เตือนภัย! 'ธูปไล่ยุง' จากเขมร อาจอันตรายถึงตายได้

เตือนภัย! 'ธูปไล่ยุง' จากเขมร อาจอันตรายถึงตายได้

สสจ.สุรินทร์ ออกโรงเตือนภัย "ธูปไล่ยุง" จากเขมร อาจอันตรายถึงตายได้

กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สสจ.สุรินทร์ ออกโรง เตือนภัย อันตรายจากธูปไล่ยุงของเขมร อย่างเร่งด่วน เพราะธูปไล่ยุงของเขมรเป็น สินค้าไม่ขึ้นทะเบียนซึ่งผิดกฏหมายและอาจอันตรายถึงตายได้

กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ ได้แจ้งเตือนประชาชนผ่านโซเซียลมีเดีย ข้อความว่า“เตือนภัย เร่งด่วน ธูปไล่ยุง สินค้าไม่ขึ้นทะเบียน” ผิดกฎหมายและอาจอันตรายถึงสุขภาพ คบส.สุรินทร์ ได้รับรายงานจากพื้นที่กาบเชิง ว่ามีการนำสินค้าวัตถุอันตรายไม่ได้ขึ้นทะเบียน เข้ามาทางชายแดนช่องจอม จากการลงพื้นที่เบื้องต้น พบลักษณะคล้ายธูป เบื้องต้นพบ 4 แบบบรรจุภัณฑ์ ไม่มีฉลากภาษาไทย”

ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวอย่างผลิตภัณฑ์ธูปพิษ ชนิด และยี่ห้อ ต่างๆมาให้ดู ซึ่งพบว่าเป็นสินค้าที่ยังไม่มีการขึ้นทะเบียนในประเทศไทย เป็นสินค้าที่ทะลักและนำเข้ามาจากประเทศกัมพูชา ข้างกล่องเป็นภาษาจีน และภาษาเขมร จากการสังเกต ไม่พบว่ามีการแจ้งพิษภัย หรือระบุสารเคมีที่ใช้ผลิต และไม่ระบุสถานที่ผลิตอยู่ข้างกล่อง ขณะนี้มีจำหน่ายเกลื่อนในตลาดชายแดนไทย-ช่องจอม ทั้งขายส่ง และขายปลีก ทั้งยังมีกลุ่มพ่อค้ารับไปจำหน่ายส่งต่อทั่วภาคอีสานและทั่วประเทศแล้ว มีผู้ซื้อไปจุดไหว้บูชาพระและจุดไล่ยุงด้วย นอกจากนี้ ยังมีบรรดาพ่อค้ารับไปจำหน่ายยังต่างจังหวัดต่างๆ นำไปใช้จุดไหว้พระ และจุดไล่ยุ่งเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน และคอแห้ง บางรายถึงกับต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลก็มีมีการร้องเรียนเข้ามาที่กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ เป็นจำนวนมาก

ภญ สุธิดา บุญยศ เภสัชกรชำนาญการกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า การแจ้งเตือนภัย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค ก็มีเฟสบุ๊ค แจ้งผลิตภัณฑ์ที่ต้องมีการเฝ้าระวัง ผลิตภัณฑ์อาหารและยา ที่เป็นอันตรายกับประชาชน ในส่วนการพบธูปพิษ เนื่องจากมีการร้องเรียนในพื้นที่ธูปจุดไล่ยุง ที่ไม่มีฉลากเตือนภัย และมีการนำเข้าจากประเทศกัมพูชา ก็มีการให้ข้อมูลกับสำนักงานสาธารณสุขอำเภอกาบเชิง และส่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเข้ามาตรวจพิสูจน์และตรวจสอบที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์

ต่อมา ภญ. สุธิดา บุญยศ เภสัชกรชำนาญการกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ ได้นำคณะออกตรวจสอบตามร้านค้าในตลาดเพื่อการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ พบกับนายพัฒนา ชื่นยง ผจก.ตลาดเพื่อการค้าชายแดนช่องจอม ในการตรวจร้านค้าต่างๆไม่พบที่มีการวางจำหน่ายธุปดังกล่าวแล้ว ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ จะได้ออกหนังสือให้หน่วยงานสาธารณสุขทุกอำเภอ และทุกๆพื้นที่ แจ้งเตือนประชาชน เพราะว่า ธูปไล่ยุงดังกล่าว เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความอันตราย เข้าข่าย พรบ.วัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้านเรือน ที่ต้องมีการขออนุญาตินำเข้าประเทศอย่างถูกกฏหมาย และต้องฉลากเป็นภาษาไทย ก่อนที่จะวางจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไป

ภญ. สุธิดา กล่าวว่า ขณะยังไม่ทราบสารสำคัญที่แน่นอน ต้องส่งห้องทดลองตรวจพิสูจน์ มีข้อสงสัยเนื่องจากมีผู้บริโภคบางท่าน แจ้งว่ามีการนำไปใช้แล้ว พบอาการผิดปกติ เช่นเกิดอาการอาเจียน วิงเวียน ถ้าเป็นวัตถุอันตรายต้องมีการบอกวิธีการแก้ผิดในฉลากด้วย ซึ่งผลิตภัฑณ์ดังกล่าวไม่มีบอกอะไรเลย จึงไม่รู้ว่าจะแก้พิษกันอย่างไร ต้องพิสูจน์ว่ามีสารพิษอะไร เมื่อจุดไฟถึงสามารถไล่แมลงได้ และมีพ่อค้าแม่ค้าหัวใสเดินเร่ขายในเขตพื้นที่เมืองสุรินทร์แล้ว ต่างจังหวัดทราบว่ามีรับไปจำหน่ายต่อแล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน อย่างเช่น จังหวัดกาฬสิน ธูปไล่ยุ่งมีการขายส่ง แบบยกลังและขายปลีกแบบเป็นกล่องก็มี

นายพัฒนา ชื่นยง ผจก.ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม เผยว่า ธูปไล่ยุงดังกล่าวแต่ก่อนนี้มีมาวางจำหน่ายจริง ตนเองซื้อไปในราคา3กล่อง100บาท เมื่อซื้อไปแล้วไปดูไม่เห็นมีบอกเป็นภาษาไทยเลย และมาทราบทางเฟสบุ๊คว่า ธูปไล่ยุงดังกล่าวเป็นอันตรายตนเองจึงไม่ได้ใช้ พร้อมกับส่งธูปไล่ยุงให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ เพื่อนำไปตรวจหาสารเคมีส่วนผสมต่อไป

ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ ได้นำธูปที่ผลิตจากในประเทศไทยที่มีก้านธูปสีแดง และ ธูปไล่ยุงของกัมพูชามาทดลองจุดและดมดู ธูปที่ทำในประเทศไทยจะมีกลิ่นหอมของสมุนไพร ส่วนธูปไล่ยุงของกัมพูชาจะไม่มีกลิ่น แต่จะมีสารอันตรายมากน้อยเพียงไดต้องรอการตรวจพิสูจน์อีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับแจ้งเตือนมายังปผู้ที่ซื้อธูปไล่ยุงที่ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศและมี อบ.รับรองเท่านั้น จึงจะมีความปลอดภัยมากกว่า