'ศานิตย์'แนะ'ไฟท์คลับ'คุยกกท. หาข้อสรุปชกมวยร่วมกัน

พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.น.1 กล่าวว่า วันนี้ตนได้เลื่อนนัดกลุ่ม “Fight club Thailand” ไปก่อนเนื่องจากมีภารกิจ เบื้องต้นให้ไปขอคำแนะนำจาก กกท. เพราะว่าเรื่องนี้ กกท. เขาเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง เพราะเป็นกฎหมายเฉพาะทาง ที่จริงในเรื่องนี้ถ้าหากว่าเรามีมาตรการที่จะส่งเสริม หรือที่จะคุ้มครองให้เขาได้มีกิจกรรมโดยไม่ผิดกฎหมาย โดยไม่ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย ก็เป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว วันนี้ตนสั่งให้ทางผู้เกี่ยวข้องคุยกับทาง กกท. ว่าจะหามาตรการอย่างไร ที่จะช่วยทำให้เขาสามารถทำให้ไม่ผิดกฎหมาย ในเรื่องเหล่านี้จะต้องแยกแยะให้ออกระหว่างการจัดกิจกรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีเราก็ต้องส่งเสริมสนับสนุน แต่ถ้าจัดแล้วมันเกิดปัญหาประชาชนส่วนใหญ่ซึ่งเป็นพ่อแม่พี่น้อง ซึ่งอาจจะไม่รู้ไม่เห็นไม่ทราบ เพราะกีฬาหลายๆประเภทกฎหมายก็ไม่ได้ห้าม เช่นกีฬาไทย หรือแม้แต่กีฬาสากลซึ่งมันไม่เกิดอันตราย แต่การที่จะชกมวยอย่างนี้กฎหมายกีฬามวยถึงได้ออกมาว่า ก่อนชกต้องตรวจสภาพร่างกาย ขณะชกก็ต้องมีแพทย์คอยดูแล ก็ต้องมีการประกันชีวิต ต้องมีอุปกรณ์ในการป้องกันปลอดภัย สนามมวยก็ต้องได้มาตรฐาน คือเขาใจในเจตนารมณ์ของเขา แต่เรื่องความปลอดภัยรวมถึงญาติพี่น้องประชาชนใหญ่เห็นด้วยหรือเปล่า อะไรที่เป็นสิ่งดีๆตนเชื่อว่าทุกคนให้ความสนับสนุน

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า สมมติว่ามันไม่เข้าความผิด พรบ.มวยที่อ้างว่าแข่งขันกัน ซึ่งเรื่องนี้มันยังไม่มีคำพิพากษาศาลฎีกา ตนกำลังให้เขาค้นดูว่าเป็นเรื่องของการจัดการแข่งขันกีฬามวยตาม พ.ร.บ.กีฬามวย 2542 หรือเปล่า โดยส่วนตัวคำว่าแข่งขันคือการต่อสู้ แม้จะมีผลแพ้ชนะหรือไม่ก็แล้วแต่ เมื่อมีการต่อสู้กันก็น่าจะเป็นเรื่องของการจัดการแข่งขัน เมื่อจัดการแข่งขันก็ต้องมีทุกอย่างครบถ้วนตามกี่ กกท.เขากำหนด ที่ตนบอกมีทั้งมาตรการด้านความปลอดภัย เงินรางวัลอย่างน้อยก็ต้อง 50 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งที่เขากำหนดไว้ ปกติต้องชั่งน้ำหนักและต้องใกล้เคียงกัน บางทีต่างกัน 5 กิโลกรัมก็ปล่อยให้ต่อยกัน แม้จะสู้โดยสมัครใจกันก็จริง แต่น้ำหนักรูปร่างมันห่างกัน รวมทั้งความแข็งแกร่งบางคนไม่ได้ฟิตซ้อมมา แม่ไม้มวยไทยได้เรียนรู้จากครูมวยหรือเปล่าก็ไม่รู้ เอาสนุกอย่างเดียวไม่ได้ ถ้าเกิดมันมีปัญหาแล้วมันจะทุกข์ใจไม่สบายใจ

“่ถ้าถามความเห็นส่วนตัวผมว่ามันน่าจะเข้าความผิด พรบ.มวย แต่ถ้ามันไม่เข้า มันก็มีกฎหมายอาญาถ้าทำร้ายร่างกายถึงแม้จะสมัครใจก็ตาม ซึ่งกฎหมายไม่ได้ระบุว่าสมัครใจหรือไม่สมัครใจ เหมือนนักเรียนอาชีวะตีกันเขาสมัครใจตีกัน แล้วไปโดยคนอื่นเกิดบาดเจ็บล้มตายก็มีความผิดทางอาญา คำว่าสมัครใจมันจะยกเว้นเฉพาะความผิดในทางแพ่งก็ต้องดูให้ดี แค่ดั้งจมูกหักอย่างนี้ก็เป็นอาญาแล้ว” พล.ตงท.ศานิตย์ กล่าว 

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า เชื่อไหมว่าไม่มีการพนัน ไม่มีเดิมพัน เราตั้งคำถามให้ดีๆก่อนว่าไม่มี แต่มันจะไม่มีจริงหรือเปล่า ข้อเท็จจริงเหล่านี้ตำรวจกำลังตรวจสอบ เมื่อได้ข้อเท็จจริงชัดเจนแล้วเราก็มาพิจารณาว่าเข้าข้อกฎหมาย ทั้งพ.ร.บ.มวย กฎหมายอาญา หรือกฎหมายอื่นๆอีกที ซึ่งกกท.ก็เป็นหน่วยงานที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้ ทั้งนี้เตรียมประสานทางกกท.และกลุ่มไฟต์คลับ ไทยแลนด์ มาพูดคุยเพื่อหาทางออกกรณีนี้อีกครั้ง