าขายในทุกระดับ

-ผู้ค้าคนไทยและต่างด้าวขาดการรับรู้ด้านกฎหมาย ผลการสัมภาษณ์ผู้ค้ารายย่อยไทย 432 รายและผู้ค้าต่างด้าว 424 ราย พบว่า ผู้ค้าชาวไทยประมาณ 3 ใน 4 รับรู้ว่ามีคนต่างด้าว ประกอบอาชีพค้าขาย แต่มีเพียงประมาณครึ่งหนึ่งที่ทราบว่าการประกอบอาชีพค้าขายของแรงงานต่างด้าวเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ขณะที่ผู้ค้าต่างด้าวที่รู้มีเพียง 1 ใน 4 โดยผู้ที่รู้ส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวที่เป็นเจ้าของ

-ผู้ค้าต่างด้าวส่วนใหญ่อยู่ในวัยแรงงานตอนต้น โดยร้อยละ 80.9 มีอายุ 20-39 ปี ซึ่งอยู่เป็นวัยเริ่มต้นมีครอบครัวและบุตร ส่วนใหญ่เป็นสัญชาติเมียนมา กัมพูชา และลาว 45.3%

23.9% และ 17.5% ตามลําดับ ผู้ค้าต่างด้าวส่วนใหญ่มีเอกสารแสดงตัว ได้แก่ พาสปอร์ต 58.0% บัตรสีชมพู 35.6% โดยเป็นผู้ไม่มีใบอนุญาตทํางาน (มีทร. 38/1) หรือไม่มีบัตรเพียง 1.2% ซึ่งเป็นผลจากการดําเนินงานของรัฐทั้งในเรื่องของการผ่อนผันและปรับสถานะผู้จดทะเบียนให้เป็นแรงงานถูกต้องตามกฎหมาย ระยะเวลาอยู่ในประเทศไทย 1-5 ปี 63% และ 6-10 ปี จำนวน 25.7%

-ลักษณะที่ขายส่วนใหญ่เป็นแผงและรถเข็น โดย 40% เป็นเจ้าของเอง ลักษณะที่ขายเป็นแผงและรถเข็น 74% เป็นบูธ/บล็อกในห้าง และอาคารพาณิชย์ 24.6%

ขณะที่สถานภาพของผู้ค้ารายย่อยต่างด้าว พบว่า เป็นลูกจ้าง 45.8% เป็นเจ้าของ 42.9% และค้าขายให้ครอบครัว/ญาติ 11.3% สะท้อนให้เห็นว่าแม้จะจ้างแรงงานต่างด้าวจดทะเบียนเป็นกรรมกรแต่ในทางปฏิบัตินายจ้างต้องการแรงงานมาทํางานที่หลากหลายรวมถึงการช่วยขายของหน้าร้าน และมีจํานวนไม่น้อยที่เป็นเจ้าของเอง

-ส่วนใหญ่ผู้ค้าต่างด้าวไม่เคยประกอบอาชีพอื่นมาก่อน 60.8% โดยกลุ่มที่เป็นเจ้าของมีสัดส่วนเคยประกอบอาชีพอื่นสูงกว่า สําหรับคนต่างด้าวที่เป็นเจ้าของพบกว่าครึ่งมีอายุระหว่าง 30-39 ปี ส่วนใหญ่มีสัญชาติเมียนมา กัมพูชา และลาว แต่คนสัญชาติเวียดนามและจีนมีสัดส่วนเป็นเจ้าของกิจการสูงกว่า

ขณะที่ 1 ใน 3 ของผู้ค้าต่างด้าวที่เป็นเจ้าของค้าขายหลังจากเข้ามาแล้ว 2-3 ปีชี้ให้เห็นพลวัตของการปรับเปลี่ยนการทํางานของแรงงานต่างด้าวซึ่งจากเดิมเข้ามาเป็นแรงงานมาสู่การเป็นผู้ประกอบอาชีพค้าขายเพิ่มขึ้น

-แม้จะมีการจับกุมแต่กว่าครึ่งกลับมาค้าขายใหม่ ด้านการตรวจสอบจับกุม ผลสํารวจพบว่าผู้ค้าชาวไทย 43.1% เคยพบเห็นการตรวจสอบ จับกุมแรงงานต่างด้าวที่ประกอบอาชีพค้าขายของเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม ผู้เคยพบเห็นการจับกุมเห็นว่าหลังการจับกุมมีการกลับมาขายใหม่ถึง 63.4%

-มีผู้ได้รับสวัสดิการทางสังคมเพียง 1 ใน 5 ผู้ค้ารายย่อยต่างด้าว 19.3% ได้รับสวัสดิการสังคม โดยสวัสดิการที่ได้รับส่วนใหญ่เป็นการรักษาพยาบาล รองลงมาเป็นการศึกษาของบุตรผู้ค้าต่างด้าว

-ส่วนใหญ่มีเงินเก็บและส่งเงินกลับ ผลประกอบการผู้ค้าต่างด้าว 47.4% มีเงินเก็บและไม่มีหนี้สิน และกว่า80% มีการส่งเงินกลับประเทศ โดยกลุ่มนี้ 32.1% ไม่มีเวลาส่งกลับที่แน่นอน ขณะที่ 25.9% ส่งเงินกลับเดือนละครั้ง จํานวนเงินส่งกลับแต่ละครั้ง 52.0% ส่งกลับ 1,001-5,000 บาท และ 35.1% อยู่ระหว่าง 5,001-10,000 บาท