แถลง5คดีสำคัญ! ชาวจีนโกงพันล้าน-หนุ่มฝรั่งเศสข่มขืนลูกสาว

แถลง5คดีสำคัญ! ชาวจีนโกงพันล้าน-หนุ่มฝรั่งเศสข่มขืนลูกสาว

สตม.แถลง5คดีสำคัญ ชาวจีนฉ้อโกงภาษีพันล้าน หนุ่มฝรั่งเศสข่มขืนลูกสาวตัวเอง ชายรัสเซียฉ้อโกงปลอมเอกสาร

ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 สิงหาคม พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. แถลงข่าวผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมข้ามชาติคดีสำคัญ 5 คดี พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวว่า ตามนโยบายด้านความมั่นคงของรัฐบาล พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ สตม. เร่งกวาดล้างอาชญากรข้ามชาติ คนต่างชาติผิดกฏหมาย มีพฤติการณ์เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ ป้องกันและปราบปรามไม่ให้ใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด เป็นแหล่งหลบซ่อนตัวนั้น ทางสตม.จึงดำเนินการโดยให้ทุกหน่วยในสังกัดเอ็กซเรย์พื้นที่และระดมกวาดล้างคนหลบหนีเข้าเมือง อาชญากรข้ามชาติ และแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ทั่วประเทศ พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับทางการประเทศต่างๆ ทำให้สามารถจับกุมตัวคนต่างชาติ ผิดกฏหมายได้เป็นจำนวนมาก และมีคดีที่สำคัญ 5 คดีได้แก่

คดีแรก เมื่อวันที่ 22 ส.ค. เจ้าหน้าที่คุมตัวนางหวาง เจี่ยนหลาน (WANG jianlan) อายุ 31 ปี, นางจาง จิงจิง (ZHANG Jingjing) อายุ 30 ปี และนางเจียง แหย่เหม่ย (JIANG Yuemei) อายุ 32 ปี สัญชาติจีน ที่ได้ร่วมกันฉ้อโกงภาษีรัฐบาล มูลค่าความเสียหายสูงถึง 1,050 ล้านบาท (210 ล้านหยวน) และลักลอบขนส่งสารต้องห้ามอันตรายข้ามชาติ มีเครือข่ายเชื่อมโยงในหลายประเทศ หลังก่อเหตุทั้งหมดได้หลบหนีเข้ามายังประเทศไทยด้วยวีซ่าประเภทนักท่องเที่ยว จนถูกจับกุมได้ที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต และที่เซ็นทริโอ คอนโดมิเนียม จ.ภูเก็ต

คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 22 ส.ค. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวนายสมอลนิคอฟ วาซิลี (SMOLNIKOV Vasillii) อายุ 42 ปี สัญชาติรัสเซีย ได้ที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับตำรวจสากล โดยนายสมอลนิคอฟฯ เป็นเจ้าของบริษัทรับเหมา ได้ฉ้อโกงปลอมแปลงเอกสารการก่อสร้างของรัฐบาล และจงใจติดสินบนเจ้าหน้าที่ จนกระทั่งถูกตรวจสอบ และได้หลบหนีเข้ามากบดานในประเทศไทยตั้งแต่ 3 ม.ค. 56 ด้วยวีซ่าประเภทนักท่องเที่ยว นายสมอลนิคอฟมีข้อมูลการเดินทางเข้าออกประเทศไทยหลายครั้ง

คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 23 ส.ค. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวนายมาร์คูส แอนเดย์ (Markus Andre) อายุ 56 ปี สัญชาติเยอรมัน ได้ที่บ้านพักใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยนายมาร์คูสได้หลบหนีหนี้และหนีหมายศาล หลังถูกออกหมายจับนายมาร์คูสฯ ได้หลบหนีออกนอกประเทศ และเดินทางเข้ามาประเทศไทยเมื่อ 29 ธ.ค. 57

คดีที่ 4 วันที่ 27 ส.ค. เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายปาทริส จิเลียน่า (Patrice GIULIANA) อายุ 58 ปี สัญชาติฝรั่งเศส หลังจากนายปาทริสก่อเหตุข่มขืนลูกสาวของตัวเองที่เกิดกับภรรยาคนเก่า เหตุเกิดเมื่อปี 55 ต่อมาศาลได้มีคำพิพากษาตัดสินนายปาทริสฯ มีความผิด ลงโทษ จำคุก 15 ปี นายปาทริสฯ ไม่ได้ไปปรากฏตัวที่ศาลและหลบหนีออกนอกประเทศมาซ่อนตัวอยู่ในประเทศไทย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 55 ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวนายปาทริส ได้ที่บริเวณปากซอยรามบุตรี แขวงชนะสงคราม

และคดีที่ 5 เมื่อวันที่ 27 ส.ค. เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายพอล สตรูบิน (Paul Strubin) อายุ 67 ปี สัญชาติสวิสเซอร์แลนด์ หลังถูกอัยการรัฐอาร์โกเวีย สหพันธรัฐสวิสเซอร์แลนด์ ออกหมายจับในข้อหา “ฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์” ภายหลังการถูกออกหมายจับนายพอลได้หลบหนีออกนอกประเทศเข้ามาซ่อนตัวในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.56 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสามารถควบคุมตัวนายพอล ที่สถานบริการแห่งหนึ่ง ในพัทยา จากการตรวจสอบยังพบอีกว่า นายพอลฯ อยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนด (Overstay) จนถึงปัจจุบัน เป็นจำนวนถึง 960 วัน

พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวว่า บุคคลต่างด้าวทั้งหมด มีพฤติกรรมเป็นภัยสังคม สตม.จึงได้พิจารณาเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เนื่องจากเป็นบุคคลต้องห้าม ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ มาตรา 12 อนุ 7 มีพฤติการณ์เป็นภัยสังคม และควบคุมตัวเพื่อดำเนินการต่อไป พร้อมทั้งบันทึกข้อมูลในฐานข้อมูลบุคคลต้องห้าม ไม่ให้เดินทางกลับเข้ามาประเทศไทยได้อีก

นอกจากนี้พล.ต.ท.ณัฐธร ได้กล่าวถึงผลระดมกวาดล้างคนต่างชาติผิดกฏหมาย คนหลบหนีเข้าเมือง คนต่างด้าวอยู่เกินกำหนด (Overstay) ประจำเดือนสิงหาคม ระหว่างวันที่ 19-25 ส.ค. สามารถจับกุมคนต่างชาติผิดกฏหมาย เป็นจำนวนมากถึง 11,275 ราย การระดมกวาดล้างอาชญากรข้ามชาติในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายโดยเฉพาะตำรวจสากล สถานทูตประเทศต่างๆ การระดมกวาดล้างของ สตม. เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปราม มิให้คนต่างชาติเข้ามากระทำผิด หรือใช้ไทยเป็นแหล่งหลบซ่อนตัวได้อีกต่อไป