ผู้เชี่ยวชาญ ชี้ “มัลแวร์” โปรแกรมไวรัสหลอกตู้ ATM

ผู้เชี่ยวชาญ ชี้ “มัลแวร์” โปรแกรมไวรัสหลอกตู้ ATM

ผู้เชี่ยวชาญ ชี้ “มัลแวร์” เป็นโปรแกรมไวรัส หลอกตู้ ATM มีคนกดเงิน

นายปริญญา หอมเอนก ประธานและผู้ก่อตั้งบริษัท เอซิส โปรเฟชชันแนล เซ็นเตอร์ และยังเป็นผู้ทรงคุณวุฒิกับที่ปรึกด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์หลายหน่วยงาน ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 เกี่ยวกับกรณีคนร้ายแก๊งชาวต่างชาติแฮกตู้เอทีเอ็ม ของธนารคารออมสินหลายแห่ง ทั้งกรุงเทพฯ และภาคใต้ สร้างความเสียหายกว่า 12 ล้านบาท ว่า วิธีการของแฮกเกอร์จะแฝงตัวไปที่ตู้เอทีเอ็มตอนดึก ซึ่งมีกรรมวิธีบางอย่างที่เปิดตู้เอทีเอ็ม โดยไม่ต้องใช้บัตรเอทีเอ็ม ทั้งที่ปกติการกดเงินจากบัตรเอทีเอ็มจะกดได้ครั้งละ 2 หมื่นบาท หรือบางธนาคารอาจะกดได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาท และเมื่อมีการแฮกระบบจะสามารถกดได้ถึง 4 หมื่นบาท หากทำถึง 100 ครั้ง ก็สามารถเอาเงินไปได้ 4 ล้านบาท

นายปริญญา กล่าวอีกว่า จากข้อมูลที่ทราบคือแก๊งคนร้าย จะใช้โปรแกรมมัลแวร์กับตู้เอทีเอ็มของธนารคารออมสิน ซึ่งโปรแกรมนี้ เป็นโปรแกรมไวรัส เหมือนโปรแกรมไวรัสคอมพิวเตอร์ แต่ถูกออกแบบให้ใช้เจาะระบบเฉพาะตู้เอทีเอ็มเครื่องนี้ ยี่ห้อนี้ แต่ไม่ขอเปิดเผยว่า ตู้เอทีเอ็มธนาคารออมสิน ที่ถูกก่อเหตุนั้นเป็นยี่ห้ออะไร และใช้โปรแกรมอะไร 

โดยตัวไวรัสมัลแวร์ จะเข้าไปเจาะระบบซอฟแวร์ ทำลายโปรแกรมประมวลผลของตู้เอทีเอ็ม หลอกให้โปรแกรมมีการประมวลผลว่ามีการกดเงิน ทำให้เงินไหลออกมาโดยไม่ต้องใช้บัตรเอทีเอ็ม ซึ่งเชื่อว่าธนารคารอื่นๆ ก็คงทราบแล้วว่า ตู้เอทีเอ็มที่โดนแฮกนั้นเป็นยี่ห้ออะไร และคงหาวีธีป้องกันแล้ว แต่ประชาชนไม่ต้องตกใจกับการแฮกตู้เอทีเอ็มที่เกิดขึ้น เนื่องจากเงินฝาก หรือธุรกรรมต่างๆ ของแต่ละท่ายยังคงอยู่ปกติ โดยเป็นความเสียหายโดยตรงของทางธนาคารออมสินเอง ไม่เกี่ยวกับลูกค้า ส่วนตู้เอทีเอ็มที่ถูกก่อเหตุนั้น เมื่อแก้ไขซอฟแวร์แล้วก็จะสามารถใช้ได้ปกติเหมือนเดิม