‘ลีสซิ่งกสิกร’ลุ้นปีนี้กำไรนิวไฮ

‘ลีสซิ่งกสิกร’ลุ้นปีนี้กำไรนิวไฮ

ลีสซิ่งกสิกร หวังกำไรปีนี้ทะลุเป้าที่ 682 ล้าน ทำสถิติสูงสุดใหม่ หลังครึ่งปีแรกฟันกำไรรวมแล้ว 335 ล้าน ผลจากสินเชื่อใหม่โตกว่า 35%

พร้อมส่งแคมเปญ “สินเชื่อรถช่วยได้กสิกรไทย แจกหนัก แจกจริง” ชิงตลาด มองครึ่งปีหลังปัจจัยบวกเพียบ

นายทวี ธีรสุนทรวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ากำไรปีนี้ไว้ที่ 682 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทะลุเป้าหมายได้และถือเป็นกำไรสูงสุดตั้งแต่เปิดบริษัทมา หลังจากที่ครึ่งปีแรกบริษัททำกำไรได้รวม 335 ล้านบาท

ช่วงครึ่งแรกปีนี้ บริษัทเติบโตดีสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 41,152 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้ว 35.31% แบ่งเป็นสินเชื่อใหม่เช่าซื้อและลีสซิ่ง 18,069 ล้านบาท เติบโต 18.31% และสินเชื่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ 23,082 ล้านบาทเติบโต 52.45% ทำให้มียอดสินเชื่อคงค้างรวม 89,346 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.50%

ดังนั้นทั้งปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายสินเชื่อใหม่ที่ 75,000 ล้านบาท เติบโต 35% จากปีก่อน และทำให้มียอดสินเชื่อคงค้างรวม 93,000 ล้านบาท เติบโต 5%

สำหรับสินเชื่อไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ครึ่งปีแรกนี้อยู่ที่ 1.54% หรือ ดีกว่าเป้าหมาย 0.36% และทั้งปีนี้น่าจะคุมได้ที่1.7% ซึ่งดีกว่าเป้าหมาย1.9% จากในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่า การเพิ่มขึ้นของเอ็นพีแอลจะเริ่มชะลอตัวลง และเริ่มเห็นสัญญาณสินเชื่อเช่าซื้อกลับมาฟื้นตัวในปีนี้หลังจากหดตัวในรอบ 2 ปีที่ผ่านมาและยอดขายรถยนต์ใหม่ฟื้นตัวชัดเจนครั้งแรกตั้งแต่เริ่มดีขึ้นปลายปี 2556 จากที่มีมาตรการรถคันแรก

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลังนี้ บริษัทยังคงรุกตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถด้วยแคมเปญการตลาดที่หลากหลายและในทุกกลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัดที่เป็นหัวเมืองหลัก และได้เน้นการทำตลาดสินเชื่อรถช่วยได้กสิกรไทยมากขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดที่ยังมีศักยภาพขยายตัวได้ มีคุณภาพหนี้ที่ดี

ล่าสุดได้เปิดตัวแคมเปญ “สินเชื่อรถช่วยได้กสิกรไทย แจกหนัก แจกจริง” แจกรถอีซูซุ 4 คัน และคูปองเติมน้ำมัน 100 รางวัล มูลค่ารวมกว่า 2.6 ล้านบาท เพียงลูกค้ามีรถยนต์ปลอดภาระ และต้องการเงินทุนหมุนเวียน สมัครใช้บริการสินเชื่อรถช่วยได้กสิกรไทย และผ่านการอนุมัติสินเชื่อ มีสิทธิ์ลุ้นรับรถกระบะ ISUZU Spark 1.9 Ddi B รวม 4 รางวัล คูปองเติมน้ำมัน PT มูลค่า 5,000 บาท รวม 100 รางวัล ตั้งแต่วันนี้ – 30 พ.ย.นี้ โดยจับรางวัลตั้งแต่ ก.ย.จนถึง ธ.ค.นี้ สมัครได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขาทั่วประเทศ

นายทวี เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังยังมีปัจจัยบวก จากร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ ความเชื่อมั่นกลับมา ปัญหาภัยแล้งที่ผ่านพ้นไป และราคาน้ำมันขยับตัวดีขึ้น ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวดีขึ้น รายได้เกษตรกรดีขึ้นด้วย รวมถึงหนี้ภาคครัวเรือนเริ่มเห็นสัญญาลดลงที่81%จากเดิม85% ในอนาคตกำลังซื้อเริ่มกลับมา ราคารถมือสองมีแนวโน้มดีขึ้น เอ็นพีแอลเก่าเริ่มลดลง ขาดทุนจากการขายรถยึดดีขึ้นเป็นตัวบวกต่อธุรกิจลีสซิ่ง

ส่วนอัตราดอกเบี้ยในประเทศทรงตัว แม้ปีหน้าจะปรับขึ้น0.25%ก็ยังไม่ฉุดกำลังซื้อรถ และรถในโครงการรถคันแรกปลดล็อก ครบกำหนด5ปีที่จะโอนกรรมสิทธิ์ได้ แม้จะมีรถที่ครบกำหนด3เดือนแรก แต่จำนวนไม่มาก ทำให้ยอดซื้อรถใหม่คงไม่มาก และคนน่าจะยังใช้รถนานขึ้นภายใต้เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่

ในส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสองในปีนี้ คาดว่า ฟื้นตัวต่อเนื่องจากครึ่งหลังของปีก่อน จากราคามือสองที่ปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่มีทิศทางถดถอยลงอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2556-2557 ทำให้ผู้ประกอบการเต็นท์รถมีความมั่นใจที่จะกลับมาสต็อกรถอีกครั้ง เช่นเดียวกับสถาบันการเงินที่มีความเชื่อมั่นในการปล่อยสินเชื่อหมุนเวียนให้กับธุรกิจเต็นท์รถในขณะที่การปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตที่มีผลตั้วแต่ต้นปี มีส่วนทำให้ราคาของรถใหม่และรถมือสองบางรุ่น มีความแตกต่างกันมากขึ้น ประกอบกับอำนาจซื้อรถยนต์ใหม่ของผู้บริโภคยังถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ความต้องการรถมือสองยังได้รับแรงหนุนจากการที่ผู้ประกอบการรถมือสองหลายราย รวมตัวกันสร้างมาตรฐานด้วยการรับประกันคุณภาพสินค้าเพื่อสร้างความเชื่อถือต่อผู้บริโภค ขณะที่ความเสี่ยงของสินเชื่อรถมือสองลดลง มีผลให้ผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อหันมาทำตลาดรถมือสองเพิ่มขึ้นเพื่อทดแทนความต้องการรถใหม่ที่ไม่มีสัญญาณฟื้นตัวติดต่อกันเป็นปีที่ 3

“ภาพธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อมีทิศทางฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดตั้งแต่กลางปี 2558 ที่ผ่านมา โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้มีโอกาสปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยประมาณ 0.5-2% จากปัจจัยหลัก คือ ยอดขายรถยนต์ที่มีโอกาสขยับขึ้นจากช่วงครึ่งแรก สถานการณ์ยึดรถที่ลดลง การชำระคืนสินเชื่อเดิมที่อยู่ในระดับค่อนข้างสูง รวมถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงต่ำในปีนี้”