พาณิชย์ขู่จัดการเอกชน หากยังขายข้าวตัดราคา

พาณิชย์ขู่จัดการเอกชน หากยังขายข้าวตัดราคา

"ปลัดพาณิชย์" ขู่ใช้มาตรการกำหนดราคาส่งออกข้าวขั้นต่ำ เพื่อดูแลราคาข้าวให้เกษตรกร หากเอกชนยังขายข้าวตัดราคาทำเดือดร้อน

น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาข้าวในประเทศที่ปรับตัวลดลงว่า เกิดจากการขายราคาต่ำเพื่อตัดราคากันเองจนราคาข้าวในประเทศลดลง และเกษตรกรเดือดร้อน หลังมีการคาดการณ์สถานการณ์ราคาไปในทางลบ ล่าสุด ราคาข้าวเปลือกเจ้า 5% อยู่ที่ตันละ 8,400-9,000 บาท จากช่วง 2 สัปดาห์ก่อนที่ตันละ 9,200-9,300 บาท

"ไม่เข้าใจว่าทำไมคาดการณ์สถานการณ์ข้าวเลวร้าย ทั้งที่ตามข้อมูลกระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ สต๊อกข้าวโลกลดลงหมด เช่น อินเดียลดลงจาก 25 ล้านตัน เหลือ 16 ล้านตัน เวียดนามลดเป้าส่งออกข้าวปีนี้จาก 6.5 ล้านตัน เหลือ 4.75 ล้านตัน ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียจะนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้น เพราะผลผลิตในประเทศลดลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อราคาข้าวไทย" ปลัดพาณิชย์ กล่าว

ปลัดพาณิชย์ กล่าวว่า หากไม่หยุดพฤติกรรมดังกล่าว รัฐบาลอาจกำหนดราคาส่งออกข้าวขั้นต่ำ เพื่อดูแลราคาข้าวให้กับเกษตรกร ซึ่งจะนำมาใช้เป็นมาตรการสุดท้าย แต่ระหว่างนี้ อยากให้ราคาเป็นไปตามกลไกตลาดมากกว่า

ส่วนการเปิดระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล เชื่อว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการทำให้ราคาข้าวในตลาดตกต่ำ เพราะเป็นคนละตลาด โดยข้าวสต๊อกรัฐบาลเป็นข้าวเก่า มีตลาดต่างประเทศรองรับอยู่แล้ว ขณะที่ข้าวในตลาดเป็นข้าวฤดูกาลใหม่ ซึ่งทั้งโรงสี และผู้ส่งออกจะใช้เป็นเหตุอ้างว่ารัฐบาลระบายข้าวในสต๊อกปริมาณจนกดดันต่อราคาข้าวใหม่ไม่ได้ และการระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์ยืนยันว่าไม่ขายราคาต่ำแน่นอน อีกทั้ง กระทรวงฯจะเดินหน้าระบายสต๊อกข้าวต่อ ไม่ชะลอหรือยกเลิกแน่นอน

ส่วนผลผลิตข้าวเปลือกนาปีปี 59/60 ที่กำลังทยอยออกมาช่วงปลายปีนี้ และมีการคาดการณ์กันว่าผลผลิตจะมากจนส่งผลต่อจิตวิทยาในการคาดการณ์ทิศทางราคาลดลงนั้น ยืนยันว่า รัฐบาลมีแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ที่จะจำกัดการเพาะปลูก โดยจะมีผลผลิตข้าวเปลือกออกมา 27.7 ล้านตันเท่านั้น ไม่ได้มากอย่างที่คาดการณ์ อีกทั้งรัฐบาลเตรียมโครงการช่วยเหลือเกษตรกรและดูดซับผลผลิตในช่วงที่ออกมาก รวมทั้งหมด 17 โครงการ โดยมีเป้าหมายดูดผลผลิตออกจากระบบ 12 ล้านตัน ใช้เงินผ่านมาตรการเหล่านี้หลายหมื่นล้านบาท ซึ่งจะเพียงพอในการดูแลราคาข้าวให้กับเกษตรกรได้