‘เถ้าแก่น้อย’โยนบิ๊กล็อตเพิ่มโฟลท

‘เถ้าแก่น้อย’โยนบิ๊กล็อตเพิ่มโฟลท

หวัง "เพิ่มสัดส่วน" นักลงทุนสถาบันต่างชาติ เดือนก.ย.เดินสายโรดโชว์กองทุนยุโรป

‘เถ้าแก่น้อย’ โยนบิ๊กล็อต 575 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 23 บาท สำรวจตั้งแต่เข้าตลาดพบรายการบิ๊กล็อต 1,466.35 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 17.24 บาท บริษัทแจงขายในตลาดตามปกติ หวังช่วยเพิ่มโฟลตแตะ 25% พร้อมชี้เป็นการรองรับนักลงทุนต่างชาติเข้าถือหุ้นเพิ่ม จากปัจจุบันอยู่ที่ 4% เตรียมเดินสายโรดโชว์ในยุโรปเดือน ก.ย. นี้

จากรายงานการซื้อขายหุ้นรายใหญ่ (Big lot) ของบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) TKN ตั้งแต่เข้าจดทะเบียน 3 ธ.ค. 2558 พบว่ามีการทำรายการแล้ว 83 รายการ มูลค่ารวม 1,466.35 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 17.24 บาท

นายคู่สูรย์ รัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) TKN กล่าวว่า การทำรายการขายหุ้นบิ๊กล็อตล่าสุดเป็นการทำรายการโดยกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของบริษัท โดยเป็นการขายให้กับ บล.เอเซียพลัส เพื่อให้ไปกระจายในตลาดอีกทอดหนึ่ง ซึ่งก็เป็นการขายออกไปตามปกติ และยังช่วยเพิ่มสภาพคล่อง (Free float) ให้ขึ้นไปแตะระดับ 25% จากปัจจุบันอยู่ที่ราว 24.8%

“การทำรายการล่าสุดนี้ไม่เจาะจงว่าจะขายให้กับใคร เป็นเพียงการขายในตลาดตามปกติ เพียงแต่ให้ บล.เอเซียพลัส ช่วยกระจายให้ในตลาด ขณะเดียวกันยังเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้กับหุ้นของบริษัทอีกด้วย ซึ่งก็เป็นการรองรับโอกาสที่นักลงทุนสถาบันต่างชาติจะเข้ามาถือหุ้นเพิ่มเติมในอนาคต เพราะที่ผ่านมาบริษัทก็ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติหลายราย”

โดยในเดือน ก.ย. นี้ บริษัทมีแผนจะเดินทางไปให้ข้อมูลกับนักลงทุนสถาบันในยุโรป โดยคาดว่าจะเดินทางไปกับ บล.ซีแอลเอสเอ (ประเทศไทย) เพื่อให้นักลงทุนชาวยุโรปรู้จักบริษัทมากยิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมาบริษัทจะเน้นให้ข้อมูลกับนักลงทุนในเอเชียและสหรัฐเป็นหลัก

“ช่วงที่บริษัทเข้าจดทะเบียนแรกๆ นั้น สัดส่วนนักลงทุนต่างชาติมีน้อยมาก แต่ปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 4% และก็ยังมีนักลงทุนรายอื่นๆ แสดงความสนใจเข้ามาเรื่อยๆ แต่จะมีการขายหุ้นรายการใหญ่แบบนี้ออกมาอีกหรือไม่คงต้องขึ้นอยู่กับการเจรจา”

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นเถ้าแก่น้อยที่ผ่านมา เปิดการซื้อขายวันแรกที่ 5.15 บาท หลังจากนั้นราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 24.7 บาท คิดเป็นการปรับตัวขึ้นกว่า 500% จากราคาเสนอขายไอพีโอที่ 4 บาท