WORK - ซื้อ

ประเด็นการลงทุน

จากการประชุมนักวิเคราะห์ในวันศุกร์ที่ผ่านมา เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกเช่นเดิมกับบริษัท อัตราค่าโฆษณายังจะสามารถปรับเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง อีกทั้งยังมีรายได้จากธุรกิจคอนเสิร์ต/ละครเวที เข้ามาสนับสนุนค่อนข้างเยอะในครึ่งปีหลัง เรามองว่ากำไรในไตรมาส 3/59 จะทำจุดสูงสุดสำหรับปี โดยจะเติบโตได้ดีทั้ง YoY และ QoQ จากกำไรใน 2Q16 ที่ออกมาสูงกว่าคาดค่อนข้างเยอะ อีกทั้งมุมมองในครึ่งปีหลังยังดีต่อเนื่อง เรามีการปรับประมาณการกำไรปี 2016, 2017 และ 2018 ขึ้น 15%, 15% และ 21% ตามลำดับ และ roll over ราคาเป้าหมายไป ณ สิ้นปี 2017 ที่ 55.25 บาท WORK ยังคงเป็นหุ้นที่เราชื่นชอบมากที่สุดในกลุ่มสื่อ

คะแนนเรตติ้งครองผู้นำในกลุ่มธุรกิจทีวีดิจิตัลน้องใหม่

เรตติ้งของเวิร์คพ้อยทีวีปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.19 ในเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้นจาก 1.16 ในเดือน มิ.ย เราเชื่อมั่นว่าเรตติ้งจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากรายการวาไรตี้ใหม่ที่จะเพิ่มเข้ามาในไตรมาส 3/59 และ 4/59 นั่นคือ รายการแฟนพันธุ์แท้ 2016, ไมค์หมดหนี้ และ ไมค์ทองคำ 5 ในไตรมาส3/59 และ รายการศัลยกรรมพลิกชีวิต ซีซั่น 2 (ซีซั่น 1 เรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 4), เดี่ยวดวลไมค์ และรายการ The Mask Singer ในไตรมาส 4/59 WORK ตั้งเป้าการเติบโตของเรตติ้งเฉลี่ยอย่างน้อยอยู่ที่ 10% ต่อปี สัดส่วนของรายการที่ขายแยกในไตรมาส 2/59 อยู่ที่ 6 รายการ คาดครึ่งหลังจะมีเพิ่มอีก 2 รายการ จากเรตติ้งที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและรายการขายแยกที่มากขึ้นจะทำให้ WORK สามารถที่จะเพิ่มอัตราค่าโฆษณาในอนาคตได้

คาดไตรมาส 3 จะแตะจุดสูงสุดของปี

เราคาดว่ากำไรจะมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง YoY และ QoQ ในไตรมาส 3/59 หนุนโดยการปรับตัวเพิ่มขึ้นของรายได้ธุรกิจดิจิตอลทีวี จำนวนการจัดคอนเสิร์ตและการจัดละครเวทีที่มากขึ้น จากการวิเคราะห์เบื้องต้นของเราเราคาดว่าในไตรมาส 3/59 กำไรหลักจะอยู่ที่ 151 ล้านบาท เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 156% YoY และ 6% QoQ สำหรับธุรกิจดิจิตอลทีวี เราคาดว่าอัตราเฉลี่ยของค่าโฆษณาจะเพิ่มขึ้น 32 % YoY และ 4% QoQ (อยู่ที่ 5 หมื่นบาท/นาที) และ อัตราการจองเวลาโฆษณาลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 77% ในไตรมาส 3/59 เทียบกับ 80% ในไตรมาส 2/59 กำไรคาดจะแตะจุดสูงสุดในไตรมาส 3/59 และปรับตัวลดลงในไตรมาส 4/59 ซึ่งเป็นช่วงการจ่ายโบนัส อีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนการเติบโตของกำไรในช่วงครึ่งหลังของปี 2559 คือการจัดคอนเสิร์ตและละครเวทีเช่น 10 ปี นิ้วกลม (2 รอบ) และ คุณพระช่วย 6 (7 รอบ) ในไตรมาส 3/59 และนิทานหิ่งห้อย (16 รอบ) ในไตรมาส 4/59
ปรับประมาณการกำไรขึ้น

จากกำไรไตรมาส 2/59 ที่ดีกว่าคาด ทำให้กำไรหลักในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 คิดเป็น 54% จากการคาดการณ์กำไรทั้งปีก่อนหน้านี้ของเรา ทั้งนี้เราจึงปรับกำไรหลักขึ้นปี 2559 ขึ้น 15% อยู่ที่ 389 ล้านบาท เนื่องจากกำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่น้อยกว่าที่เราคาดการณ์ เรามีการปรับกำไรขั้นต้นขึ้นไปที่ 44.6% จาก 44.2% และปรับลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารประมาณ 9% ในปี 2559 เราคาดอัตรากำไรสุทธิของปี 2559 ที่ 11% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้เรามีการปรับเพิ่มประมาณการสำหรับปี 2560 และ 2561 ขึ้น 15% และ 21% ตามลำดับ