ไทยศรีผนึกแอโก้ขึ้นท็อปเทน

ไทยศรีผนึกแอโก้ขึ้นท็อปเทน

ไทยศรีฯ ผนึกแอโก้กรุ๊ปเปิดตัวซีอีโอใหม่กางแผนขึ้นติด1ใน10อีก10ปีข้างหน้าชูความแข็งแกร่งด้านนอนมอเตอร์และดิจิทัลเดินหน้ารุกตลาดประกันสุขภาพ

 พร้อมใช้ไทยเป็นโมเดลเจาะตลาดCLMV หนุนเบี้ยรับ5ปีโตปีละไม่ต่ำกว่า7%แตะ4,000ล้านบาท

นายการัน  โชปรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท ไทยศรีประกันภัย เปิดเผยถึงการร่วมลงนามกับ“แอโก้กรุ๊ป”จากประเทศเยอรมันเครือมิวนิครีเป็นบริษัทประกันภัยชั้นนำจากยุโรปซึ่งมีเบี้ยประกันภัยรับที่ 7  แสนล้านบาทใน 30 ประเทศทั่วโลก เพื่อความร่วมมือในการพัฒนาศักยภาพการดำเนินธุรกิจประกันภัยโดยแผนการดำเนินงานหลังจากนี้บริษัทจะพัฒนาการการให้บริการด้วยการใช้ดิจิทัล รวมถึงปรับปรุงด้านบริการให้เหมาะสมกับทุกกลุ่มเป้าหมาย

“กลุ่มแอโก้กรุ๊ปเล็งเห็นถึงความสำคัญของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความน่าสนใจในการลงทุนเป็นอย่างมาก เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจมีทิศทางที่ดีโดยเฉพาะตลาดไทยที่จะเป็นตลาดหลักในแถบภูมิภาคนี้ จึงเลือกบริษัทไทยศรีประกันภัยเพื่อร่วมลงทุน ด้วยปัจจุบันบริษัทมีฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพในการบริหารงานด้วยแนวโน้มธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง  จำนวนพนักงานมากกว่า450คน มีจำนวนสาขาสำนักงานตัวแทนและศูนย์บริการมากกว่า133สาขาแห่งทั่วประเทศและมีความเชี่ยวชาญในการรับประกันวินาศภัย”

สำหรับการร่วมมือในครั้งนี้กลุ่มบริษัทไพลักษณ์จำกัด(ตระกูลพานิชพาชีวะ)ผู้ถือหุ้นหลักในบมจ.ไทยศรีประกันภัยได้แบ่งสัดส่วนการถือหุ้นจำนวน40.26%ให้กับกลุ่มแอโก้กรุ๊ปและผู้ถือหุ้นเดิมคือตระกูลพานิชชีวะและตระกลูศรีเฟื่องฟุ้งถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 59.74% โดยจะมีนายชาติชาย พานิชชีวะ เป็นประธานคณะกรรมการบริษัท  โดยผลการดำเนินงานในปี2558ที่ผ่านมาบริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่2,554ล้านบาทและมีกำไรสุทธิอยู่ที่452ล้านบาท  มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ20

ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหมายในช่วง5ปีข้างหน้า(2559-2563)ว่าจะมีเบี้ยประกันภัยเพิ่มขึ้นในแต่ละปีที่ประมาณ7%หรือมีเบี้ยประกันภัยประมาณ4,000ล้านบาทและตั้งเป้าติดอันดับ1ใน10ของธุรกิจประกันวินาศภัยไทยในอีก10ปีข้างหน้าทั้งทางด้านเบี้ยประกันภัยและกำไรเช่นเดียวกับในประเทศอื่นที่ประสบความสำเร็จมาแล้วใช้เวลา5-10ปี 

นายนที พาณิชชีวะ ประธานที่ปรึกษาบริษัท ไทยศรีประกันภัย กล่าวว่าในช่วง3ปีแรกจะเน้นการปรับปรุงกระบวนการภายในและอยู่ระหว่างหารือปรับเปลี่ยนชื่อบริษัทพร้อมกับพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านประกันสุขภาพรุกขยายตลาดประกันนอนมอเตอร์มากขึ้นและช่องทางขายตรงหรือดิจิทัลซึ่งแอโก้กรุ๊ปมาความชำนาญขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนาระบบการชำระเบี้ยประกันและขายประกันออนไลน์คาดว่าจะช่วยลดต้นทุนได้ด้วย

นอกจากนี้ยังวางเป้าหมายใช้ไทยเป็นโมเดลขยายในตลาดซีแอลเอ็มวีและกระจายความเสี่ยงการรับประกันภัยในภูมิภาคอาเซียนซึ่งแอโก้กรุ๊ปมีการดำเนินธุรกิจรับประกันภัยในสิงค์โปรเวียดนามอินเดียและจีนซึ่งในไทยจะมีความสามารถการรับประกันภัยขนาดใหญ่ได้มากขึ้นด้วย

“ช่วงที่เหลือปีนี้คงเป็นการปรับฐานและปรับเปลี่ยนนโยบายหลังแอโก้กรุ๊ปเข้ามาดังนั้นในแง่การเติบโตจึงเป็นเพียงรักษาการเติบโตเบี้ยประกันและกำไรไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่2,500ล้านบาทและ300ล้านบาทแต่จะเห็นการเติบโตค่อยๆดีขึ้นตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไปรวมถึงเศรษฐกิจไทยจะกลับมาฟื้นตัวเช่นกัน”