เอเซอร์ส่งสินค้าใหม่กระตุ้นครึ่งปีหลัง

เอเซอร์ส่งสินค้าใหม่กระตุ้นครึ่งปีหลัง

“เอเซอร์” บุกหนักพีซีไทย พาเหรดสินค้าใหม่ 6 ซีรีส์รวดลุยเจาะลูกค้าทั่วไป-เกมเมอร์-พรีเมียม ชูจุดขายราคาหวือหวาสุดในตลาด

นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า เอเซอร์ยังคงมีแผนบุกหนักตลาดพีซีประเทศไทยต่อเนื่อง โดยกลยุทธ์จะแบ่งการทำตลาดสินค้าเป็น 3 กลุ่มชัดเจน คือ สำหรับใช้งานทั่วไป เกมมิ่ง และพรีเมียม

นอกจากนี้ ชูจุดต่างด้านคุณภาพสินค้า บริการหลังการขายดี สำคัญทำราคาซึ่งแข่งขันได้ดี

หลังจากนี้ มุ่งเพิ่มน้ำหนักการทำตลาดบนช่องทางออนไลน์และขายบนอีคอมเมิร์ซควบคู่ไปกับการสนับสนุนคู่ค้าด้านการพัฒนาด้านเพย์เมนท์ โลจิสติกส์ และสร้างความน่าเชื่อถือ สอดคล้องไปกับการทำตลาดของคู่ค้าตัวแทนจำหน่ายซึ่งที่ผ่านมายอดขายบนออนไลน์โตกว่า 2 เท่า

บริษัทคาดด้วยว่าแนวโน้มจะโตได้ระดับนี้ไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า ในแผนจากปีก่อนใช้งบการตลาดบนออนไลน์ สัดส่วน 25% ของงบรวม ปีนี้เพิ่มเป็น 25%

ล่าสุด เปิดตัวสินค้าใหม่ 6 ซีรีส์รวด ประกอบด้วย ทูอินวัน “เอเซอร์ สวิตช์ อัลฟ่า 12” ราคาเริ่มต้น 25,990 บาท โน้ตบุ๊ค เอเซอร์ เอสไปร์ อีซีรีส์ เอฟซีรีส์ และเอสซีรีส์ ราคาเริ่มต้น 12,900 บาท ออลอินวัน “เอเซอร์ เอสไปร์ ซีซีรีส์” ราคาเริ่มต้น 16,000 บาท และเดสก์ท็อป “แอสไปร์ ทีซีซีรีส์” เริ่มต้น 10,900 บาท ทุกรุ่นมาพร้อมราคาที่แข่งขันได้ดีเมื่อเทียบกับคู่แข่ง เชื่อด้วยว่าจะมีส่วนสำคัญช่วยกระตุ้นตลาดพีซีไทย

พร้อมเผยเดือนต.ค.นี้ เตรียมนำสินค้าใหม่กลุ่มสมาร์ทแกดเจ็ทสำหรับผู้ชอบเล่นกีฬาเข้าทำตลาดไทยอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ดี ภาพรวมตลาดพีซีประเทศไทยครึ่งปีแรกไม่เติบโต ด้วยผู้บริโภคชะลอการใช้จ่าย แต่มูลค่าไม่ลดลง ตลอดทั้งปีคาดว่าตลาดจะเติบโตจากปีก่อนหน้าที่มียอดขาย 2.5 ล้านเครื่องไม่เกิน 2% สัดส่วนระหว่างพีซี กับโน้ตบุ๊คใกล้เคียงกัน

โดยกลุ่มที่มีทิศทางดีคือเครื่องระดับไฮเอนด์และเกม ขณะนี้พฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มหันมาใช้เครื่องที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะกลุ่มเกมมิ่งระดับราคา 30,000 บาทขึ้นไป ซึ่งเติบโตกว่า 5% และช่วยดึงตัวยอดขายไม่ให้ตกลงไปมาก เฉพาะเอเซอร์มีสถาบันการศึกษา 2-3 แห่งติดต่อมาให้ไปช่วยทำแล็บเกมและแอนิเมชั่น ปัจจุบัน รายได้หลักยังมาจากโน้ตบุ๊คทั่วไป 80% เกมมิ่งและพรีเมียม 20%

ส่วนการแข่งขันเหลือแต่เจ้าหลักๆ โดยแต่ละรายหันมาทำตลาดสินค้าที่มีความใกล้เคียงกัน บริษัทจะพยายามนำสินค้าที่ตรงกับความต้องการเข้ามา และกำลังรีแบรนด์ให้ทันสมัยมากขึ้น

เอเซอร์ ประเมินว่า การจับจ่ายของผู้บริโภคอาจจะไม่ใช่เครื่องแรก แต่เป็นเครื่องที่ 2-3 โดยเฉลี่ยราคาเครื่องจะอยู่ที่ 1.8 หมื่นบาท

บริษัทหวังว่ารายได้รวมตลอดทั้งปี 2559 ของเอเซอร์จะเติบโตได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 10%

ข้อมูลจากบริษัทวิจัยจีเอฟเคระบุว่า เอเซอร์มีส่วนแบ่งการตลาดตลาดคอนซูเมอร์โน้ตบุ๊ค 30% ทิ้งห่างอันดับ 2 ที่ทำได้ 20.5% อันดับ 3 มี 16.3% มีส่วนแบ่งการตลาดกลุ่มทูอินวัน 49.6%